Table I summarizes the performance

Table I summarizes the performance of the protocols. As for
the average number of hops, it remains around 5% longer in the
MMBCR than in the MTPR. This can affect the average endto-
end delay of data packets without queues delay. However,
when the end-to-end delay includes the time spent by a packet
in the queues, it not only depends on the average number of
hops but also depends on congestion and traffic condition over
intermediate nodes.
When considering the mean connection expiration time
(MCET), the MTPR shows around 9% improvement over
the MMBCR. Furthermore, since the throughput depends on
the connection expiration time, the MTPR also improves the
throughput as compared to the MMBCR.
When the energy consumption due to the overhearing is considered,
although the packets traverse over only the acquired
path, all neighboring nodes of the intermediate nodes over the
route also suffer from spending their scarce battery resource,
regardless of their participation in forwarding by overhearing
the transmission. Thus, all the protocols behave similar with
respect to all performance metrics (see Figure 1(a) and Table
II).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตารางที่ผมสรุปประสิทธิภาพของโพรโทคอลที่ เป็นสำหรับจำนวนเฉลี่ยของข้าม มันยังคงอยู่ประมาณ 5% อีกต่อไปในการMMBCR กว่าใน MTPR นี้สามารถมีผลต่อการเฉลี่ย endto-สิ้นสุดความล่าช้าของแพ็กเก็ตข้อมูลคิวทันที อย่างไรก็ตามเมื่อเลื่อนจุดสิ้นสุดเพื่อสิ้นสุดรวมเวลาที่ใช้ โดยแพคเก็ตในคิว ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับจำนวนเฉลี่ยของข้าม แต่ยัง ขึ้นอยู่กับสภาพแออัดและการจราจรผ่านโหนตัวกลางเมื่อพิจารณาเวลาหมดอายุหมายถึงการเชื่อมต่อ(MCET), MTPR แสดงประมาณ 9% ปรับปรุงมากกว่าMMBCR นอกจากนี้ เนื่องจากอัตราความเร็วขึ้นอยู่กับเวลาหมดอายุการเชื่อมต่อ การ MTPR ยังช่วยเพิ่มการสูงเมื่อเทียบกับ MMBCRเมื่อปริมาณการใช้พลังงานเนื่องจากการ overhearing กำลังแม้ว่าแพ็กเก็ตข้ามผ่านเท่านั้นที่ได้รับเส้นทาง โหนใกล้เคียงทั้งหมดของโหนกลางผ่านการกระบวนการผลิตยังทรมานจากการใช้จ่ายทรัพยากรของพวกเขาขาดแคลนแบตเตอรี่โดยการเข้าร่วมในการส่งต่อโดย overhearingการส่งผ่าน ดังนั้น ทุกโพรโทคอลที่ทำงานคล้ายกับไปวัดประสิทธิภาพการทำงานทั้งหมด (ดูรูป 1(a) และตารางII)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฉันตารางสรุปผลการดำเนินงานของโปรโตคอลที่ สำหรับค่าเฉลี่ยของจำนวนกระโดดก็ยังคงเป็นประมาณ 5% อีกต่อไปใน MMBCR กว่าใน MTPR ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อค่าเฉลี่ย endto- ล่าช้าจุดสิ้นสุดของแพ็กเก็ตข้อมูลโดยไม่ชักช้าคิว แต่เมื่อความล่าช้าแบบ end-to-end รวมถึงเวลาที่ใช้โดยแพ็คเก็ตในคิวนั้นไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับค่าเฉลี่ยของจำนวนกระโดดแต่ยังขึ้นอยู่กับความแออัดและสภาพการจราจรในช่วงโหนดกลาง. เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยเวลาหมดอายุการเชื่อมต่อ(MCET) ที่แสดงให้เห็น MTPR ปรับปรุงรอบ 9% ในช่วงMMBCR นอกจากนี้เนื่องจากการส่งผ่านขึ้นอยู่กับเวลาหมดอายุการเชื่อมต่อที่ MTPR ยังช่วยเพิ่มการส่งผ่านเมื่อเทียบกับMMBCR. เมื่อการใช้พลังงานเนื่องจากการได้ยินจะพิจารณาแม้ว่าแพ็คเก็ตเข้าไปมากกว่าเท่านั้นที่ได้มาเส้นทางทุกโหนดเพื่อนบ้านของโหนดกลางเหนือเส้นทางที่ยังประสบจากการใช้จ่ายทรัพยากรแบตเตอรี่ที่หายากของพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงการมีส่วนร่วมในการส่งต่อโดยการได้ยินการส่ง ดังนั้นโปรโตคอลทั้งหมดที่มีลักษณะการทำงานที่คล้ายกันด้วยความเคารพต่อการวัดประสิทธิภาพ (ดูรูปที่ 1 (ก) และตารางที่ II)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

But a I played in the sea I'm happy and forget the heat
.But a I played in the sea I'm happy and forget the heat
.But a I played in the sea I'm happy and forget the heat
.But a I played in the sea I'm happy and forget the heat
.