Book Summary of My Sister’s Keeper,

Book Summary of My Sister’s Keeper, by Jodi Picoult
Main characters:
Sara Fitzgerald: Mother
Brian Fitzgerald: Father
Kate Fitzgerald: Daughter and leukemia patient
Anna Fitzgerald: Daughter, sister
Jesse Fitzgerald: Son, brother
Campbell Alexander: Anna’s attorney
Readers notice early on in the novel that the narrative point of view switches between characters, and the timeline is not static. Although it primarily stays in the present, it skips to the past frequently. There is only one chapter, the epilogue, that occurs in the future.
The plot opens by introducing Anna and Kate as sisters. Kate was diagnosed with an aggressive form of leukemia in 1990 and was not responding to treatment or chemotherapy, sparking the need for her to find a suitable donor.
We then learn about Kate’s diagnosis as a baby. The story explores the fact that Anna was a “test tube baby,” conceived to fill the need for a donor to keep her sister alive. Anna is custom-made to be a perfect match for Kate’s medical needs, and from the moment Anna is born, she is pricked, prodded, and cut open in order to donate bone marrow and healthy cells to her sister.
The story then fast forwards 14 years through Kate’s illness and the life of the family. Through these years, we learn about Kate’s unending suffering, as well as the struggles that Sara and Brian face as a couple as a result of their daughter’s illness. We also get the impression that Sara is solely focused on Kate’s struggles and illness, taking attention away from her other children, Jesse and Anna (who is frequently undergoing painful and invasive procedures because of Kate).
The story takes a turn when 13-year-old Anna approaches attorney Campbell Alexander, asking him to represent her while she sues her parents for medical emancipation. Kate is in the final stages of kidney failure, and Anna does not want to give Kate her kidney. Alexander agrees to represent Anna for free.
When Sara is served with papers notifying her Anna is suing, she becomes outraged and does not understand Anna’s actions at all. However, Brian understands to an extent.
Kate becomes very ill and is hospitalized, given a week to live. The trial begins, and Sara, previously a lawyer, represents herself and Brian. During the trial, Anna admits that she filed the lawsuit because Kate asked her to, wanting to end her own suffering. Anna also admits that she does wish to have more personal freedom and cannot have that while being a donor.
After hearing testimonies from Kate and Anna’s doctors as well as Anna herself, the judge grants Anna medical emancipation, and Campbell is given medical power of attorney over her.
After the trial, on the way to the hospital to visit Kate, Campbell and Anna get into a near-fatal car accident. Anna suffers from injuries that have left her with irreversible brain damage. Campbell, who now has power of attorney, directs doctors to take her kidney and give it to Kate.
