ประวัติส่วนตัว ชื่อเต็ม : สตีเว่น จ

ประวัติส่วนตัว
ชื่อเต็ม : สตีเว่น จอร์จ เจอร์ราร์ด ( Steven George Gerrard )
วันเกิด : 30 พฤษภาคม 1980
สถานที่เกิด : วิสตัน,อังกฤษ
ส่วนสูง : 184 ซม.
น้ำหนัก : 77 กก.
ฉายา : Stevie G สตีวี่จี (บักเจิด)
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์
สโมสร : ลิเวอร์พูล
หมายเลขเสื้อ : 8

ผลงานกับสโมสร
1989 – 1997 เยาวชนลิเวอร์พูล
1997 – ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ลงเล่น 450 นัด ยิง 100 ประตู

ผลงานในทีมชาติ
ระดับทีมชาติ : 2000 – ปัจจุบัน ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่

ผลงานอย่างละเอียด

ฤดูกาล 1998-1999 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลเป็นนัดแรก ในนัดที่พบกับทีมเซลต้า บีโก้ ในแอนฟิลด์ โดยสิ้นสุดฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้ทีม 12 นัดซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นตัวสำรอง
ฤดูกาล 1999-2000 เจอร์ราร์ดได้มีโอกาสเล่นชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลอย่างเต็มตัว โดยเขาลงเล่น 29 นัด ยิงได้ 1 ประตู ซึ่งเขาเปลี่ยนมาเล่นบทมิดฟิลด์ตัวปะทะ ทำให้ได้รับใบเหลือง และใบแดงบ่อยครั้ง เจอร์ราร์ดถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดยูโร 2000 แต่เขาก็ได้แต่นั่งดูเกมในม้านั่งสำรองเท่านั้น
ฤดูกาล 2000-2001 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในเกมลีก 33 นัด ยิงได้ 7 ประตู และลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพอีก 9 นัดทำได้ 2 ประตู พาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ลีกคัพ, ยูฟ่าคัพ และเอฟเอคัพ
ฤดูกาล 2001-2002 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 28 นัดยิงได้ 3 ประตู และในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกอีก 12 นัดกับอีก 1 ประตู เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี(Young Player of the Year award) เจอร์ราร์ด ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่เขาเกิดมีอาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเดินทางร่วมทีมไปแข่งขันฟุตบอลโลกได้
ฤดูกาล 2002-2003 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัด ยิงได้ 5 ประตู และลงเล่นเกมยุโรปอีก 11 นัด และพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพโดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคู่ปรับตลอดกาล
ฤดูกาล 2003-2004 เจอร์ราร์ด ลงเล่นในเกมลีก 34 นัด ยิงได้ 4 ประตู และลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพ 8 นัด ยิงได้ 2 ประตู เจอร์ราร์ดถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส โดยพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนพ่ายกับโปรตุเกสเจ้าภาพ และในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล แทนที่ซามี่ ฮูเปีย
ฤดูกาล2004-2005 เขาลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตู และพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิงลีกคัพกับเชลซีแต่แพ้ไป3-2โดยเขาทำเข้าประตูตัว เองซึ่งเป็นประตูตีเสมอ1-1อีกด้วยแต่ก็สามารถพาทีมคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนลี ก โดยเอาชนะทีมเอซีมิลานจากการดวลจุดโทษ ซึ่งในครึ่งแรกทีมเอซีมิลานนำอยู่ถึง 3-0 แต่ลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอ 3-3
ฤดูกาล2005-2006 ประตูตีเสมอ Westham United (2-2) ในรอบชิงชนะเลิศ English FA CUP ส่งให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด ปรตูจากการยิงไกลระยะ 35 หลานี้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรอบชิงชนะเลิศตลอดกาล และทำให้สตีเฟน เจอร์ราร์ดเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 4 รายการใหญ่ League Cup กับ แมนฯ ยู , ยูฟ่าคัพ กับ อลาเบส และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ เอซี มิลาน
ฤดูกาล2006-2007 แม้จะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถผ่านเชลซีได้ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ และเข้าชิงกับเอซี มิลานอีกครั้ง แต่ก็ต้องพ่ายไป 2-1 สำหรับถ้วยในประเทศก็มีเพียง แชร์ริตี้ชีลด์ กับเชลซีเท่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติส่วนตัว
ชื่อเต็ม: สตีเว่นจอร์จเจอร์ราร์ด (Steven Gerrard george)
วันเกิด: 30 พฤษภาคม 1980
สถานที่เกิด: วิสตัน, อังกฤษ
ส่วนสูง: 184 ซมน้ำหนัก
. 77 กก
ฉายา: สตีวีจีสตีวี่จี (บักเจิด)
ตำแหน่ง: มิดฟิลด์
สโมสร: ลิเวอร์พูล
หมายเลขเสื้อ: 8

