The logical and physical design for

The logical and physical design for the data warehouse. You then define:

1. The specific data content 2. Relationships within and between groups of data 3. The system environment supporting your data warehouse 4. The data transformations required 5. The frequency with which data is refreshed

The logical design is more conceptual and abstract than the physical design. In the logical design, you look at the logical relationships among the objects. In the physical design, you look at the most effective way of storing and retrieving the objects as well as handling them from a transportation and backup/recovery perspective.

Orient your design toward the needs of the end users. End users typically want to perform analysis and look at aggregated data, rather than at individual transactions. However, end users might not know what they need until they see it. In addition, a well-planned design allows for growth and changes as the needs of users change and evolve.

Creating a Logical Design

A logical design is conceptual and abstract. You do not deal with the physical implementation details yet. You deal only with defining the types of information that you need.

One technique you can use to model your organization's logical information requirements is entity-relationship modelling. Entity-relationship modelling involves identifying the things of importance (entities), the properties of these things (attributes), and how they are related to one another (relationships).

The process of logical design involves arranging data into a series of logical relationships called entities and attributes. An entity represents a chunk of information. In relational databases, an entity often maps to a table. An attribute is a component of an entity that helps define the uniqueness of the entity. In relational databases, an attribute maps to a column.

A unique identifier is something you add to tables so that you can differentiate between the same items when it appears in different places. In a physical design, this is usually a primary key.

While entity-relationship diagramming has traditionally been associated with highly normalized models such as OLTP applications, the technique is still useful for data warehouse design in the form of dimensional modelling. In dimensional modelling, instead of seeking to discover atomic units of information (such as entities and attributes) and all of the relationships between them, you identify which information belongs to a central fact table and which information belongs to its associated dimension tables. You identify business subjects or fields of data, define relationships between business subjects, and name the attributes for each subject.

Logical design should result in (1) a set of entities and attributes corresponding to fact tables and dimension tables and (2) a model of operational data from your source into subjectoriented information in your target data warehouse schema.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ออกทางตรรกะ และทางกายภาพในคลังสินค้าของข้อมูล คุณแล้ว:

1 เนื้อหาข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง 2 ความสัมพันธ์ภายใน และ ระหว่างกลุ่มของข้อมูล 3 ระบบสิ่งแวดล้อมสนับสนุนข้อมูลคลังสินค้า 4 การแปลงข้อมูลที่ต้องการ 5 ความถี่ที่มีฟื้นฟูข้อมูล

การออกแบบเชิงตรรกะเป็นนามธรรมมากกว่าการออกแบบทางกายภาพ และแนวคิดมากขึ้น ในการออกแบบเชิงตรรกะ คุณมองหาความสัมพันธ์เชิงตรรกะระหว่างวัตถุ ในการออกแบบทางกายภาพ คุณค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของการจัดเก็บ และเรียกวัตถุ ตลอดจนจัดการพวกเขาจากการเดินทางและสำรอง/กู้คืนมุมมอง

โอเรียนท์ออกแบบต่อความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้โดยทั่วไปต้องการทำการวิเคราะห์ และมองไปที่รวมข้อมูล แทน ที่แต่ละธุรกรรม อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อาจไม่รู้สิ่งที่พวกเขาต้องจนกว่าพวกเขาเห็นได้ ออกแบบวางแผนไว้อย่างดีช่วยให้การเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลง ตามความต้องการของผู้ใช้เปลี่ยนแปลง และพัฒนา

สร้างแบบตรรกะ

แบบตรรกะเป็นนามธรรม และแนวคิด คุณไม่จัดการกับรายละเอียดการดำเนินการจริงยัง คุณจัดการกับการกำหนดชนิดของข้อมูลที่คุณต้องการเท่านั้น

เทคนิคหนึ่งที่คุณสามารถใช้แบบจำลองความต้องการข้อมูลเชิงตรรกะขององค์กรเป็นแบบจำลองความสัมพันธ์เอนทิตี แบบจำลองความสัมพันธ์เอนทิตีเกี่ยวข้องกับการระบุกิจกรรมสำคัญ (ตี), คุณสมบัติของสิ่งเหล่านี้ (คุณลักษณะ), และวิธีที่เกี่ยวข้องอื่น (ความสัมพันธ์)

กระบวนการออกแบบเชิงตรรกะเกี่ยวข้องกับการจัดเรียงข้อมูลเป็นชุดของความสัมพันธ์ทางตรรกะที่เรียกว่าเอนทิตีและแอตทริบิวต์ เอนทิตีหมายถึงกลุ่มของข้อมูล ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ทิมักแผนที่ตาราง แอตทริบิวต์ที่เป็นส่วนประกอบของเอนทิตีที่ช่วยกำหนดเอกลักษณ์ของเอนทิตี ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ แอตทริบิวต์แมปกับคอลัมน์

ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันเป็นสิ่งที่คุณเพิ่มในตารางเพื่อให้คุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่างสินค้าเหมือนกันเมื่อปรากฏในสถานต่าง ๆ ในการออกแบบทางกายภาพ อยู่ปกติเป็นหลักคีย์