The final chapter of the book is the epilogue, narrated by Kate, years later. She discusses the extreme grief her family experienced after Anna’s death, but explains how Anna saved her, putting her in a lasting remission and how Anna will always be with her.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนังสือสรุปของผู้รักษาน้องสาวของฉัน โดยโจดี้ Picoultตัวหลัก:ห้องซาร่า: แม่ห้องไบรอัน: พ่อที่ห้องเคท: ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวและลูกสาวห้องแอนนา: ลูกสาว น้องสาวเจสซีห้อง: สน พี่ชายCampbell อเล็กซานเดอร์: ทนายของแอนนาผู้อ่านสังเกตช่วงต้นในนิยายบรรยายมองสลับไปมาระหว่างอักขระ และเส้นเวลาไม่คงที่ แม้ว่าส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน แต่ละในอดีตบ่อยครั้ง มีบทเดียวเท่านั้น วาทะ ที่เกิดขึ้นในอนาคตแผนการเปิด โดยการแนะนำเคตและแอนนากับพี่น้อง เคตได้รับการวินิจฉัยแบบก้าวร้าวของมะเร็งเม็ดเลือดขาวในปี 1990 และไม่ตอบสนองการรักษาเคมีบำบัด ประกายไฟสำหรับเธอในการค้นหาผู้บริจาคที่เหมาะสมเรานั้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวินิจฉัยเคทเป็นทารก เรื่องสำรวจความจริงที่ว่า แอนนาถูก "หลอดทดสอบเด็ก ไปเติมต้องการบริจาคให้น้องมีชีวิตอยู่ แอนนาได้ตามต้อง การตรงกับความต้องการทางการแพทย์ของ Kate และจากช่วงเวลาที่เกิดแอนนา เธอจะ pricked, prodded และตัดเปิดเพื่อบริจาคไขกระดูกและเซลล์มีสุขภาพดีเพื่อน้องเรื่องแล้วส่งต่ออย่างรวดเร็ว 14 ปีเคทป่วยและชีวิตครอบครัว ปีนี้ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับทุกข์ไม่รู้จักจบเคท เป็นที่ซาร่าและไบรอันหน้าคู่จากการเจ็บป่วยของลูกสาวของพวกเขา นอกจากนี้เรายังได้รับความประทับใจให้ซาร่าเท่านั้นเน้นย่างเคทและการเจ็บป่วย การความสนใจจากเธอเด็กอื่น ๆ เจสซีและแอนนา (ที่อยู่บ่อย ๆ ในระหว่างการรุกราน และความเจ็บปวดเนื่องจากเคต)เรื่องจะกลับมาเมื่ออายุ 13 ปีแอนนายื่นอัยการ Campbell อเล็กซานเดอร์ ถามเขาถึงเธอขณะที่เธอ sues ผู้ปกครองของเธอสำหรับการปลดแอกทางการแพทย์ เคทเป็นขั้นตอนสุดท้ายของไตล้มเหลว และแอนนาไม่อยากให้ไตของเธอเคท อเล็กซานเดอร์ตกลงการแสดงแอนนาฟรีเมื่อซาร่าถูกเสิร์ฟพร้อมเอกสารที่แจ้งให้เธอทราบแอนนาได้ฟ้องร้อง เธอกลายเป็น outraged และไม่เข้าใจการกระทำของแอนนาเลย อย่างไรก็ตาม ไบรอันเข้าใจขอบเขตการเคทจะป่วยมาก และจะ พัก กำหนดสัปดาห์อยู่ เริ่มต้นการทดลอง และซาร่า ก่อนหน้านี้ทนายความ แทนตัวเองและไบรอัน ในระหว่างการทดลอง แอนนายอมรับว่า เธอยื่นคดีเนื่องจากเคตถามเธอ อยากจบทุกข์ของตนเอง แอนนายังยอมรับว่า เธอต้องการมีเสรีภาพส่วนบุคคลมากขึ้น และไม่มีที่ก็ เป็นผู้บริจาคหลังจากได้ยินคำจากเคต และแอนนาแพทย์ เป็นแอนนาตัวเอง ผู้พิพากษาให้เลิกทาสแพทย์แอนนา และ Campbell ได้แพทย์อำนาจเหนือเธอหลังจากทดลอง ทางโรงพยาบาลไปเคท Campbell และแอนนารับเป็นอุบัติเหตุรถใกล้ร้ายแรง แอนนา suffers จากการบาดเจ็บที่ได้ทิ้งเธอกับสมองให้ Campbell ที่ตอนนี้ มีอำนาจ การชักจูงแพทย์ไตของเธอ และให้เคทบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้เป็นวาทะ เล่าเรื่อง โดยเคท ปี เธอกล่าวถึงความเศร้าโศกมากครอบครัวของเธอมีประสบการณ์หลังความตายแอนนา แต่อธิบายวิธีบันทึกแอนนาเธอ ให้เธอในการปลดถาวรและวิธีแอนนาเสมอจะ มีเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนังสือบทสรุปของการรักษาน้องสาวของฉันโดย Jodi Picoult
ตัวละครหลัก:
ซาร่าฟิตซ์เจอรัลด์:
แม่ไบรอันฟิตซ์เจอรัลด์: พ่อเคทฟิตซ์เจอรัลด์: ลูกสาวและมะเร็งเม็ดเลือดขาวของผู้ป่วยแอนนาฟิตซ์เจอรัลด์: ลูกสาวน้องสาวเจสฟิตซ์เจอรัลด์: บุตรพี่ชายของแคมป์เบลอเล็กซานเด: ทนายความแอนนาผู้อ่านสังเกตเห็นในช่วงต้น นวนิยายที่จุดของมุมมองการเล่าเรื่องสลับระหว่างตัวอักษรและระยะเวลาไม่คงที่ แม้ว่ามันจะเป็นหลักอยู่ในปัจจุบันก็ข้ามไปในอดีตที่พบบ่อย มีเพียงหนึ่งบทวรรณกรรมที่เกิดขึ้นในอนาคต. พล็อตจะเปิดขึ้นโดยการแนะนำแอนนาและเคทเป็นน้องสาว เคทได้รับการวินิจฉัยที่มีรูปแบบที่ก้าวร้าวของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในปี 1990 