ผลงานกับสโมสร
1989-1997 เยาวชนลิเวอร์พูล
1997 - ปัจจุบันลิเวอร์พูลลงเล่น 450 นัดยิง 100 ประตู

ผลงานในทีมชาติ
ระดับทีมชาติ: 2000 - ปัจจุบัน ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่

ผลงานอย่างละเอียด

ฤดูกาล 1998-1999 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลเป็นนัดแรก ในนัดที่พบกับทีมเซลต้าบีโก้ในแอนฟิลด์ โดยสิ้นสุดฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้ทีม 12 นัดซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นตัวสำรอง
ฤดูกาล 1999-2000 เจอร์ราร์ดได้มีโอกาสเล่นชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลอย่างเต็มตัว โดยเขาลงเล่น 29 นัดได้ 1 ยิงประตู ซึ่งเขาเปลี่ยนมาเล่นบทมิดฟิลด์ตัวปะทะ ทำให้ได้รับใบเหลืองและใบแดงบ่อยครั้งฤดูกาล 2000-2001 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในเกมลีก 33 นัดยิงได้ 7 ประตูและลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพอีก 9 นัดทำได้ 2 ประตูพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกคัพ, ยูฟ่าคัพและเอ ฟเอคัพ
ฤดูกาล 2001-2002 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 28 นัดยิงได้ 3 ประตูและในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกอีก 12 นัดกับอีก 1 ประตู เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี(young ผู้เล่นที่ได้รับรางวัลปี) เจอร์ราร์ดฤดูกาล 2002-2003 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัดยิงได้ 5 ประตูและลงเล่นเกมยุโรปอีก 11 นัด และพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพโดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคู่ปรับตลอดกาล
ฤดูกาล 2003-2004 เจอร์นัดได้ 4 ยูฟ่าคัพ 8 นัดยิงได้ 2 ประตูราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 ยิงประตูและลงเล่นในเกม เจอร์ราร์ดถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกสโดยพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายและในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล แทนที่ซามี่ฮูเปีย
ฤดูกาล 2004-2005 เขาลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตู และพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิงลีกคัพกับเชลซีแต่แพ้ไป3-2โดยเขาทำเข้าประตูตัว เองซึ่งเป็นประตูตีเสมอ1-1อีกด้วยแต่ก็สามารถพาทีมคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนลี กซึ่งในครึ่งแรกทีมเอซีมิลานนำอยู่ถึง 3-0 แต่ลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอ 3-3
ฤดูกาล 2005-2006 ประตูตีเสมอแฮม (2-2) ในรอบชิงชนะเลิศถ้วยเอฟเอคัภาษาอังกฤษ ส่งให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด ปรตูจากการยิงไกลระยะ 35 หลานี้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรอบชิงชนะเลิศตลอดกาล และทำให้สตีเฟน4 รายการใหญ่ลีกคัพกับแมนฯ ยู,ยูฟ่าคัพกับอลาเบสและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับเอซีมิลาน
ฤดูกาล 2006-2007 แม้จะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถผ่านเชลซีได้ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้และเข้าชิงกับเอซีมิลานอีกครั้ง แต่ก็ต้องพ่ายไป 2-1 สำหรับถ้วยในประเทศก็มีเพียงแชร์ริตี้ชีลด์กับเชลซีเท่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติส่วนตัว
ชื่อเต็ม: สตีเว่นจอร์จเจอร์ราร์ด (สตีเวนจอร์จเจอร์ราร์ด)
วันเกิด: 30 พฤษภาคม 1980
สถานที่เกิด: วิสตัน อังกฤษ
ส่วนสูง: 184 ซม.
น้ำหนัก: 77 กก.
ฉายา: สตีวี่ G สตีวี่จี (บักเจิด)
ตำแหน่ง: มิดฟิลด์
สโมสร: ลิเวอร์พูล
หมายเลขเสื้อ: 8

