The city of Dubai, on the Persian G

The city of Dubai, on the Persian Gulf, is one of the most expensive cities in the Middle East, famous for its fast cars, huge shopping malls, and a life of luxury. It is a global city, and makes most of its money from business and tourism.

Once a fishing settlement in the desert, Dubai was already an important port by the start of the 20th century.

Then in 1966, oil was discovered, and the city began to grow at an extremely fast rate. Schools, hospitals and roads were built, as well as a new airport, and the largest man-made harbour in the world.

Thousands of foreign workers started to arrive, and between 1968 and 1975 the city's population grew by over 300%.

Today there are over two million people living in this city of skyscrapers, hotels, and man-made islands.

Dubai is famous for its building projects. The Burj Khalifa is the world’s tallest man-made structure.

The Palm Islands are artificial islands made from sand taken from the bottom of the sea. Dubai has more than 70 shopping malls, and has been called the shopping capital of the Middle East.

It even has an indoor ski resort!

But has all this development been positive? There are over 1 million cars in Dubai, and only about 6% of the residents use public transport.

And environmental groups are worried about the negative effect that building places like the Palm Islands is having on wildlife.

By 2020, the population could be more than 3.5 million, and some people are worried about the amount of energy that will be needed to support so many residents.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเมืองของดูไบ ในอ่าวเปอร์เซีย เป็นหนึ่งในเมืองที่แพงที่สุดในตะวันออกกลาง ความเร็วรถ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และชีวิตหรู มันเป็นเมืองสากล และทำให้ส่วนใหญ่ของเงินจากธุรกิจและการท่องเที่ยว เมื่อชำระตกปลาในทะเลทราย ดูไบถูกแล้วเป็นท่าเรือสำคัญ โดยจุดเริ่มต้นของศตวรรษ 20 แล้ว ใน 1966 น้ำมันถูกค้นพบ และเมืองเริ่มเติบโตในอัตรารวดเร็วมาก โรงเรียน โรงพยาบาล และถนนถูกสร้างขึ้น สนามใหม่ และฮาร์เบอร์ที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก พันคนงานต่างชาติเริ่มเข้ามา และระหว่างค.ศ. 1968 และ 1975 ประชากรของเมืองเพิ่มขึ้นกว่า 300% วันนี้มีกว่าสองล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองตึกระฟ้า โรงแรม และหมู่เกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น ดูไบมีชื่อเสียงของโครงการอาคาร แต่เป็นโครงสร้างจำลองที่สูงที่สุดในโลก หมู่เกาะต้นปาล์มเกาะเทียมที่ทำจากทรายที่นำมาจากก้นทะเลได้ ดูไบมี 70 กว่าห้างสรรพสินค้า และมีการเรียกทุนช้อปปิ้งของตะวันออกกลาง ยังมีรีสอร์ทสกีในร่ม แต่ทั้งหมดนี้พัฒนาแล้วบวก มีรถยนต์กว่า 1 ล้านอยู่ในดูไบ และเพียง 6% ของคนที่ใช้ขนส่งสาธารณะ และกลุ่มสิ่งแวดล้อมเป็นห่วงผลกระทบที่อาคารสถานที่เช่นเกาะปาล์มมีในสัตว์ป่า 2563 ประชากรอาจจะมากกว่า 3.5 ล้าน และบางคนกังวลเกี่ยวกับปริมาณพลังงานที่จำเป็นเพื่อรองรับคนจำนวนมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมืองดูไบในอ่าวเปอร์เซียเป็นหนึ่งในเมืองที่แพงที่สุดในตะวันออกกลางที่มีชื่อเสียงสำหรับรถยนต์อย่างรวดเร็วของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และชีวิตหรูหรา มันเป็นเมืองที่ทั่วโลกและทำให้ส่วนใหญ่ของเงินจากธุรกิจและการท่องเที่ยว. เมื่อการตั้งถิ่นฐานของชาวประมงในทะเลทรายดูไบมีอยู่แล้วเป็นเมืองท่าสำคัญโดยจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20. จากนั้นในปี 1966 มีการค้นพบน้ำมันและเมือง เริ่มที่จะเติบโตในอัตราที่รวดเร็วมาก โรงเรียนโรงพยาบาลและถนนถูกสร้างขึ้นเช่นเดียวกับสนามบินใหม่และท่าเรือที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก. พันของแรงงานต่างชาติเริ่มต้นที่จะมาถึงและระหว่างปี 1968 และ 1975 ประชากรของเมืองเพิ่มขึ้นกว่า 300%. วันนี้มี มีมากกว่าสองล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองของตึกระฟ้านี้โรงแรมและหมู่เกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น. ดูไบเป็นที่มีชื่อเสียงสำหรับโครงการอาคาร Burj Khalifa เป็นโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นสูงที่สุดในโลก. เกาะปาล์มเป็นเกาะเทียมที่ทำจากทรายที่นำมาจากด้านล่างของทะเล ดูไบมีกว่า 70 ห้างสรรพสินค้าและได้รับการเรียกว่าทุนการช้อปปิ้งของตะวันออกกลาง. มันยังมีสกีรีสอร์ทในร่ม! แต่ได้ทั้งหมดการพัฒนานี้เป็นบวก? มีกว่า 1 ล้านคันในดูไบและมีเพียงประมาณ 6% ของประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ. และกลุ่มสิ่งแวดล้อมมีความกังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่สถานที่เช่นการสร้างเกาะปาล์มที่มีต่อสัตว์ป่า. โดยในปี 2020 ประชากรอาจจะมากขึ้น กว่า 3.5 ล้านและบางคนมีความกังวลใจเกี่ยวกับปริมาณของพลังงานที่จะต้องให้การสนับสนุนชาวบ้านจำนวนมากดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมืองดูไบ ในอ่าวเปอร์เซีย เป็นหนึ่งในเมืองที่แพงที่สุดในตะวันออกกลาง , ที่มีชื่อเสียงสำหรับรถยนต์อย่างรวดเร็วของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และชีวิตของหรูหรา มันเป็นเมืองที่ทั่วโลกและทำให้ส่วนใหญ่ของเงินจากธุรกิจและการท่องเที่ยว