และได้รับการไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดหรือเกิดประกายไฟความจำเป็นสำหรับเธอที่จะหาผู้บริจาคที่เหมาะสม. จากนั้นเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวินิจฉัยของเคทเป็นทารก เรื่องสำรวจความจริงที่ว่าแอนนาเป็น "หลอดทดลองทารก" คิดที่จะเติมเต็มความต้องการสำหรับผู้บริจาคที่จะให้น้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่ แอนนาจะทำเองที่จะเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับความต้องการทางการแพทย์ของเคทและจากช่วงเวลาแอนนาจะเกิดเธอ pricked, แหย่และตัดเปิดเพื่อที่จะบริจาคไขกระดูกและเซลล์ที่มีสุขภาพดีให้กับน้องสาวของเธอ. เรื่องที่แล้วไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว 14 ปีที่ผ่านมาการเจ็บป่วยของเคทและการใช้ชีวิตของครอบครัว ผ่านปีเหล่านี้เราเรียนรู้เกี่ยวกับความทุกข์ไม่รู้จักจบของเคทเช่นเดียวกับการต่อสู้ที่ใบหน้าของซาร่าและไบรอันเป็นคู่เป็นผลมาจากการเจ็บป่วยลูกสาวของพวกเขา นอกจากนี้เรายังได้รับความประทับใจที่ซาร่าจะเน้น แต่เพียงผู้เดียวในการต่อสู้ของเคทและการเจ็บป่วยที่เกิดความสนใจไปจากเด็กคนอื่น ๆ ของเธอเจสและแอนนา (ซึ่งมักอยู่ระหว่างขั้นตอนการเจ็บปวดและรุกรานเพราะเคท). เรื่องที่เกิดเทิร์นเมื่อ 13 ปี -old วิธีแอนนาเบลอเล็กซานเดทนายความขอให้เขาเป็นตัวแทนของเธอขณะที่เธอฟ้องพ่อแม่ของเธอสำหรับการปลดปล่อยทางการแพทย์ เคทอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของไตล้มเหลวและแอนนาไม่ได้ต้องการที่จะให้เคทไตของเธอ อเล็กซานเดตกลงที่จะเป็นตัวแทนของแอนนาฟรี. เมื่อซาร่าเสิร์ฟพร้อมกับเอกสารแจ้งแอนนาเธอจะฟ้องเธอกลายเป็นโกรธและไม่เข้าใจการกระทำของแอนนาที่ทุกคน แต่ไบรอันเข้าใจในขอบเขต. เคทกลายเป็นป่วยมากและมีการรักษาในโรงพยาบาลให้เป็นสัปดาห์ที่จะมีชีวิตอยู่ การพิจารณาคดีเริ่มต้นและซาร่าก่อนหน้านี้ทนายความที่เป็นตัวแทนของตัวเองและไบรอัน ระหว่างการพิจารณาคดีแอนนายอมรับว่าเธอยื่นฟ้องเพราะเคทขอให้เธออยากที่จะยุติความทุกข์ทรมานของเธอเอง แอนนายังยอมรับว่าเธอไม่ต้องการที่จะมีเสรีภาพส่วนบุคคลมากขึ้นและสามารถไม่ได้ว่าในขณะที่เป็นผู้บริจาค. หลังจากประจักษ์พยานได้ยินจากเคทและแพทย์แอนนาเช่นเดียวกับแอนนาตัวเองผู้พิพากษาอนุญาตให้ปลดปล่อยทางการแพทย์แอนนาและแคมป์เบลจะได้รับอำนาจทางการแพทย์ของทนายความ เธอ. หลังจากการพิจารณาคดีทางไปโรงพยาบาลเพื่อเข้าชมเคทแคมป์เบลและแอนนาได้รับในอุบัติเหตุทางรถยนต์ใกล้ตาย แอนนาได้รับความทุกข์จากการบาดเจ็บที่เหลือของเธอกับความเสียหายของสมองกลับไม่ได้ แคมป์เบลที่ตอนนี้มีหนังสือมอบอำนาจนำแพทย์ที่จะใช้เวลาของเธอและไตให้แก่เคท. บทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้เป็นวรรณกรรมที่เล่าเรื่องโดยเคทปีต่อมา เธอกล่าวถึงความเศร้าโศกมากครอบครัวของเธอมีประสบการณ์หลังจากการตายของแอนนา แต่แอนนาอธิบายถึงวิธีการช่วยเธอวางของเธอในการให้อภัยที่ยั่งยืนและวิธีการที่แอนนาจะอยู่กับเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนังสือบทสรุปของผู้รักษาประตูของน้องสาวของฉันโดยโจดี้ picoult

ตัวละครหลัก : ซาร่าฟิตซ์เจอรัลด์ : แม่
ไบรอันฟิตซ์เจอรัลด์ : พ่อ
เคทฟิตซ์เจอรัลด์ : ลูกสาวและอดทน
ลูคีเมียแอนนาฟิตซ์เจอรัลด์ : ลูกสาว , น้องสาว
เจสซี่ฟิตซ์เจอรัลด์ : ลูกชาย น้องชาย
แคมป์เบลล์อเล็กซานเดอร์ : แอนนาทนาย
ผู้อ่านสังเกตเห็นในช่วงต้นของนวนิยายที่จุด การเล่าเรื่องในมุมมองของสวิตช์ระหว่างตัวอักษรและเวลาไม่ใช่สิ่งคงที่ถึงแม้ว่ามันเป็นหลักอยู่ในปัจจุบัน ข้ามไปยังอดีตบ่อย มีเพียงหนึ่งบท บทส่งท้าย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
พล็อตเปิดโดยการแนะนำ แอนนา และ เคท เป็นพี่น้องกัน เคท ถูกวินิจฉัยว่าเป็นรูปแบบของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวก้าวร้าวในปี 1990 และไม่ตอบสนองกับการรักษา หรือ เคมีบำบัด จุดประกายความต้องการของเธอที่จะหาผู้บริจาคที่เหมาะสม .
