ackground: Numerous calls have been

ackground: Numerous calls have been made for greater assimilation of information technology in healthcare organizations in general, and in primary care settings in particular. Considering the levels of IT investment and adoption in primary care medical practices, a deeper understanding is needed of the factors leading to greater performance outcomes from EMR systems in primary care. To address this issue, we developed and tested a research model centered on the concept of Extended EMR Use. Methods: An online survey was conducted of 331 family physicians in Canadian private medical practices to empirically test seven research hypotheses using a component-based structural equation modeling approach. Results: Five hypotheses were partially or fully supported by our data. Family physicians in our sample used 67% of the clinical and 41% of the communicational functionalities available in their EMR systems, compared to 90% of the administrative features. As expected, extended use was associated with significant improvements in perceived performance benefits. Interestingly, the benefits derived from system use were mainly tied to the clinical support provided by an EMR system. The extent to which physicians were using their EMR systems was influenced by two system design characteristics: functional coverage and ease of use. The more functionalities that are available in an EMR system and the easier they are to use, the greater the potential for exploration, assimilation and appropriation by family physicians. Conclusions: Our study has contributed to the extant literature by proposing a new concept: Extended EMR Use. In terms of its practical implications, our study reveals that family physicians must use as many of the capabilities supported by their EMR system as possible, especially those which support clinical tasks, if they are to maximize its performance benefits. To ensure extended use of their software, vendors must develop EMR systems that satisfy two important design characteristics: functional coverage and system ease of use.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ackground: เรียกจำนวนมากได้ทำการผสมกลมกลืนมากขึ้นของเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กรสุขภาพทั่วไป และการตั้งค่าหลักโดยเฉพาะการ พิจารณาระดับของการลงทุนและยอมรับในหลักปฏิบัติทางการแพทย์ ความเข้าใจที่ลึกซึ้งต้องปัจจัยที่นำไปสู่ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นจากระบบ EMR ดูแล ปัญหานี้ เราได้รับการพัฒนา และทดสอบแบบวิจัยที่ศูนย์กลางในแนวคิดการขยายใช้ EMR วิธีการ: การสำรวจออนไลน์ได้ดำเนินของแพทย์ครอบครัว 331 ในแคนาดาส่วนตัวแพทย์ปฏิบัติ empirically ทดสอบสมมุติฐานวิจัย 7 ที่ใช้เป็นส่วนประกอบตามโครงสร้างสมการวิธีการสร้างโมเดล ผลลัพธ์: สมมุติฐานที่ 5 มีบางส่วน หรือทั้งหมดได้รับการสนับสนุนข้อมูลของเรา แพทย์ครอบครัวในตัวอย่างของเราใช้ 67% ของการวิจัยทางคลินิกและ 41% ของฟังก์ชัน communicational ที่พร้อมใช้งานในระบบของ EMR เมื่อเทียบกับ 90% ของการดูแล ตามที่คาดไว้ ยืดอายุการใช้เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงที่สำคัญในการรับรู้ประสิทธิภาพ แล็ ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ระบบมีส่วนใหญ่เกี่ยวพันกับการสนับสนุนทางคลินิกโดยระบบการ EMR ขอบเขตที่ซึ่งแพทย์ใช้ระบบของ EMR ได้รับอิทธิพลจากลักษณะการออกแบบระบบสอง: ความครอบคลุมการทำงานและความง่ายในการใช้งาน ฟังก์ชันเพิ่มเติมที่มีอยู่ในระบบการ EMR และง่าย ที่จะใช้ ศักยภาพยิ่ง ผสม และจัดสรร โดยครอบครัวแพทย์ บทสรุป: การศึกษาของเรามีส่วนเอกสารประกอบการยัง โดยเสนอแนวคิดใหม่: ใช้ EMR ที่ขยาย ในด้านผลการปฏิบัติ เราพบว่า แพทย์ครอบครัวต้องใช้ความสามารถได้รับการสนับสนุน โดยระบบของ EMR สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สนับสนุนงานทางคลินิก ถ้าพวกเขาจะขยายประโยชน์ของประสิทธิภาพการทำงาน มากที่สุด เพื่อยืดอายุการใช้ซอฟต์แวร์ ผู้จัดจำหน่ายต้องพัฒนาระบบ EMR ที่ตอบสนองลักษณะการออกแบบสำคัญสอง: ทำงานระบบครอบคลุมและง่ายต่อการใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ackground: