Finally, production of organic food

Finally, production of organic foods can help to protect environment from pesticides used in conventional foods. According to Jenna B, Non-organic food are affecting our water and air quality. Pesticides, herbicides and other dangerous chemicals are being found in water supplies. When pesticides seep into the soil. Earthworm or other soil animals will be poison directly. Loss of population these animals make soil deteriorate. Absorption of water into the soil is more difficult, organic matter in the soil reduced and impact on plant growth. At the same time. Pesticide contamination in water the plants in water rot and fish lacking oxygen. Moreover organic farming helps the fight against global warming. The use of pesticides or growth hormone, to speed up production for the demand of consumers. Resulting in extremely dangerous for the ecosystem as a cause of global warming, According to finding of the Rodale Institute’s Farming Systems Trial (FST), organic farming systems have the potential to use 30 to 50 percent less energy than non-organic farming systems. Additionally, results from the long-term FST conclude that organic cover-crop farming is a better “carbon-sink” than non- organic farming. It better absorbs and sequesters natural carbon emission from decaying matter in the soil, holding more carbon deeper than non-organically managed farmland. Carbon is one of the greenhouse gases that absorb the wave, infrared, which is heat waves from the sun. Collecting heat them in the atmosphere. Which is the temperature of the earth rise, melting the polar ice rising sea levels, flooding along the coastal area, the climate variation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สุดท้าย ผลิตอาหารอินทรีย์สามารถช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมจากสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ในอาหารทั่วไป ตามเจนนา B อาหารอินทรีย์ไม่มีผลต่อคุณภาพน้ำและอากาศ ยาฆ่าแมลง สารเคมีกำจัดวัชพืช และสารอันตรายอื่น ๆ ที่อยู่ในน้ำ เมื่อยาฆ่าแมลงซึมเข้าดิน ไส้เดือนดินหรือดินสัตว์อื่น ๆ จะเป็นพิษโดยตรง สูญเสียประชากรสัตว์เหล่านี้ทำให้ดินเสื่อมสภาพ ดูดซึมน้ำในดินได้ยาก อินทรีย์วัตถุในดินลดลงและผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช ในเวลาเดียวกัน สารพิษปนเปื้อนในน้ำพืชน้ำ rot และปลาขาดออกซิเจน นอกจากนี้ เกษตรอินทรีย์ช่วยต่อสู้กับภาวะโลกร้อน การใช้ยาฆ่าแมลงหรือฮอร์โมนเจริญเติบโต เร่งผลิตเพื่อความต้องการของผู้บริโภค เกิดอันตรายอย่างมากสำหรับระบบนิเวศที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ตามหาของของ สถาบัน Rodale เกษตรระบบทดลอง (FST), ระบบเกษตรอินทรีย์มีศักยภาพในการใช้ 30-50 เปอร์เซ็นต์น้อยกว่าระบบการทำเกษตรอินทรีย์ไม่ใช่พลังงาน นอกจากนี้ ผลจาก FST ระยะยาวสรุปว่า ทำนาอินทรีย์ปกพืชดีกว่า "คาร์บอนอ่างล้างจาน" กว่าใช่เกษตรอินทรีย์ ดีกว่าดูดซับ และปล่อยก๊าซคาร์บอนจากธรรมชาติจากการผุพังในดิน กดลึกกว่าพื้นที่การเกษตรที่มีการจัดการไม่ใช่-organically คาร์บอนเพิ่มเติม sequesters คาร์บอนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ดูดซับคลื่น อินฟราเรด อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเป็นคลื่นความร้อนจากดวงอาทิตย์ เก็บความร้อนไว้ในบรรยากาศ ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น โลกละลายน้ำแข็งขั้วโลกที่เพิ่มขึ้นที่ระดับน้ำทะเล น้ำท่วมตามบริเวณชายฝั่ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในที่สุดการผลิตอาหารอินทรีย์สามารถช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมจากสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ในอาหารทั่วไป