We focus our analysis on whether st

We focus our analysis on whether states engage in actions to mask the size of pension funding gaps and thus reduce the size
of pension contributions during periods of fiscal stress and whether there are economic outcomes associated with those actions.
Pension obligations are among the largest obligations states face, and taking accounting actions to improve the funded status of
these obligations may reduce a state's expenditures on pensions and provide states with the flexibility to avoid raising taxes or
cutting entitlement programs during economic downturns. However, using accounting discretion to reduce funding gaps is
likely to result in an understated cost of labor being reflected in the state's accounting system. This is particularly important as
the information that is generated by the states’ accounting system serves as inputs into states' budgets, appropriations, and
other control mechanisms. When an accounting system understates the costs associated with pension benefits, states may
invest more in labor, as the “true-cost” of each worker is not reflected in the decision-maker's information set.
We argue that there are several elements of GASB pension reporting rules that allow states to understate their pension
funding gaps, and thus lower their annual pension related expenditures.4 In particular, governmental entities discount
future pension benefits using the expected investment return on assets held in the pension trust and have the discretion to
amortize investment gains and losses over future reporting periods. Jointly, these rules provide financial reporting
discretion to politicians so they can reduce funding gaps and required contributions to the pension fund, which may
alleviate budgetary stress and the need to increase taxes and cut spending. Thus, the main hypotheses we investigate in the
paper are whether states understate their pension funding gaps in periods of fiscal stress, whether understated pension
funding gaps are associated with states’ decisions to engage in mid-year spending cuts and tax increases, and whether the
extent to which states understate their pension funding gaps is associated with future employment costs.
To provide evidence on these hypotheses, we collect data on the state's pension obligations from two sources: the Public
Pension Coordinating Council's PENDAT Survey of State and Local Government Employee Retirement Systems and the
Boston College Center for Retirement Research for fiscal years from 1990–2009. We supplement this data by hand collecting
information for missing plan-years directly from the state's Comprehensive Annual Financial Reports (CAFRs) and pension
plan valuation reports. After accounting for missing data, we have 984 state years with pension data

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราเน้นการวิเคราะห์ว่าที่อเมริกามีส่วนร่วมในการดำเนินการหมายขนาดของช่องว่างเงินบำนาญ และลดขนาดของเงินบำนาญในช่วงระยะเวลาของความเครียดทางการเงิน และว่า มีผลทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำเหล่านั้นเพนชั่นหน้าที่ได้แก่ใหญ่หน้าที่อเมริกา และหน้าบัญชีการดำเนินการปรับปรุงสถานะการรับเงินการหน้าที่เหล่านี้อาจลดค่าใช้จ่ายของรัฐในชีพ และอเมริกาการให้หลีกเลี่ยงการเพิ่มภาษี หรือตัดสิทธิโปรแกรมระหว่างนิตยสาร อย่างไรก็ตาม ใช้ดุลยพินิจบัญชีเพื่อลดช่องว่างเงินทุนเป็นมีค่าใช้จ่ายมอบแรงงานสะท้อนในระบบบัญชีของรัฐ ซึ่งมีความสำคัญเป็นข้อมูลที่สร้างขึ้น โดยระบบบัญชีในอเมริกาทำหน้าที่เป็นอินพุทในอเมริกางบประมาณ จัด และกลไกการควบคุมอื่น ๆ เมื่อระบบบัญชี understates จ่ายสิทธิประโยชน์บำนาญ อเมริกาอาจลงทุนเพิ่มเติมในแรงงาน ตามเป็นจริง- "ต้นทุน" ของผู้ปฏิบัติงานแต่ละไม่ได้แสดงในชุดข้อมูลของตัดสินเราเถียงว่า มีองค์ประกอบต่าง ๆ ของรายงานกฎที่อนุญาตให้อเมริกา understate ของบำนาญบำนาญ GASBเงินทุนช่องว่าง และดังนั้น ลดการบำนาญประจำปีที่เกี่ยวข้อง expenditures.4 โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐส่วนลดผลประโยชน์เงินบำนาญในอนาคตที่ใช้ตอบคาดบนสินทรัพย์ที่จัดขึ้นเพนชั่นเชื่อถือ และมีดุลยพินิจในการตัดจำหน่ายลงทุนกำไรและขาดทุนช่วงเวลารายงานในอนาคต ร่วมกัน กฎเหล่านี้ให้รายงานทางการเงินพิจารณานักการเมืองเพื่อให้สามารถลดช่องว่างเงินทุน และเงินสมทบกองทุนบำนาญ ซึ่งอาจจำเป็นบรรเทาความเครียดที่งบประมาณและความต้องการเพิ่มภาษี และตัดค่าใช้จ่าย ดังนั้น hypotheses หลักเราตรวจสอบในการกระดาษว่าอเมริกา understate บำนาญของพวกเขาช่องว่างในรอบระยะเวลาของความเครียดทางการเงิน เงินทุนว่านั้นเพนชั่นช่องว่างที่เงินทุนจะเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของอเมริกาในช่วงกลางปีตัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มภาษี และว่าขอบเขตที่อเมริกา understate บำนาญการเงินช่องเกี่ยวข้องกับต้นทุนการจ้างงานในอนาคตเพื่อให้หลักฐานเกี่ยวกับ hypotheses เหล่านี้ เรารวบรวมข้อมูลบนภาระเงินบำนาญของรัฐจากสองแหล่ง: สาธารณะประสานการสำรวจของสภา PENDAT ระบบเกษียณอายุพนักงานของรัฐ และท้องถิ่นราชการบำนาญและศูนย์วิทยาลัยบอสตันวิจัยเกษียณอายุสำหรับปีจากปี 1990-2009 เราเสริมข้อมูลนี้รวบรวมมือข้อมูลแผนปีหายไปจากรายงานทางการเงินประจำปีครอบคลุม (CAFRs) และเงินบำนาญของรัฐโดยตรงรายงานการประเมินแผน หลังจากบัญชีข้อมูลที่หายไป เรามี 984 สถานะข้อมูลบำนาญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ของเราอยู่กับว่ารัฐมีส่วนร่วมในการกระทำเพื่อปกปิดขนาดของช่องว่างกองทุนบำเหน็จบำนาญและทำให้ลดขนาด
ของเงินบำนาญในช่วงระยะเวลาของความเครียดทางการคลังและว่ามีผลทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำเหล่านั้น.