ผลงานกับสโมสร
เยาวชนลิเวอร์พูล 1989-1997
1997 – ปัจจุบันลิเวอร์พูลลงเล่น 450 นัดยิง 100 ประตู

ผลงานในทีมชาติ
ระดับทีมชาติ: 2000 – ปัจจุบันทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่

ผลงานอย่างละเอียด

ปี 1998-1999 ฤดูกาลเจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลเป็นนัดแรกในนัดที่พบกับทีมเซลต้าบีโก้ในแอนฟิลด์โดยสิ้นสุดฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้ทีม 12 นัดซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นตัวสำรอง
ฤดูกาลปี 1999-2000 เจอร์ราร์ดได้มีโอกาสเล่นชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลอย่างเต็มตัวโดยเขาลงเล่น 29 นัดยิงได้ 1 ประตูซึ่งเขาเปลี่ยนมาเล่นบทมิดฟิลด์ตัวปะทะทำให้ได้รับใบเหลืองและใบแดงบ่อยครั้ง และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดยูโร 2000 แต่เขาก็ได้แต่นั่งดูเกมในม้านั่งสำรองเท่านั้น
ฤดูกาล 2000-2001 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในเกมลีก 33 นัดยิงได้ 7 ประตูและลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพอีก 9 นัดทำได้ 2 ประตูพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกคัพ ยูฟ่าคัพและเอฟเอคัพ
ฤดูกาลปี 2001-2002 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 28 นัดยิงได้ 3 ประตูและในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกอีก 12 นัดกับอีก 1 ประตูเขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี (Young Player ของรางวัลปี) เจอร์ราร์ด และญี่ปุ่นแต่เขาเกิดมีอาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเดินทางร่วมทีมไปแข่งขันฟุตบอลโลกได้
2002-2003 ฤดูกาลเจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัดยิงได้ 5 ประตูและลงเล่นเกมยุโรปอีก 11 นัดและพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพโดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคู่ปรับตลอดกาล
ฤดูกาล 2003-2004 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัดยิงได้ 4 ประตูและลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพ 8 นัดยิงได้ 2 ประตูเจอร์ราร์ดถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกสโดยพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูลแทนที่ซามี่ฮูเปีย
ฤดูกาล2004 2005 เขาลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตู และพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิงลีกคัพกับเชลซีแต่แพ้ไป3 2โดยเขาทำเข้าประตูตัว เองซึ่งเป็นประตูตีเสมอ1 1อีกด้วยแต่ก็สามารถพาทีมคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนลี พบว่ามี ซึ่งในครึ่งแรกทีมเอซีมิลานนำอยู่ถึง 3 0 แต่ลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอ 3-3
Westham ประตูตีเสมอ ฤดูกาล2005-2006 ยูไนเต็ด (2-2) ในรอบชิงชนะเลิศภาษาอังกฤษ FA คัพส่งให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ในท้ายที่สุดปรตูจากการยิงไกลระยะ 35 หลานี้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรอบชิงชนะเลิศตลอดกาลและทำให้สตีเฟน ลีรายการใหญ่ 4 ถ้วยดื่มด่ำแมนฯ ยู ยูฟ่าคัพดื่มด่ำอลาเบสและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกดื่มด่ำเอซีมิลาน
ฤดูกาล2006 2007 แม้จะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถผ่านเชลซีได้ในรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้และเข้าชิงกับเอซีมิลานอีกครั้งแต่ก็ต้องพ่ายไปสำหรับถ้วยในประเทศก็มีเพียง 2-1 แชร์ริตี้ชีลด์กับเชลซีเท่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติส่วนตัว
ชื่อเต็ม:สตีเว่นจอร์จเจอร์ราร์ด( Steven จอร์จ gerrard )
วันเกิด: 30 พฤษภาคม 1980
สถานที่เกิด:วิสตัน,อังกฤษ
ส่วนสูง: 184 ซม.
น้ำหนัก: 77 กก.
ฉายา: stevie G สตีวี่จี(บักเจิด)
ตำแหน่ง:มิดฟิลด์
สโมสร:ลิเวอร์พูล
หมายเลขเสื้อ 8

