Racquets[edit]Badminton rackets are

Racquets[edit]
Badminton rackets are lightweight, with top quality racquets weighing between 70 and 95 grams (2.4 to 3.3 ounces) not including grip or strings.[11][12] They are composed of many different materials ranging from carbon fibre composite (graphite reinforced plastic) to solid steel, which may be augmented by a variety of materials. Carbon fibre has an excellent strength to weight ratio, is stiff, and gives excellent kinetic energy transfer. Before the adoption of carbon fibre composite, racquets were made of light metals such as aluminum. Earlier still, racquets were made of wood. Cheap racquets are still often made of metals such as steel, but wooden racquets are no longer manufactured for the ordinary market, because of their excessive mass and cost. Nowadays, nanomaterials such as fullerene and carbon nanotubes are added to rackets giving them greater durability.[citation needed]
There is a wide variety of racquet designs, although the laws limit the racquet size and shape. Different racquets have playing characteristics that appeal to different players. The traditional oval head shape is still available, but an isometric head shape is increasingly common in new racquets.
Strings[edit]
Badminton strings are thin, high performing strings with thicknesses ranging from about 0.62 to 0.73 mm. Thicker strings are more durable, but many players prefer the feel of thinner strings. String tension is normally in the range of 80 to 160 N (18 to 36 lbf). Recreational players generally string at lower tensions than professionals, typically between 80 and 110 N (18 and 25 lbf). Professionals string between about 110 and 160 N (25 and 36 lbf). Some string manufacturers measure the thickness of their strings under tension so they are actually thicker than specified when slack. Ashaway Micropower is actually 0.7mm but Yonex BG-66 is about 0.72mm.
It is often argued that high string tensions improve control, whereas low string tensions increase power.[13] The arguments for this generally rely on crude mechanical reasoning, such as claiming that a lower tension string bed is more bouncy and therefore provides more power. This is in fact incorrect, for a higher string tension can cause the shuttle to slide off the racquet and hence make it harder to hit a shot accurately. An alternative view suggests that the optimum tension for power depends on the player:[11] the faster and more accurately a player can swing their racquet, the higher the tension for maximum power. Neither view has been subjected to a rigorous mechanical analysis, nor is there clear evidence in favour of one or the other. The most effective way for a player to find a good string tension is to experiment.
Grip[edit]
The choice of grip allows a player to increase the thickness of their racquet handle and choose a comfortable surface to hold. A player may build up the handle with one or several grips before applying the final layer.
Players may choose between a variety of grip materials. The most common choices are PU synthetic grips or towelling grips. Grip choice is a matter of personal preference. Players often find that sweat becomes a problem; in this case, a drying agent may be applied to the grip or hands, sweatbands may be used, the player may choose another grip material or change his/her grip more frequently.