สายจำนวนมากได้รับการทำมากขึ้นสำหรับการดูดซึมของเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กรด้านการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปและในการตั้งค่าบริการปฐมภูมิโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิจารณาระดับของการลงทุนด้านไอทีและการยอมรับในการปฏิบัติทางการแพทย์หลักดูแลความเข้าใจที่ลึกซึ้งเป็นสิ่งจำเป็นของปัจจัยที่นำไปสู่​​ผลการดำเนินงานมากขึ้นจากระบบ EMR ในการดูแลหลัก เพื่อแก้ไขปัญหานี้เราพัฒนาและทดสอบรูปแบบการวิจัยที่มุ่งเน้นแนวคิดของ EMR ใช้ขยาย วิธีการ: การสำรวจออนไลน์ได้ดำเนินการ 331 ของแพทย์ครอบครัวในการปฏิบัติทางการแพทย์แคนาดาส่วนตัวถึงคุณสังเกตุการทดสอบสมมติฐานการวิจัยเจ็ดโดยใช้ส่วนประกอบที่ใช้วิธีการสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้าง ผลการศึกษา: ห้าสมมติฐานที่ได้รับบางส่วนหรือสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยข้อมูลของเรา แพทย์ครอบครัวในตัวอย่างของเราที่ใช้ 67% ของคลินิกและ 41% ของฟังก์ชัน communicational ที่มีอยู่ในระบบ EMR ของพวกเขาเมื่อเทียบกับ 90% ของคุณสมบัติของผู้ดูแลระบบ เป็นที่คาดหวังการใช้ขยายความสัมพันธ์กับการปรับปรุงที่สำคัญในการรับรู้ผลประโยชน์ ที่น่าสนใจผลประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ระบบถูกมัดเป็นหลักในการสนับสนุนทางคลินิกที่ให้บริการโดยระบบ EMR ขอบเขตที่แพทย์ได้ใช้ระบบ EMR ของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากสองลักษณะการออกแบบระบบ: คุ้มครองการทำงานและความสะดวกในการใช้งาน ฟังก์ชันอื่น ๆ ที่มีอยู่ในระบบ EMR และพวกเขาได้ง่ายขึ้นใช้งานที่มากขึ้นที่มีศักยภาพสำหรับการสำรวจการดูดซึมและการจัดสรรโดยแพทย์ครอบครัว สรุป: การศึกษาของเราได้มีส่วนร่วมกับวรรณกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่โดยเสนอแนวคิดใหม่: EMR ขยายการใช้งาน ในแง่ของความหมายในทางปฏิบัติของการศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าแพทย์ครอบครัวต้องใช้เป็นจำนวนมากของความสามารถในการสนับสนุนโดยระบบของพวกเขา EMR ที่เป็นไปได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สนับสนุนงานทางคลินิกถ้าพวกเขาจะเพิ่มผลประโยชน์ของตน เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้ยาวนานของซอฟต์แวร์ที่ผู้ขายจะต้องพัฒนาระบบ EMR ที่ตอบสนองสองลักษณะการออกแบบที่สำคัญความคุ้มครองการทำงานและความสะดวกในการใช้งานระบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ackground : หลายสายได้รับการทำสำหรับการมากขึ้นของเทคโนโลยีสารสนเทศในการดูแลสุขภาพในองค์กรทั่วไปและในการตั้งค่าการดูแลโดยเฉพาะ พิจารณาระดับของการลงทุนและการยอมรับในการปฏิบัติการแพทย์ปฐมภูมิ ความเข้าใจที่ลึกเป็นสิ่งจำเป็นของปัจจัยที่นำไปสู่การปฏิบัติมากขึ้นผลจากระบบ EMR ในการบริการปฐมภูมิเพื่อแก้ไขปัญหานี้ , เราได้พัฒนาและทดสอบแบบจำลองการวิจัยเป็นศูนย์กลางในแนวคิดของการใช้ EMR ขยาย วิธีการ : การสำรวจออนไลน์วัตถุประสงค์ของ 331 แพทย์ครอบครัวในการปฏิบัติทางการแพทย์ส่วนบุคคลเพื่อใช้ทดสอบแคนาดาเจ็ดสมมติฐานโดยใช้การโมเดลสมการโครงสร้างวิธีการ ผลลัพธ์ : ห้าสมมติฐานบางส่วนหรือได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้อมูลที่เรามีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวในตัวอย่างของเราใช้ 67% ของทางคลินิก และร้อยละ 41 ของฟังก์ชันการสื่อสารของระบบ EMR ของพวกเขาเมื่อเทียบกับร้อยละ 90 ของลักษณะงาน ตามที่คาดไว้ , การใช้ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงที่สำคัญในการรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติงาน น่าสนใจประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ระบบส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับทางคลินิกที่สนับสนุนโดยระบบ EMR . ขอบเขตที่แพทย์ใช้ระบบ EMR ของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากสองลักษณะการออกแบบระบบครอบคลุมการทำงานและใช้งานง่าย เพิ่มเติมฟังก์ชันที่มีอยู่ในระบบ EMR และง่ายที่พวกเขาจะใช้มากขึ้นที่มีศักยภาพสำหรับการสำรวจการดูดซึมและการจัดสรรแพทย์ครอบครัว สรุป : การศึกษาของเรามีส่วนในวรรณกรรมเท่าที่มีอยู่ โดยเสนอแนวคิดใหม่ : ใช้ EMR ขยาย ในแง่ของผลกระทบของการปฏิบัติ การศึกษาของเราพบว่า แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว จะต้องใช้เป็นจำนวนมากของความสามารถในการรองรับของระบบ EMR ที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ช่วยเหลืองานทางคลินิกถ้าพวกเขาจะเพิ่มประสิทธิภาพของผลประโยชน์ การใช้ซอฟต์แวร์ของพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขายจะต้องพัฒนาระบบ EMR ที่ตอบสนองสองคุณลักษณะสำคัญ : ครอบคลุมการออกแบบการทำงานและระบบใช้งานง่าย