เมื่อตกปลาการตั้งถิ่นฐานในทะเลทรายที่ดูไบก็เป็นท่าเรือที่สำคัญ โดยจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 .

จากนั้นในปี 1966 , น้ำมันถูกค้นพบและเมืองเริ่มเติบโตในอัตราที่รวดเร็วมาก . โรงเรียน โรงพยาบาล และถนนที่ถูกสร้างขึ้นเช่นเดียวกับสนามบินใหม่ และใหญ่ที่สุดที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ท่าเรือในโลก

หลายพันคนต่างประเทศเริ่มที่จะมาถึงและระหว่าง 2511 และ 1975 ประชากรของเมืองที่เติบโตกว่า 300 %

วันนี้มีมากกว่า 2 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งตึกระฟ้า นี้โรงแรมและ

เกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นดูไบมีชื่อเสียงสำหรับโครงการอาคารของ โรงแรมเบิร์จ คาลิฟา เป็นโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นที่สูงที่สุดในโลก

ปาล์มเกาะเป็นเกาะเทียมที่ทำจากทรายที่ถ่ายจากด้านล่างของทะเล ดูไบมีมากกว่า 70 ห้างสรรพสินค้า และถูกเรียกว่า ช้อปปิ้งทุนตะวันออกกลาง

มันมีรีสอร์ทสกีในร่ม !

แต่ทั้งหมดนี้พัฒนาเป็นบวก ?มีกว่า 1 ล้านคัน ในดูไบ และเพียงประมาณร้อยละ 6 ของผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ

และกลุ่มสิ่งแวดล้อมจะกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่ อาคาร สถานที่ เช่น ปาล์ม เป็นเกาะที่มีต่อสัตว์ป่า

โดย 2020 , ประชากรอาจจะมากกว่า 3.5 ล้าน และบางคนเป็นกังวลเกี่ยวกับปริมาณของพลังงานที่จะต้องใช้เพื่อสนับสนุนประชาชนมากมาย
.