The airline was established in Febr

The airline was established in February 2004 and started operations on 23 July 2004. It had 130 employees in March 2007 and around 600 in 2011.[2] Nok Air began its first international service on 31 May 2007, with daily flights to Bangalore, India. The airline acquired landing rights to additional Indian cities (Chennai, Hyderabad and New Delhi).[3]

Nok Air suspended its operations to Bangalore in November 2007 - the second low-cost carrier to suspend operations after Jetstar Asia Airways. According to Rajiv Bhatia, the General Manager for the Indian operations, this was due to non-availability of aircraft, and to allow service to other lucrative routes in South East Asia like Vietnam. However, according to sources in the travel sector, the suspension of operations may be due to the decrease in passenger load factor for Nok Air by 40%.[4]

After its troubled international expansion, Nok Air has decided to focus on domestic services in Thailand. It is now the airline the serves the highest number of domestic routes within Thailand.[5] This strategy has been successful. In 2010, Nok Air generated 618 million Thai baht in net profit on revenues of 3.97 billion Thai baht. The airline plans to add seven Boeing 737-800 aircraft and four ATR 72 turboprop aircraft in 2011.[6]

Since its inception, Nok Air has been operating largely independently from Thai Airways International. This has led to some friction between the two companies along the way. To gain greater control of Nok Air, Thai Airways has tried to purchase the shares of other shareholders, notably Krung Thai Bank. However, although Thai Airways and Krung Thai Bank are both state enterprises under the control of the Ministry of Finance (Thailand), Krung Thai Bank refused to sell its shares in Nok Air to Thai Airways. The purchase would have lifted Thai Airways’ stake in Nok Air from 39% to 49%.[7]

In 2014 Nok Air announced a joint venture with Scoot Airlines ( a low cost subsidiary of Singapore Airlines ) to form NokScoot a low cost regional airline based out of Don Mueang Airport Bangkok.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สายการบินก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2004 และเริ่มดำเนินงานวันที่ 23 2547 กรกฎาคม มันมีพนักงาน 130 ในเดือนมีนาคม และ รอบ 600 ใน 2011[2] นกแอร์เริ่มต้นบริการนานาชาติครั้งแรกเมื่อ 31 2007 พฤษภาคม มีเที่ยวบินทุกวันสู่บังกาลอร์ อินเดีย สายการบินรับสิทธิ์จอดเมืองอินเดียเพิ่มเติม (เจนไน ไฮเดอราบัด และนิวเดลี)[3]นกแอร์หยุดการดำเนินงานสู่บังกาลอร์ใน 2550 พฤศจิกายน - บริษัทขนส่งต้นทุนต่ำที่สองเพื่อระงับการดำเนินการหลังจาก Jetstar Asia Airways ตาม Rajiv Bhatia ผู้จัดการทั่วไปสำหรับการดำเนินงานที่อินเดีย นี้ได้เนื่องจากไม่ใช่-มีอากาศยาน และให้บริการเส้นทางร่ำรวยอื่น ๆ ใน South East Asia เช่นเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตามแหล่งในภาคการท่องเที่ยว การระงับการดำเนินการได้เนื่องจากการลดในอัตราผู้โดยสารนกแอร์ โดย 40%[4]หลังจากขยายตัวระหว่างประเทศปัญหา นกแอร์ได้ตัดสินใจให้ความสำคัญกับบริการในประเทศไทย มันเป็นสายการบินให้บริการจำนวนสูงสุดของเส้นทางในประเทศไทย[5] กลยุทธ์นี้แล้วประสบความสำเร็จ ในปี 2553 นกแอร์สร้าง 618 ล้านบาทไทยในกำไรสุทธิจากรายได้ 3.97 พันล้านบาท สายการบินวางแผนจะเพิ่มเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 7 และเครื่องบินเอทีอาร์ 72 turboprop ที่สี่ในปี 2554[6]ตั้งแต่ นกแอร์ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นอิสระจากการบินไทย มีผลให้แรงเสียดทานบางอย่างระหว่างบริษัททั้งสองไปพร้อมกัน การควบคุมนกแอร์ สายการบินไทยได้พยายามซื้อหุ้นสามัญอื่น ๆ ยวด ธนาคารกรุงไทย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการบินไทยและ ธนาคารกรุงไทย ทั้งองค์กรรัฐภายใต้การควบคุมของกระทรวง (ประเทศไทย), ธนาคารกรุงไทยปฏิเสธการขายหุ้นในนกแอร์การบินไทย ซื้อจะมียกของการบินไทยถือหุ้นในนกแอร์จาก 39% เป็น 49%[7]นกแอร์ประกาศร่วมทุนกับสายการบินสกู๊ตบิน (บริษัทต้นทุนต่ำของสิงคโปร์แอร์ไลน์) ฟอร์ม NokScoot บินภูมิภาคต้นทุนต่ำที่ใช้สนามบินดอนเมืองกรุงเทพมหานครในปี 2014

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สายการบินที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 และเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมปี 2004 มันมี 130 พนักงานมีนาคม 2007 และรอบ 600 ในปี 2011 [2] นกแอร์เริ่มให้บริการในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในวันที่ 31 พฤษภาคม 2007 ด้วยเที่ยวบินทุกวันเพื่อบังกาลอร์, อินเดีย . สายการบินที่ได้รับสิทธิในการเชื่อมโยงไปยังเมืองอินเดียเพิ่มเติม (เชนไนเดอราบาดและนิวเดลี) [3]. นกแอร์ระงับการดำเนินงานเพื่อบังกาลอร์ในพฤศจิกายน 2007 - สายการบินต้นทุนต่ำที่สองที่จะระงับการดำเนินการหลังจากที่เจ็ทสตาเอเชียแอร์เวย์ ตาม Rajiv Bhatia, ผู้จัดการทั่วไปสำหรับการดำเนินงานของอินเดียนี้เป็นผลจากการที่ไม่พร้อมใช้งานของอากาศยานและให้บริการไปยังเส้นทางที่ร่ำรวยอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นเวียดนาม อย่างไรก็ตามตามที่แหล่งข่าวในภาคการท่องเที่ยว, การระงับการดำเนินการอาจจะเกิดจากการลดลงของปัจจัยผู้โดยสารสำหรับนกแอร์ 40%. [4] หลังจากที่การขยายตัวของประเทศที่มีปัญหานกแอร์ได้ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปที่การให้บริการในประเทศ ประเทศไทย ตอนนี้มันเป็นสายการบินที่ให้บริการจำนวนมากที่สุดของเส้นทางในประเทศในประเทศไทย. [5] กลยุทธ์นี้ได้รับความสำเร็จ ในปี 2010, การบินนกแอร์ที่สร้าง 618,000,000 บาทกำไรสุทธิต่อรายได้ 3.97 พันล้านบาทไทย สายการบินวางแผนที่จะเพิ่มเจ็ดโบอิ้ง 737-800 เครื่องบินและสี่ ATR 72 เครื่องบินเทอร์โบในปี 2011 [6] นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นนกแอร์ได้รับการปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นอิสระจากการบินไทย นี้ได้นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างทั้งสอง บริษัท ไปพร้อมกัน เพื่อให้ได้รับการควบคุมมากขึ้นของนกแอร์การบินไทยได้พยายามที่จะซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นอื่น ๆ สะดุดตาธนาคารกรุงไทย อย่างไรก็ตามแม้ว่าการบินไทยและธนาคารกรุงไทยมีทั้งรัฐวิสาหกิจภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง (ประเทศไทย), ธนาคารกรุงไทยปฏิเสธที่จะขายหุ้นของ บริษัท ในการบินนกแอร์การบินไทย ซื้อจะได้ยกหุ้นการบินไทยในนกแอร์จาก 39% เป็น 49%. [7] ในปี 2014 นกแอร์ประกาศร่วมทุนกับสายการบิน Scoot (บริษัท ย่อยต้นทุนต่ำของสิงคโปร์แอร์ไลน์) ในรูปแบบ NokScoot ต้นทุนต่ำสายการบินในภูมิภาค ออกจากสนามบินดอนเมืองกรุงเทพฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สายการบินก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2004 และเริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2547 มันมี 130 พนักงานในเดือนมีนาคม 2550 และประมาณ 600 ใน 2011 . [ 2 ] นกแอร์เริ่มบริการระหว่างประเทศครั้งแรกในวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 ด้วยเที่ยวบินบังกาลอร์ , อินเดียทุกวัน สายการบินได้รับสิทธิบินไปเมืองอินเดียเพิ่มเติม ( Chennai , Hyderabad และนิวเดลี [ 3 ]

)นกแอร์ระงับการดำเนินการของอินเดียในเดือนพฤศจิกายน 2007 - ผู้ให้บริการต้นทุนต่ำที่สองที่จะระงับการดำเนินการหลังจากที่เจ็ทสตาร์เอเชียแอร์เวย์ ตามราจีฟ บัดติยา ผู้จัดการทั่วไปสำหรับการดำเนินงานอินเดียนี้เนื่องจากไม่มีความพร้อมของเครื่องบิน และเพื่อให้บริการในเส้นทางที่ร่ำรวยอื่น ๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในภาคท่องเที่ยวการระงับการดำเนินงานอาจจะเนื่องจากการลดลงในตัวประกอบภาระของผู้โดยสารนกแอร์ 40 % [ 4 ]

หลังจากปัญหาระหว่างประเทศขยายตัว นกแอร์ได้ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นในการให้บริการภายในประเทศของไทย ตอนนี้มันเป็นสายการบินที่ให้บริการจำนวนมากที่สุดของเส้นทางในประเทศในประเทศ [ 5 ] กลยุทธ์นี้ได้รับความสำเร็จ ใน 2010 ,นกแอร์สร้าง 618 ล้านบาทในกำไรรายได้ 3.97 ล้านบาท สายการบินมีแผนที่จะเพิ่มเจ็ดโบอิ้ง 737-800 อากาศยานและสี่เครื่องยนต์เครื่องบินเอทีอาร์ 72 ใน 2011 . [ 6 ]

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง นกแอร์ได้ถูกปฏิบัติไปโดยอิสระจากการบินไทย . ทำให้เกิดแรงเสียดทานบางอย่างระหว่างสอง บริษัท ไปพร้อมกันที่จะได้รับการควบคุมมากขึ้นนกแอร์ , การบินไทยได้พยายามที่จะซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นอื่น ๆ โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย . อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการบินไทย และธนาคารกรุงไทยเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง ( ประเทศไทย ) , ธนาคาร กรุงไทย ปฏิเสธที่จะขายหุ้นในนกแอร์กับการบินไทยซื้อจะได้ยกการบินไทยถือหุ้นในนกแอร์จาก 39% เป็น 49 % [ 7 ]

ใน 2014 นกแอร์ประกาศร่วมทุนกับ scoot สายการบิน ( ต้นทุนต่ำในเครือสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ) รูปแบบต้นทุนต่ำสายการบินภูมิภาคตามออกจากสนามบินเมืองกรุงเทพฯ ไม่ nokscoot .