Summary The behaviourist perspectiv

Summary


The behaviourist perspective The innatist perspective Interactionist/
developmental perspectives

Time Frame


Advocates


What is language?


Why is it the way it is?



Why just humans?



How do children get language?




How do you find out about human language?



Early 1900& 1940s &1950s

B.F. Skinner


“Habit”



It is the surface forms that are imitated and practiced.


We can say what we hear.


They learn by strengthening the correct response through positive reinforcement.

Repeat language forms produced by people in the environment (making a connection between stimuli& responses)
1960s& 1970s


Noam Chomsky


“Knowledge”



It is an arbitrary system consistent with the structure of human brain.

We have language genes.


They are born with a genetic predisposition to acquire language.



Use native speaker intuitions to reveal allowable structures, usually out of context


1980s,1990s & early 2000

Piaget &Vygotsky


“Use”



It’s designed for efficient communi-cation & processing.


We’re generally smart.


They learn language through general learning strategies.



Observe how language is actually used, in discourse context.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุป Behaviourist มุมมองมุมมอง innatist Interactionist /พัฒนามุมมองกรอบเวลาสนับสนุนภาษาคืออะไรทำไมเป็นมันคือทำไมเพียงแค่มนุษย์วิธีทำเด็กจึงรับภาษาวิธีทำคุณรู้ภาษามนุษย์ 1900 ต้นทศวรรษ 1940 โดยและ และมินิสกินเนอร์ B.F."นิสัย"แบบพื้นผิวที่เลียนแบบ และฝึกฝนได้เราสามารถพูดสิ่งที่เราได้ยินพวกเขาเรียนรู้ โดยการเพิ่มการตอบสนองที่ถูกต้องผ่านการเสริมแรงทางบวกทำซ้ำรูปแบบภาษาที่ผลิต โดยคนในสภาพแวดล้อม (การเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง) 1960s และทศวรรษ 1970โนมชัมสกี"ความรู้"การกำหนดระบบที่สอดคล้องกับโครงสร้างของสมองมนุษย์ได้เรามียีนภาษาพวกเขาจะเกิดกับ predisposition พันธุกรรมการรับภาษาใช้เจ้า intuitions คิดจะเปิดเผยโครงสร้างได้ มักจะออกจากบริบท ไฟต์ ปี 1990 และ 2000 ต้นปียาแฌและ Vygotsky"ใช้"มันถูกออกแบบมาสำหรับ cation ฮาวายชุดสื่อสารมีประสิทธิภาพและประมวลผลเราโดยทั่วไปสมาร์ทพวกเขาเรียนภาษาผ่านกลยุทธ์การเรียนรู้ทั่วไปสังเกตว่า ภาษาจะใช้จริง ในบริบทวาทกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปมุมมองพฤติกรรมมุมมอง innatist Interactionist / มุมมองการพัฒนากรอบเวลาAdvocates ภาษาอะไรทำไมมันเป็นอย่างที่มันเป็นคืออะไร? ทำไมเพียงแค่มนุษย์? เด็กไม่ได้รับภาษาได้อย่างไรคุณจะพบข้อมูลเกี่ยวกับภาษามนุษย์ได้อย่างไรในช่วงต้น 1900 และปี 1940 และปี 1950 BF สกินเนอร์"นิสัย" มันเป็นรูปแบบพื้นผิวที่มีการเลียนแบบและการปฏิบัติ. เราสามารถพูดในสิ่งที่เราได้ยิน. พวกเขาเรียนรู้โดยการเสริมสร้างการตอบสนองที่ถูกต้องผ่านการเสริมแรงบวก. ทำซ้ำรูปแบบภาษาที่ผลิตโดยคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อม (ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง) ปี 1960 และปี 1970 โนมชัม"ความรู้" มันเป็นระบบโดยพลการที่สอดคล้องกับโครงสร้างของสมองของมนุษย์. เรามียีนภาษา. พวกเขาจะเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางพันธุกรรมที่จะได้รับภาษา. ใช้สัญชาติญาณเจ้าของภาษาที่จะเปิดเผยโครงสร้างที่อนุญาตมักจะออกไปจากบริบท1980 , ปี 1990 และต้นปี 2000 เพียเจต์และ Vygotsky "ใช้" มันออกแบบมาสำหรับประสิทธิภาพ communi ไอออนบวกและการประมวลผล. เราสมาร์ททั่วไป. พวกเขาเรียนรู้ภาษาผ่านกลยุทธ์การเรียนรู้ทั่วไป. สังเกตว่าภาษาที่ใช้จริงในบริบทวาทกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป


behaviourist มุมมองมุมมองมุมมองพัฒนาการ innatist interactionist /





สนับสนุนกรอบเวลา

แล้วเป็นภาษา ?


ทำไมมันเป็นแบบนี้ ?



ทำไมมนุษย์ ?



ทำไมเด็กได้ภาษา




อย่างไรคุณหาเกี่ยวกับภาษาของมนุษย์



&ช่วงต้น 1900 1940 1950 b.f. สกินเนอร์&




" นิสัย "



มันคือพื้นผิวรูปแบบที่เลียนแบบ

และปฏิบัติเราสามารถพูดได้ว่า สิ่งที่เราได้ยิน


เรียนโดยการเสริมสร้างการตอบสนองที่ถูกต้องผ่านการเสริมแรงทางบวก

ย้ำรูปแบบภาษา ผลิตโดยผู้คนในสภาพแวดล้อม ( ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างการตอบสนองสิ่งเร้า& )



& 1960 1970 แองกลิคัน


" ความรู้ "



มันเป็นกฎเกณฑ์ ระบบที่สอดคล้องกับโครงสร้างของมนุษย์เรามีสมอง .




ยีนภาษาพวกเขาจะเกิดกับจูงใจทางพันธุกรรมที่จะได้รับภาษา



ใช้เจ้าของภาษาสัญชาตญาณที่จะเปิดเผยอนุญาตโครงสร้างมักจะออกไป


1980 , 1990 &ช่วงต้นปี 2000




&เพียเจต์ แนวคิด " การใช้ "



มันออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร การ&การประมวลผล .


เราโดยทั่วไปสมาร์ท


เรียนภาษาโดยทั่วไปกลยุทธ์การเรียนรู้



สังเกตว่าภาษาก็ใช้ในบริบท .