เราก็เรียนเกี่ยวกับการวินิจฉัยของเคทเป็นเด็ก เรื่องพิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่า แอนนา " เด็กหลอดแก้ว " ขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการสำหรับผู้บริจาคเพื่อให้น้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่ แอนนาเป็น custom-made เป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับความต้องการทางการแพทย์ของเคท และจากเวลาที่แอนนาจะเกิด เธอแทง prodded และผ่าเพื่อบริจาคไขกระดูก และเซลล์ที่มีสุขภาพ
กับน้องสาวของเธอเรื่องราวจากนั้นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว 14 ปีผ่าน เคทก็เจ็บป่วย และชีวิตของครอบครัว ผ่านปีเหล่านี้ เราได้เรียนรู้เรื่องของเคทที่ไม่สิ้นสุด ทุกข์ ตลอดจนการต่อสู้ที่ซาร่าและไบรอัน เป็นคู่หน้า เป็นผลมาจากการเจ็บป่วยของลูก นอกจากนี้เรายังได้รับความประทับใจที่ซาร่าจะเน้น แต่เพียงผู้เดียวในเคทดิ้นรน และเจ็บป่วย เอาความสนใจไปจากเด็กอื่น ๆของเธอเจสซีและแอนนา ( ใคร เป็น บ่อย ดำเนินการขั้นตอนที่เจ็บปวดและรุกรานเพราะเคท ) .
เรื่องราวเริ่มเมื่ออายุ 13 ปี แอนนาวิธีทนายความแคมป์เบลล์อเล็กซานเดอร์ ถามว่า เขาเป็นตัวแทนของเธอขณะที่เธอฟ้องพ่อแม่ของเธอเพื่อการปลดปล่อยทางการแพทย์ เคทเป็นไตวายขั้นสุดท้าย และแอนนา ไม่ได้อยากให้เคทไตของเธออเล็กซานเดอร์ ตกลงที่จะเป็นตัวแทนของแอนนา ฟรี .
เมื่อซาร่าเสิร์ฟพร้อมเอกสารแจ้งเธอ แอนนา จะฟ้อง เธอกลายเป็นโมโหและไม่เข้าใจการกระทำของ แอนนา ที่ทั้งหมด แต่ไบรอันเข้าใจขอบเขต .
เคทกลายเป็นป่วยและเข้าโรงพยาบาลให้อาทิตย์อยู่ การทดลองเริ่มต้นและซาร่า ก่อนหน้านี้ทนายความ เป็นตัวแทนของตัวเองและไบรอัน ในระหว่างการพิพากษาแอนนา ยอมรับว่าเธอยื่นฟ้องเพราะเคทถามเธอ ต้องการที่จะยุติความเจ็บปวดของเธอเอง แอนนายังยอมรับว่าเธอต้องการที่จะมีเสรีภาพส่วนบุคคลมากขึ้นและไม่มีในขณะที่เป็นผู้บริจาค
หลังจากได้ยินโอวาทจากเคทและแพทย์ของแอนนาเป็นแอนนาเอง ผู้พิพากษาอนุญาตให้ปลดปล่อยทางการแพทย์แอนนาและแคมป์เบลได้รับการแพทย์อํานาจเหนือเธอ .
หลังจากการพิจารณาคดี , ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมชม เคท แคมป์เบลล์ และแอนนาไปใกล้รถอุบัติเหตุที่ร้ายแรง แอนนาทนทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บที่ต้องทิ้งเธอกับสมองได้ แคมป์เบล ซึ่งขณะนี้มีหนังสือมอบอำนาจ นําแพทย์เพื่อรับไตของเธอให้กับเคท .
บทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้คือบทส่งท้าย , เล่าเรื่องโดยเคท ปีต่อมาเธอกล่าวถึงความเศร้าโศกมากครอบครัวที่มีประสบการณ์หลังความตายของแอนนา แต่อธิบายว่า แอนนา ช่วยเธอ ให้เธอใน remission ยาวนานแล้วแอนนาก็จะอยู่กับเธอ