ตามที่เจนน่า B, อาหารอินทรีย์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและอากาศของเรา สารกำจัดศัตรูพืชสารเคมีกำจัดวัชพืชและสารเคมีที่เป็นอันตรายอื่น ๆ ที่ถูกพบในแหล่งน้ำ เมื่อสารกำจัดศัตรูพืชซึมลงไปในดิน หรืออื่น ๆ ที่ไส้เดือนดินสัตว์จะเป็นพิษโดยตรง การสูญเสียของประชากรสัตว์เหล่านี้ทำให้ดินเสื่อมสภาพ การดูดซึมของน้ำลงไปในดินเป็นเรื่องยากมากอินทรียวัตถุในดินลดลงและผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช ในเวลาเดียวกัน. การปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในน้ำพืชในน้ำเน่าและปลาขาดออกซิเจน นอกจากนี้การทำเกษตรอินทรีย์จะช่วยให้การต่อสู้กับภาวะโลกร้อน การใช้สารกำจัดศัตรูพืชหรือฮอร์โมนการเจริญเติบโตเพื่อเพิ่มความเร็วในการผลิตสำหรับความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับระบบนิเวศที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนตามที่การค้นพบของสถ​​าบันเกษตร Rodale ของระบบทดลอง (FST) ระบบการทำเกษตรอินทรีย์มีศักยภาพที่จะใช้ 30 ถึงร้อยละ 50 พลังงานน้อยกว่าระบบการทำฟาร์มที่ไม่ใช่อินทรีย์ นอกจากนี้ผลจากในระยะยาว FST สรุปได้ว่าการเลี้ยงครอบคลุมพืชอินทรีย์ที่ดีกว่า "คาร์บอนอ่างล้างจาน" กว่าการทำเกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช่ มันดูดซับที่ดีขึ้นและ sequesters คาร์บอนธรรมชาติจากเรื่องสลายในดินถือคาร์บอนมากขึ้นลึกกว่าที่ไม่ได้มีการจัดการพื้นที่การเกษตรอินทรีย์ คาร์บอนเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ดูดซับคลื่นอิน​​ฟราเรดซึ่งเป็นคลื่นความร้อนจากดวงอาทิตย์ ความร้อนที่เก็บรวบรวมไว้ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นอุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นที่ละลายน้ำแข็งขั้วโลกที่เพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลน้ำท่วมตามพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในที่สุด การผลิตอาหารอินทรีย์สามารถช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในอาหารทั่วไป ตามเจนน่า B ไม่ใช่อินทรีย์อาหารจะมีผลต่อคุณภาพน้ำและอากาศของเรา ยาฆ่าแมลง herbicides และสารเคมีที่เป็นอันตรายอื่น ๆที่ถูกพบในน้ำวัสดุ เมื่อสารเคมีไหลซึมลงในดิน ไส้เดือนหรือสัตว์ดินจะเป็นพิษโดยตรงการสูญเสียประชากรสัตว์เหล่านี้ทำให้ดินเสื่อมสภาพ การดูดซึมของน้ำในดินยาก อินทรีย์วัตถุในดินลดลง และส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช ในเวลาเดียวกัน การปนเปื้อนสารพิษในน้ำพืชในน้ำ ปลาเน่า และขาดออกซิเจน นอกจากนี้เกษตรอินทรีย์ช่วยในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน การใช้สารเคมีหรือฮอร์โมนการเจริญเติบโตเพื่อเร่งการผลิตเพื่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งอันตรายมากสำหรับระบบนิเวศที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ตามหาของ Rodale สถาบันทำไร่ทดลองระบบ ( f ) , ระบบเกษตรอินทรีย์มีศักยภาพที่จะใช้ 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ พลังงานน้อยกว่าระบบเกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช่ . นอกจากนี้ผลระยะยาว f สรุปว่าอินทรีย์ครอบคลุมการเพาะปลูกพืชไร่เป็นดีกว่า " คาร์บอนจม " กว่าที่ไม่ใช่เกษตรอินทรีย์ มันจะดีกว่าการปล่อยคาร์บอนดูดซับและ sequesters ธรรมชาติจากสลายวัตถุในดิน ลึกกว่าที่ไม่ใช่อินทรีย์คาร์บอนมากกว่าถือจัดการฟาร์ม คาร์บอนไดออกไซด์เป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ดูดซับคลื่นอินฟราเรด ซึ่งเป็นคลื่นความร้อนจากดวงอาทิตย์สะสมความร้อนไว้ในบรรยากาศ ซึ่งเป็นอุณหภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้น , น้ําแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ําทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ท่วมบริเวณริมชายฝั่ง ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง .