The concentration of OD was an impo

The concentration of OD was an important tool to reduce the water content with little bit damage
on the quality of fresh products. This was done with the mild treatment of product at low temperature (30-
50°C) so that temperature did not affect the properties of cell membranes, which was necessary to maintain the osmotic phenomenon (Lazarids, 2001). The plant tissue was continuously immersed in the osmotic medium because oxygen was not exposed so that there was no need of use of antioxidant to protect against enzymatic and oxidative discoloration (Dixon et al., 1976)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเข้มข้นของ OD เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อลดปริมาณน้ำ มีน้อยบิตความเสียหาย คุณภาพของอาหารสด นี้สำเร็จ ด้วยการรักษาอ่อนผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิต่ำ (30-50 ° C) ที่อุณหภูมิไม่มีผลต่อคุณสมบัติของเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งจำเป็นต้องรักษาปรากฏการณ์การออสโมติก (Lazarids, 2001) เนื้อเยื่อพืชได้อย่างต่อเนื่องสัมผัสสื่อการออสโมติก เพราะออกซิเจนไม่ถูกเปิดเผยที่มีไม่จำเป็นต้องใช้สารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันการเปลี่ยนสีของเอนไซม์ในระบบ และ oxidative (นดิกซัน et al., 1976)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเข้มข้นของ OD
เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยลดปริมาณน้ำที่มีความเสียหายเล็กน้อยในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ นี้ทำกับการรักษาที่รุนแรงของผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิต่ำ (30-
50 องศาเซลเซียส) เพื่อให้อุณหภูมิที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของเยื่อหุ้มเซลล์ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาปรากฏการณ์ออสโมติก (Lazarids, 2001) เนื้อเยื่อพืชที่ถูกแช่อยู่อย่างต่อเนื่องในกลางออสโมติกเพราะออกซิเจนไม่ได้สัมผัสเพื่อให้ไม่มีความจำเป็นของการใช้สารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันเอนไซม์และการเปลี่ยนสีออกซิเดชัน (ดิกสัน et al., 1976)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเข้มข้นของ OD เป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อลดปริมาณน้ำเล็กน้อย มีความเสียหาย
ในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ นี้ทำกับอ่อนรักษาผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิต่ำ ( 30 - 50 ° C
) เพื่อให้อุณหภูมิไม่มีผลต่อสมบัติของเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งจำเป็นต้องรักษาปรากฏการณ์ออสโมซิส ( lazarids , 2001 )เลี้ยงเนื้อเยื่อพืชถูกแช่อยู่ในสื่อการอย่างต่อเนื่องเพราะออกซิเจนไม่เปิดเผย ดังนั้นไม่มีความจำเป็นของการใช้สารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันการออกซิเดชัน ( เอนไซม์ และกระดิกสัน et al . , 1976 )