ขณะสร้างไดอะแกรมความสัมพันธ์เอนทิตีซึ่งได้เชื่อมโยงกับแบบจำลองมาตรฐานสูงเช่นงาน OLTP เทคนิคการใช้ยังคงออกแบบคลังข้อมูลในรูปแบบของแบบจำลองมิติ ในมิติแบบจำลอง แทนที่จะแสวงหาการค้นพบอะตอมหน่วยของข้อมูล (เช่นเอนทิตีและแอตทริบิวต์) ของความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา คุณระบุข้อมูลที่เป็นจริงกลางตารางและข้อมูลที่อยู่ในตารางมิติสัมพันธ์ของ คุณระบุเรื่องธุรกิจหรือเขตข้อมูลของข้อมูล กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างวิชาธุรกิจ และชื่อแอตทริบิวต์สำหรับเรื่องละกัน

ออกแบบตรรกะควรทำ (1) ชุดของเอนทิตีและแอตทริบิวต์ที่สอดคล้องกับตารางข้อเท็จจริง และตารางมิติ และ (2) แบบจำลองข้อมูลการดำเนินงานจากแหล่งใน subjectoriented ข้อมูลใน schema ของคลังสินค้าข้อมูลเป้าหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การออกแบบตรรกะและทางกายภาพสำหรับคลังข้อมูล จากนั้นคุณกำหนด: 1 เนื้อหาข้อมูลเฉพาะ 2. ความสัมพันธ์ภายในและระหว่างกลุ่มของข้อมูล 3. สภาพแวดล้อมของระบบคลังข้อมูลสนับสนุนของคุณ 4. การแปลงข้อมูลที่ต้องการ 5. ความถี่ที่ข้อมูลมีการรีเฟรชออกแบบตรรกะเป็นแนวคิดและนามธรรมกว่าการออกแบบทางกายภาพ ในการออกแบบตรรกะคุณดูที่ความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุตรรกะ ในการออกแบบทางกายภาพคุณดูที่วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของการจัดเก็บและเรียกวัตถุเช่นเดียวกับการจัดการพวกเขาจากการขนส่งและมุมมองสำรอง / กู้คืนทิศทางการออกแบบของคุณที่มีต่อความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้มักจะต้องการที่จะดำเนินการวิเคราะห์และดูที่ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมากกว่าที่ทำธุรกรรมแต่ละ อย่างไรก็ตามผู้ใช้อาจไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการจนกว่าพวกเขาจะเห็นมัน นอกจากนี้การออกแบบที่ดีจะช่วยให้การวางแผนสำหรับการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้ใช้ที่มีการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการการสร้างการออกแบบตรรกะการออกแบบตรรกะและความคิดที่เป็นนามธรรม คุณไม่จัดการกับรายละเอียดการดำเนินการทางกายภาพยัง คุณจัดการกับการกำหนดประเภทของข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องมีเทคนิคหนึ่งที่คุณสามารถใช้เพื่อจำลองความต้องการข้อมูลตรรกะขององค์กรของคุณเป็นแบบจำลองสัมพันธ์เอนทิตี การสร้างแบบจำลององค์กรความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับการระบุสิ่งที่มีความสำคัญ (หน่วยงาน), คุณสมบัติของสิ่งเหล่านี้ (คุณลักษณะ) และวิธีการที่พวกเขาจะเกี่ยวข้องกับอีกคนหนึ่ง (ความสัมพันธ์) กระบวนการของการออกแบบตรรกะที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่จัดเป็นชุดของความสัมพันธ์ที่เรียกว่าตรรกะ หน่วยงานและคุณลักษณะ นิติบุคคลที่เป็นตัวแทนของก้อนข้อมูล ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์องค์กรมักจะแมปไปยังตาราง คุณลักษณะที่เป็นองค์ประกอบขององค์กรที่จะช่วยให้กำหนดเอกลักษณ์ของนิติบุคคล ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แอตทริบิวต์คอลัมน์แผนที่เพื่อระบุที่ไม่ซ้ำกันเป็นสิ่งที่คุณเพิ่มไปยังตารางเพื่อให้คุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่างรายการเดียวกันเมื่อมันปรากฏขึ้นในสถานที่ที่แตกต่างกัน ในการออกแบบทางกายภาพนี้มักจะเป็นคีย์หลักในขณะที่การสร้างไดอะแกรมนิติบุคคลที่ความสัมพันธ์มีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบปกติสูงเช่นโปรแกรม OLTP เทคนิคยังคงมีประโยชน์สำหรับการออกแบบคลังข้อมูลในรูปแบบของการสร้างแบบจำลองมิติ ในการสร้างแบบจำลองมิติแทนการพยายามที่จะค้นพบหน่วยอะตอมของข้อมูล (เช่นหน่วยงานและคุณลักษณะ) และทั้งหมดของความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาให้คุณระบุข้อมูลที่เป็นตารางความจริงกลางและข้อมูลที่เป็นตารางมิติที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถระบุวิชาธุรกิจหรือสาขาของข้อมูลที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างวิชาธุรกิจและชื่อแอตทริบิวต์สำหรับแต่ละเรื่องการออกแบบตรรกะจะส่งผลให้ใน (1) ชุดของหน่วยงานและคุณสมบัติสอดคล้องกับความเป็นจริงตารางและตารางมิติและ (2) รูปแบบการ ของข้อมูลการดำเนินงานจากแหล่งข้อมูลของคุณลงในเป้าหมาย subjectoriented คีคลังข้อมูลของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การออกแบบเชิงตรรกะและทางกายภาพสำหรับข้อมูลคลังสินค้า แล้วคุณนิยาม :