ภาระผูกพันบำเหน็จบำนาญเป็นหนึ่งในภาระหน้าที่ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ใบหน้าและการดำเนินการทางบัญชีที่จะปรับปรุงสถานะการได้รับการสนับสนุนของ
ภาระผูกพันเหล่านี้อาจลดค่าใช้จ่ายของรัฐที่เกี่ยวกับเงินบำนาญและให้รัฐที่มีความยืดหยุ่นในการหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีหรือ
โปรแกรมตัดสิทธิในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ อย่างไรก็ตามการใช้ดุลยพินิจบัญชีเพื่อลดช่องว่างการระดมทุนเป็น
โอกาสที่จะทำให้มีค่าใช้จ่ายภาพลักษณ์ของการใช้แรงงานที่ถูกสะท้อนออกมาในระบบบัญชีของรัฐ นี้เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐระบบบัญชีทำหน้าที่เป็นปัจจัยการผลิตที่เป็นรัฐ 'งบประมาณจัดสรรและ
กลไกการควบคุมอื่น ๆ เมื่อระบบบัญชี understates ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เงินบำนาญของรัฐอาจจะ
ลงทุนมากขึ้นในการใช้แรงงานเป็น "จริงค่าใช้จ่าย" ของพนักงานแต่ละคนจะไม่ปรากฏอยู่ในชุดข้อมูลที่มีอำนาจตัดสินใจของ.
เรายืนยันว่ามีหลายองค์ประกอบของ GASB เงินบำนาญ รายงานกฎระเบียบที่อนุญาตให้สหรัฐอเมริกาเพื่อพูดบำนาญของพวกเขา
ช่องว่างการระดมทุนและทำให้ลดเงินบำนาญ expenditures.4 ที่เกี่ยวข้องประจำปีของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานภาครัฐลด
ผลประโยชน์เงินบำนาญในอนาคตโดยใช้ผลตอบแทนการลงทุนที่คาดว่าจะจัดขึ้นในสินทรัพย์เงินบำนาญไว้วางใจและมีการพิจารณาในการ
ตัดจำหน่ายเงินลงทุน กำไรและขาดทุนในช่วงเวลาการรายงานในอนาคต ร่วมกันกฎระเบียบเหล่านี้ให้การรายงานทางการเงิน
ดุลยพินิจกับนักการเมืองเพื่อให้พวกเขาสามารถลดช่องว่างการระดมทุนและเงินสมทบให้แก่กองทุนบำเหน็จบำนาญซึ่งอาจ
ช่วยบรรเทาความเครียดงบประมาณและความจำเป็นในการเพิ่มภาษีและลดค่าใช้จ่าย ดังนั้นสมมติฐานหลักที่เราตรวจสอบใน
กระดาษว่ารัฐ understate ช่องว่างกองทุนบำเหน็จบำนาญของพวกเขาในช่วงเวลาของความเครียดทางการคลังไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์บำเหน็จบำนาญ
ช่องว่างการระดมทุนที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของรัฐจะมีส่วนร่วมในการลดการใช้จ่ายในช่วงกลางปีและการเพิ่มภาษีและไม่ว่าจะเป็น
. ขอบเขตที่รัฐพูดบำเหน็จบำนาญช่องว่างการระดมทุนของพวกเขามีความสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายในการจ้างงานในอนาคต
เพื่อให้มีหลักฐานบนสมมติฐานเหล่านี้เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาระหน้าที่ของเงินบำนาญของรัฐจากสองแหล่งที่มา: สาธารณะ
Pension คณะมนตรีประสานงานสำรวจ PENDAT ของรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นระบบการเกษียณอายุของพนักงาน และ
วิทยาลัยบอสตันศูนย์วิจัยเกษียณสำหรับปีงบการเงิน 1990-2009 เราเสริมข้อมูลนี้ด้วยมือในการเก็บรวบรวม
ข้อมูลที่ขาดหายไปสำหรับแผนปีโดยตรงจากรัฐที่ครอบคลุมของรายงานทางการเงินประจำปี (CAFRs) และเงินบำนาญ
