The uniqueness of each child(Inform

The uniqueness of each child

(Information in this section is based on the Philippines' Multigrade Teacher's Handbook)

Every child is an individual, with special social, emotional, intellectual, and physical qualities.

Children are unique. They are individuals and no two children are alike: physically, emotionally, socially and intellectually, each child is a unique individual. Because children are unique, even if there are common needs and characteristics that children of a particular age or stage of development share, they must be understood by their parents and teachers in their uniqueness, and their individuality must be respected.

For example, even in a single-grade classroom composed of 45 to 50 seven-year-olds, not all of the seven-year-olds will be reading at precisely the same ability level. They will also differ in the ways they are able to understand and solve word problems in mathematics. They will have different personalities—some will be shy, some will be confident, some outgoing, some quiet but competent. They will each have their own life experiences and feelings about themselves. They will have different likes and dislikes, interests and needs.

However, this does not mean that a teacher has to prepare 45 or 50 different lesson plans­whether it is a single-grade or a multigrade classroom. Instead the teacher must be able to get to know and understand each of the children and prepare teaching/learning activities that will respond to and reflect these individual needs of children. As children work individually or independently, in small-groups or as a whole group, they will each benefit in their own way from these activities. What is most important is that the teacher, who is primarily responsible for planning the daily activities through which the children will learn, should know every child and keep track of how well each child is able to learn.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอกลักษณ์ของเด็กแต่ละคน(ข้อมูลในส่วนนี้เป็นไปตามของฟิลิปปินส์ Multigrade ครูคู่มือ)เด็กทุกคนเป็นบุคคล ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่สังคม อารมณ์ ปัญญา และร่างกายเด็กจะไม่ซ้ำกัน พวกเขาเป็นบุคคล และไม่มีเด็กสองเหมือนกัน: ทางกายภาพ อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะเด็กจะไม่ซ้ำกัน แม้มีความต้องการทั่วไปและลักษณะเด็กที่มีอายุเฉพาะหรือขั้นตอนของการพัฒนาร่วมกัน พวกเขาต้องเข้าใจผู้ปกครองและครูในเอกลักษณ์ของพวกเขา และต้องเคารพความแตกต่างของพวกเขาเช่น แม้ในห้องเรียนชั้นเดียวประกอบด้วย 45-50 เจ็ดขวบ ไม่ทั้งหมดของเจ็ดขวบจะสามารถอ่านแม่นยำในระดับเดียวกันความสามารถ พวกเขาก็แตกต่างในวิธีที่ พวกเขาจะสามารถเข้าใจ และแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ พวกเขาจะมีบุคลิกแตกต่างกัน — บางจะขี้อาย บางจะมั่น ขาออก เงียบสงบแต่มีอำนาจบางอย่าง พวกเขาจะได้รับความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเองและประสบการณ์ชีวิตของตนเอง พวกเขาจะมีใจที่แตกต่างกัน และไม่ชอบ ความสนใจ และความต้องการอย่างไรก็ตาม นี้ไม่ได้หมายความ ว่า ครูมีการเตรียม planswhether บทเรียนแตกต่างกัน 45 หรือ 50 ก็เกรดเดียวหรือห้องเรียนเรือ แทน ครูต้องสามารถรับรู้ และเข้าใจเด็กแต่ละคน และเตรียมกิจกรรมการเรียนการสอนที่จะตอบสนอง และสะท้อนความต้องการเหล่านี้ของเด็ก ขณะที่เด็กทำงานเป็นรายบุคคล หรืออิสระ ใน กลุ่มเล็ก หรือ เป็นทั้งกลุ่ม พวกเขาจะสวัสดิการแต่ละวิธีจากกิจกรรมเหล่านี้ สิ่งสำคัญสุดคือ ครู ที่รับผิดชอบหลักสำหรับการวางแผนกิจกรรมประจำวันซึ่งเด็กจะเรียนรู้ ควรรู้ว่าเด็กทุกคน และติดตามของวิธีการที่ดีเด็กแต่ละคนก็สามารถเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เอกลักษณ์ของเด็กแต่ละคน

(ข้อมูลในส่วนนี้อยู่บนพื้นฐานของฟิลิปปินส์เกรดคู่มือครู)

เด็กทุกคนเป็นบุคคลที่มีคุณภาพสังคมอารมณ์ทางปัญญาและทางกายภาพพิเศษ.

เด็กจะไม่ซ้ำกัน พวกเขาเป็นบุคคลและไม่มีเด็กสองคนเหมือนกัน: ร่างกายอารมณ์สังคมและสติปัญญาของเด็กแต่ละคนเป็นบุคคลที่ไม่ซ้ำกัน เพราะเด็กจะไม่ซ้ำกันแม้ว่าจะมีความต้องการทั่วไปและลักษณะที่ว่าเด็กอายุเฉพาะหรือขั้นตอนของส่วนแบ่งการพัฒนาพวกเขาจะต้องเข้าใจโดยผู้ปกครองและครูของพวกเขาในความเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาและความแตกต่างของพวกเขาจะต้องได้รับการเคารพ.