1 ข้อมูลเฉพาะเนื้อหา 2 . ความสัมพันธ์ภายในและระหว่างกลุ่มของข้อมูล 3 . ระบบสิ่งแวดล้อมสนับสนุนข้อมูลคลังสินค้า 4 . การแปลงข้อมูลที่ต้องการ 5 . ความถี่ที่ข้อมูลจะสดชื่น

ตรรกะการออกแบบเป็นนามธรรมกว่าแนวคิดและการออกแบบทางกายภาพ ในการออกแบบตรรกะคุณดูเหตุผลความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุ ในการออกแบบทางกายภาพ คุณดูที่วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของการจัดเก็บและเรียกคืนวัตถุเช่นเดียวกับการจัดการของพวกเขาจากการเดินทางและสำรอง / กู้คืนมุมมอง

Orient ออกแบบตามความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้มักจะต้องการดำเนินการวิเคราะห์และมองรวมข้อมูลมากกว่าการทำธุรกรรมแต่ละ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อาจจะไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการจนกว่าพวกเขาจะเห็นมัน นอกจากนี้ แผนได้รับการออกแบบเป็นอย่างดีช่วยให้เจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของผู้ใช้เปลี่ยนและพัฒนา



สร้างการออกแบบตรรกะการออกแบบเชิงตรรกะและเป็นแนวคิดนามธรรม คุณไม่จัดการกับการดำเนินงานทางกายภาพรายละเอียดเลยคุณจัดการกับการกำหนดชนิดของข้อมูลที่คุณต้องการ

เทคนิคหนึ่งที่คุณสามารถใช้กับรูปแบบขององค์กรทางตรรกะข้อมูลความต้องการมีความสัมพันธ์แบบเอนทิตี . แบบจำลองความสัมพันธ์เอนทิตีที่เกี่ยวข้องกับการระบุสิ่งที่สำคัญ ( นิติบุคคล ) , คุณสมบัติของสิ่งเหล่านี้ ( คุณลักษณะ ) และวิธีการที่พวกเขาเกี่ยวข้องกับอีกคน

( ความสัมพันธ์ )ขั้นตอนการออกแบบเชิงตรรกะเกี่ยวข้องกับการจัดเรียงข้อมูลเป็นชุดของตรรกะความสัมพันธ์ที่เรียกว่านิติบุคคลและแอตทริบิวต์ นิติบุคคลหมายถึงเนื้อข้อมูล ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ องค์กรมักจะแผนที่ตาราง แอตทริบิวต์เป็นส่วนประกอบขององค์กรที่ช่วยกำหนดเอกลักษณ์ของกิจการ ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ , คุณลักษณะแผนที่คอลัมน์ .

ตัวระบุเป็นสิ่งที่คุณเพิ่มตารางเพื่อให้คุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่างรายการเดียวกันเมื่อมันปรากฏในสถานที่ที่แตกต่างกัน ในการออกแบบทางกายภาพ นี้มักจะเป็นคีย์หลัก ในขณะที่การสร้างแผนภาพความสัมพันธ์เอนทิตี

มีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานสูงเช่นการใช้งานแบบ OLTPเทคนิคยังคงเป็นประโยชน์สำหรับการออกแบบคลังข้อมูลในรูปแบบของการสร้างมิติ ในการสร้างแบบจำลองมิติ แทนการค้นพบอะตอมหน่วยของข้อมูล ( เช่นองค์กรและคุณลักษณะ ) และทั้งหมดของความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา คุณระบุข้อมูลเป็นตารางข้อเท็จจริงและข้อมูลกลางซึ่งเป็นของที่เชื่อมโยงมิติตารางคุณสามารถระบุวิชาธุรกิจ หรือ สาขาข้อมูล การกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างวิชาธุรกิจและชื่อแอตทริบิวต์สำหรับแต่ละเรื่อง ตรรกะการออกแบบ

น่าจะมี ( 1 ) ชุดขององค์กรและคุณลักษณะที่สอดคล้องกับความเป็นจริง และตารางและตารางมิติ ( 2 ) รูปแบบการดำเนินงานข้อมูลจากแหล่งข้อมูลใน schema ของคุณลงใน subjectoriented คลังสินค้า ข้อมูลเป้าหมาย