The Centers for Disease Control and

The Centers for Disease Control and Prevention10 define VAP by using a combination of radiological, clinical, and laboratory criteria. VAP is suspected when a patient receiving mechanical ventilation has evidence of a new or progressive pulmonary infiltrate along with fever, leukocytosis ,and purulent tracheobronchial secretions. Pneumonia is considered ventilator associated if the patient was intubated and receiving mechanical ventilation at the time of or within 48 hours before the onset of infection. According to an expert panel from the American Thoracic Society,11 placement of an endotracheal tube can potentially increase the risk of VAP 6- to 20-fold in patients treated with mechanical ventilation. For VAP to develop, microorganisms must gain access to the normally sterile lower part of the respiratory tract. Critically ill patients are at risk for microorganisms getting into the lower part of the tract because these patients have a depressed level of consciousness and an impaired gag reflex, which may lead to pooling of approximately 100 to 150 mL of contaminated secretions within the oropharynx within a 24-hour period. Placement of an endotracheal tube impedes the body’s natural defense against infection by negating effective cough reflexes and mucocilliary clearance of secretions.12 Impairment of the cough reflex, accumulation of contaminated secretions within the oropharynx, and placement of an endotracheal tube substantially increase the risk for VAP in critically ill patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศูนย์ควบคุมโรคและ Prevention10 กำหนด VAP โดยใช้การรวมกันของรังสีคลินิกและเกณฑ์การตรวจทางห้องปฏิบัติการ VAP เป็นผู้ต้องสงสัยเมื่อผู้ป่วยที่ได้รับเครื่องช่วยหายใจที่มีหลักฐานของปอดใหม่หรือก้าวหน้าแทรกซึมเข้าไปพร้อมกับไข้ leukocytosis และหนองหลั่ง tracheobronchial โรคปอดบวมถือว่าเป็นเครื่องช่วยหายใจที่เกี่ยวข้องกันหากผู้ป่วยได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจและรับเครื่องช่วยหายใจในขณะที่หรือภายใน 48 ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มมีอาการของการติดเชื้อ ตามที่คณะผู้เชี่ยวชาญจาก American Thoracic Society, 11 ตำแหน่งของท่อช่วยหายใจอาจจะเพิ่มความเสี่ยงของ VAP 6 ถึง 20 เท่าในผู้ป่วยที่รับการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจ สำหรับ VAP การพัฒนาจุลินทรีย์ที่จะต้องได้รับการเข้าถึงส่วนล่างผ่านการฆ่าเชื้อตามปกติของระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยหนักมีความเสี่ยงสำหรับจุลินทรีย์ที่ได้รับในส่วนล่างของระบบทางเดินเพราะผู้ป่วยเหล่านี้มีระดับความสุขของการมีสติและปิดปากสะท้อนความบกพร่องซึ่งอาจนำไปสู่​​การร่วมกันประมาณ 100-150 มิลลิลิตรหลั่งปนเปื้อนภายใน oropharynx ภายใน ระยะเวลา 24 ชั่วโมง การวางตำแหน่งของท่อช่วยหายใจติดขัดป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายต่อการติดเชื้อโดยกวนตอบสนองไอที​​่มีประสิทธิภาพและการกวาดล้าง mucocilliary ของการด้อยค่าของ secretions.12 สะท้อนไอ, การสะสมของสารคัดหลั่งปนเปื้อนภายใน oropharynx และตำแหน่งของท่อช่วยหายใจอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ VAP ในผู้ป่วยที่ป่วยหนัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศูนย์ควบคุมโรคและ prevention10 กำหนดแว็ปโดยใช้การรวมกันของรังสีวิทยาคลินิก และเกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ แว๊บสงสัยเมื่อผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจ มีหลักฐาน มีเม็ดเลือดขาวมากเกินใหม่ หรือโปรเกรสซีฟปอดแทรกพร้อมกับไข้ และเป็นหนอง tracheobronchial หลั่ง .โรคปอดบวมเป็นช่องลมที่เกี่ยวข้อง ถ้าผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา หรือภายใน 48 ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มมีอาการของการติดเชื้อ ตามผู้เชี่ยวชาญแผงจากสังคมอเมริกัน thoracic 11 ตำแหน่งของคาท่ออาจเพิ่มความเสี่ยงของแว็ป 6 - 20 เท่าในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจ .สำหรับแว็ปพัฒนาจุลินทรีย์ต้องเข้าถึงส่วนปกติปลอดเชื้อกว่าของทางเดินหายใจ ผู้ป่วยวิกฤตที่มีความเสี่ยงจุลินทรีย์เข้าไปในส่วนล่างของระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีระดับความสุขของจิตสำนึกและบกพร่องปิดปากทันทีซึ่งอาจนำไปสู่การประมาณ 100 ถึง 150 มิลลิลิตรปนเปื้อนหลั่งภายในคอหอยส่วนปาก ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง การจัดวางของคาท่อขัดขวางการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายต่อการติดเชื้อโดย negating reflexes การไออย่างมีประสิทธิภาพ และเคลียร์ mucocilliary ของ secretions.12 บกพร่องของอาการไอ การสะสมของการหลั่งภายในคอหอยส่วนปากปนเปื้อน ,และการจัดวางของคาท่อมากเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ vap ในผู้ป่วยวิกฤต .