รายงานการประเมินมูลค่าแผน หลังจากการบัญชีสำหรับข้อมูลที่หายไปเรามี 984 ปีรัฐกับข้อมูลบำเหน็จบำนาญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ของเราว่ารัฐมีส่วนร่วมในการกระทำเพื่อปกปิดขนาดช่องว่างของทุนบำเหน็จบำนาญ และดังนั้นจึง ลดขนาดผลงานบำเหน็จบำนาญในช่วงระยะเวลาของความเครียดทางการเงิน และไม่ว่าจะมีผลทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำเหล่านั้นภาระผูกพันบำนาญของรัฐใหญ่ที่สุด , ใบหน้าและการกระทำเพื่อปรับปรุงสถานะของบัญชีทุนภาระเหล่านี้อาจช่วยลดรายจ่ายของรัฐ และเงินบำนาญให้รัฐที่มีความยืดหยุ่นเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มภาษี หรือโปรแกรมตัดสิทธิใน downturns ทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การใช้ดุลยพินิจทางบัญชี เพื่อลดช่องว่างเดิมคือส่งผลให้ understated ต้นทุนแรงงานถูกสะท้อนในระบบบัญชีและการเงินของรัฐ นี้เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยระบบบัญชีอเมริกา ' ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตในการจัดสรรงบประมาณของรัฐ , และกลไกการควบคุมอื่น ๆ เมื่อระบบบัญชี understates ต้นทุนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เงินบำนาญ รัฐอาจลงทุนเพิ่มเติมในแรงงาน เป็น " ต้นทุนที่แท้จริง " ของแต่ละคนมันไม่ได้สะท้อนให้เห็นในชุดข้อมูลเป็นผู้ตัดสินใจ .เรายืนยันว่ามีองค์ประกอบหลาย gasb บำนาญรายงานกฎระเบียบที่อนุญาตให้รัฐบำนาญของพวกเขากล่าวถึงอย่างไม่เต็มที่เงินทุน ช่องว่าง จึงลดบำนาญรายปี ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ 4 , ส่วนลดบำเหน็จบำนาญผลประโยชน์ที่คาดว่าในอนาคตการใช้ผลตอบแทนการลงทุนในสินทรัพย์ที่จัดขึ้นในความไว้วางใจและมีดุลพินิจ เพนชั่นหักกลบลบล้างผลประโยชน์การลงทุนและขาดทุนในอนาคตมากกว่าระยะเวลาการรายงาน . ร่วมกัน กฎเหล่านี้มีการรายงานทางการเงินดุลพินิจนักการเมืองเพื่อให้พวกเขาสามารถลดช่องว่างเงินทุนและต้องการบริจาคให้กองทุนบำนาญ ซึ่งอาจบรรเทาความเครียดงบประมาณและต้องเพิ่มภาษีและลดการใช้จ่าย ดังนั้น สมมติฐานหลักที่เราศึกษาในกระดาษจะกล่าวว่าบรรยายไม่เต็มที่ของพวกเขาบำนาญเดิม ช่องว่างในช่วงเวลาของความเครียดทางการเงิน ไม่ว่า understated เพนชั่นช่องว่างรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของรัฐ เพื่อมีส่วนร่วมในการลดการใช้จ่ายและเพิ่มภาษีกลางปี และว่าขอบเขตที่อเมริกากล่าวถึงอย่างไม่เต็มที่ของพวกเขาบำนาญเดิม ช่องว่างที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการจ้างงานในอนาคตเพื่อให้หลักฐานบนสมมติฐานเหล่านี้ เราเก็บข้อมูลในรัฐเพนภาระผูกพันจากสองแหล่ง : สาธารณะเพนชั่น คณะมนตรีประสานงานของ pendat การสำรวจของรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นระบบและพนักงานเกษียณวิทยาลัยบอสตันศูนย์วิจัยเกษียณปีงบประมาณจาก 1990 – 2009 เราเสริมข้อมูลนี้รวบรวมโดยมือข้อมูลที่ขาดหายไปสำหรับแผนปีโดยตรงจากสถานะทางการเงินประจำปีครอบคลุมรายงาน ( cafrs ) และเงินบำนาญแผนรายงานการประเมินราคา หลังจากการบัญชีสำหรับข้อมูลที่ขาดหายไป เราคงจะรัฐปีข้อมูล เพนชั่น