ผลงานกับสโมสร
1989 - 1997 เยาวชนลิเวอร์พูล
1997 - ปัจจุบันลิเวอร์พูลลงเล่น 450 นัดยิง 100 ประตู

ผลงานในทีมชาติ
ระดับทีมชาติ 2000 - ปัจจุบัน ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่

ผลงานอย่างละเอียด

ฤดูกาล 1998-1999 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พในนัดที่พบกับทีมเซลต้าบีโก้ในแอนฟิลด์โดยสิ้นสุดฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้ทีม 12 นัดซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นตัวสำรอง
ตามมาตรฐานฤดูกาล 1999-2000 เจอร์ราร์ดได้มีโอกาสเล่นชุดใหญ่ของลิเวอร์พโดยเขาลงเล่น 29 นัดยิงได้ 1 ประตูซึ่งเขาเปลี่ยนมาเล่นบทมิดฟิลด์ตัวปะทะทำให้ได้รับใบเหลืองและใบแดงบ่อยครั้งและมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดยูโร 2000 แต่เขาก็ได้แต่นั่งดูเกมในม้านั่งสำรองเท่านฤดูกาล 2000-2001 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในเกมลีก 33 นัดยิงได้ 7 ประตูและลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพอีก 9 นัดทำได้ 2 ประตูพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกคัพ,ยูฟ่าคัพและเอฟเอคัพ
ฤดูกาล 2001-2002 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 28 นัดยิงได้ 3 ประตูและในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกอีก 12 นัดกับอีก 1 ประตูเขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแหผู้เล่นแห่งปีรางวัล)เจอร์ราร์ดและญี่ปุ่นแต่เขาเกิดมีอาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเดินฤดูกาล 2002-2003 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัดยิงได้ 5 ประตูและลงเล่นเกมยุโรปอีกและพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพโดยเอาชนะแมนเชสเตอร 11 นัดฤดูกาล 2003-2004 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัดยิงได้ 4 ประตู 8 นัดและลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพยิงได้ 2 ประตูเจอร์ราร์ดถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึ 2004 ที่โปรตุเกสโดยพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายและในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้รับแต่งตั้งให้เแทนที่ซามี่ฮูเปีย
ตามมาตรฐานฤดูกาล 2004-2005 เขาลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตูและพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิงลีกคัพกับเชลซีแต่ เองซึ่งเป็นประตูตีเสมอ1-1อีกด้วยแต่ก็สามารถพ กซึ่งในครึ่งแรกทีมเอซีมิลานนำอยู่ถึง 3-0 3-0 3-0 3-0 3-0 แต่ลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอ 3-3
ฤดูกาล 2005-2006 ประตูตีเสมอ westham ประเทศสหรัฐอเมริกา( 2-2 )ในรอบชิงชนะเลิศ ภาษาอังกฤษ ฟ้าถ้วยส่งให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ในท้ายที่สุดปรตูจากการยิงไกลระยะ 35 หลานี้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรอบชิงชนและทำให้สตีเฟน4 ถ้วยพรีเมียร์ลีกรายการใหญ่กับแมนฯยูยูฟ่าคัพกับอลาเบสและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับเอซีมิลาน
ตามมาตรฐานฤดูกาล 2006-2007 แม้จะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถผ่านเชลซีได้ในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้และเข้าชิงกับเอซีมิลานอีกครั้งแต่ก็ต้องพ่ายไป 2-1 2-1 2-1 สำหรับถ้วยในประเทศก็มีเพียงแชร์ริตี้ชีลด์กับเชลซีเท่านั้น