ตัวอย่างเช่นแม้ใน ห้องเรียนชั้นประกอบด้วย 45-50 เจ็ดปี olds ไม่ทั้งหมดของเจ็ดปี olds จะอ่านที่แม่นยำระดับความสามารถเดียวกัน พวกเขายังจะแตกต่างกันในวิธีการที่พวกเขาสามารถที่จะเข้าใจและแก้ปัญหาคำในวิชาคณิตศาสตร์ พวกเขาจะมีบุคลิกบางอย่างที่แตกต่างกันจะเป็นคนขี้อายบางคนจะมีความมั่นใจบางขาออกบางส่วนที่เงียบสงบ แต่มีอำนาจ พวกเขาแต่ละคนจะมีประสบการณ์ชีวิตของตัวเองและความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง พวกเขาจะต้องทำเช่นเดียวกับที่แตกต่างกันและไม่ชอบสนใจและความต้องการ.

แต่นี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นครูที่มีการเตรียมความพร้อม 45 หรือ 50 บทเรียนที่แตกต่างกัน planswhether มันเป็นเกรดเดียวหรือชั้นเรียนเกรด แต่ครูจะต้องสามารถที่จะได้รับรู้และเข้าใจของเด็กแต่ละคนและเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน / การเรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อและสะท้อนให้เห็นความต้องการของแต่ละเหล่านี้ของเด็ก ในขณะที่เด็กทำงานเป็นรายบุคคลหรือเป็นอิสระในขนาดเล็กหรือเป็นกลุ่มทั้งกลุ่มที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์ในแต่ละวิธีการของตัวเองจากกิจกรรมเหล่านี้ อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดคือว่าครูที่เป็นหลักรับผิดชอบในการวางแผนกิจกรรมประจำวันโดยที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ควรรู้ว่าเด็กทุกคนและติดตามวิธีที่ดีที่เด็กแต่ละคนมีความสามารถที่จะเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอกลักษณ์ของเด็กแต่ละคน( ข้อมูลในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับคู่มือฟิลิปปินส์มัลติเกรดครู )เด็กทุกคนเป็นบุคคลพิเศษในสังคม อารมณ์ สติปัญญา และลักษณะทางกายภาพเด็กที่ไม่ซ้ำกัน พวกเขาเป็นบุคคล และไม่มีเด็กสองคนจะเหมือนกัน : ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เด็กแต่ละคนเป็นบุคคลที่ไม่ซ้ำกัน เพราะเด็กจะไม่ซ้ำกันเลย ต่อให้มีความต้องการร่วมกันและลักษณะที่เด็กอายุที่เฉพาะเจาะจงหรือเวทีแลกเปลี่ยนการพัฒนา พวกเขาคงเข้าใจ โดยผู้ปกครอง และครู ในเอกลักษณ์และบุคลิกลักษณะของพวกเขาจะต้องได้รับการเคารพตัวอย่างเช่น แม้แต่ในชั้นเรียนเกรดเดียวประกอบด้วย 45 ถึง 50 เจ็ดปี olds , ไม่ทั้งหมดของเจ็ดขวบจะอ่านที่แน่นอนเดียวกันความสามารถในระดับ พวกเขาจะยังแตกต่างกันในวิธีที่พวกเขาจะสามารถที่จะเข้าใจและแก้ปัญหาโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ก็จะมีบุคลิกที่แตกต่างกันบางส่วนจะขี้อาย บางจะ มั่นใจ ออกบางอย่าง บางคนเงียบ แต่เชี่ยวชาญ พวกเขาแต่ละคนจะได้รับประสบการณ์ชีวิตของตนเอง และความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง พวกเขาจะต้องชอบและไม่ชอบต่างกัน ความสนใจ และความต้องการแต่นี้ไม่ได้หมายความว่าครูจะต้องเตรียมแผนการสอน 45 หรือ 50 แตกต่างกันองไม่ว่าจะเป็นเกรดเดียวหรือห้องเรียนมัลติเกรด . แทนครูต้องสามารถรับรู้และเข้าใจของแต่ละคน และเตรียมกิจกรรมการเรียนการสอนที่ตอบสนอง และสะท้อนเหล่านี้แต่ละความต้องการของเด็ก เป็นเด็กทำงานเป็นรายบุคคลหรือเป็นอิสระในกลุ่มเล็ก ๆหรือทั้งกลุ่ม พวกเขาแต่ละคนจะได้ประโยชน์ในทางของตัวเองจากกิจกรรมเหล่านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ครูที่รับผิดชอบหลักเพื่อวางแผนกิจกรรมประจำวันที่เด็กจะได้เรียนรู้ ควรรู้จักเด็กทุกคน และติดตามว่าเด็กแต่ละคนจะสามารถเรียน