There are two main types of grip: replacement grips and overgrips. Replacement grips are thicker, and are often used to increase the size of the handle. Overgrips are thinner (less than 1 mm), and are often used as the final layer. Many players, however, prefer to use replacement grips as the final layer. Towelling grips are always replacement grips. Replacement grips have an adhesive backing, whereas overgrips have only a small patch of adhesive at the start of the tape and must be applied under tension; overgrips are more convenient for players who change grips frequently, because they may be removed more rapidly without damaging the underlying material.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Racquets [แก้ไข]มีไม้เทนนิสแบดมินตันมีน้ำหนักเบา racquets คุณภาพชั่งระหว่าง 70 และ 95 กรัม (2.4-3.3 ออนซ์) รวมทั้งไม่จับหรือสายอักขระ [11] [12] จะประกอบด้วยวัสดุต่าง ๆ มากมายตั้งแต่คอมโพสิตเส้นใยคาร์บอน (แกรไฟต์เสริมพลาสติก) เหล็กแข็ง ซึ่งอาจขยาย โดยความหลากหลายของวัสดุ เส้นใยคาร์บอนมีความแข็งแรงดีอัตราส่วนน้ำหนัก แข็ง และให้ถ่ายโอนแห่งพลังงานจลน์ ก่อนที่จะยอมรับคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต racquets ได้ทำจากโลหะอ่อนเช่นอลูมิเนียม ก่อนหน้านี้ยัง racquets ที่ทำจากไม้ Racquets ราคาถูกยังมักจะทำจากโลหะเช่นเหล็ก แต่ไม่ที่ผลิตสำหรับตลาดธรรมดา racquets ไม้เนื่องจากมวลมากเกินไปและต้นทุนของพวกเขา ปัจจุบัน nanomaterials เช่นฟูลเลอรีนและคาร์บอน nanotubes ถูกเพิ่มเข้าไปให้ความทนทานมากกว่าเพื่ [ต้องการอ้างอิง]มีความหลากหลายของการออกแบบไม้ แม้ว่ากฎหมายจำกัดไม้ขนาดและรูปร่าง Racquets แตกต่างกันมีการเล่นลักษณะอุทธรณ์นั้นให้ผู้เล่นอื่น รูปร่างใหญ่รูปวงรีแบบดั้งเดิมยังคงมีอยู่ แต่มีรูปร่างใหญ่วาดสามมิติเป็นมากขึ้นใน racquets ใหม่สตริงที่ [แก้ไข]สายแบดมินตันมีบาง สายประสิทธิภาพสูง มีความหนาตั้งแต่เกี่ยวกับ 0.62 0.73 mm. หนาสายมีความทนทานมากขึ้น แต่ผู้เล่นจำนวนมากชอบความรู้สึกของสายน้ำมันทินเนอร์ ความตึงเครียดของสายปกติอยู่ในช่วงของ 80 กับ 160 N (18 ถึง 36 lbf) ผู้เล่นได้ออกกำลังกายโดยทั่วไปสายอักขระที่ตึงเครียดต่ำกว่ามืออาชีพ โดยทั่วไประหว่าง 80 และ 110 N (lbf 18 และ 25) ผู้เชี่ยวชาญด้านสตริงการระหว่างประมาณ 110 และ 160 N (lbf 25 และ 36) บางผู้ผลิตสายวัดความหนาของสายอักขระของตนภายใต้ความตึงเครียดเพื่อให้หนาขึ้นจริงระบุเมื่อขึง Ashaway Micropower เป็นจริง 0.7 มม. แต่ Yonex BG 66 ประมาณ 0.72mmมันเป็นมักจะโต้เถียงว่า ความตึงเครียดสูงสายควบคุม ปรับปรุงในขณะที่ความตึงเครียดของสายต่ำเพิ่มพลัง [13] อาร์กิวเมนต์นี้โดยทั่วไปอาศัยความดิบเหตุผลกล เช่นอ้างว่า เตียงล่างตึงสายคณิตศาสตร์มากขึ้น และมีอำนาจมากขึ้น นี่คือในความเป็นจริงถูกต้อง สำหรับสตริงที่สูงกว่า ความตึงเครียดอาจทำให้รถเลื่อนปิดไม้ และจึง ทำให้ยากที่จะตียิงอย่างถูกต้อง มุมมองอื่นแนะนำว่า ความตึงเครียดที่เหมาะสมสำหรับพลังงานขึ้นอยู่กับ player: [11] ได้เร็วขึ้น และถูกต้องมากขึ้นเครื่องเล่นสามารถสวิงไม้ของพวกเขา ความตึงเครียดสูงสำหรับอำนาจสูงสุดได้ ไม่ดูภายใต้การวิเคราะห์เครื่องจักรกลอย่างเข้มงวด ไม่เป็นชัดเจนมีหลักฐานลงหนึ่งหรืออื่น ๆ วิธีมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับเครื่องเล่นหาแรงสายดีจะทดลองจับ [แก้ไข]เลือกจับเล่นเพื่อเพิ่มความหนาของการจับไม้ และเลือกพื้นผิวสะดวกสบายเพื่อเก็บได้ เครื่องเล่นอาจสร้างหมายเลขอ้างอิงกับ หนึ่งจับก่อนที่จะใช้ชั้นสุดท้ายผู้เล่นอาจเลือกระหว่างจับวัสดุที่หลากหลาย มีตัวเลือกมากที่สุดปูสังเคราะห์จับหรือจับ towelling เลือกจับเป็นเรื่องของการกำหนดลักษณะส่วนบุคคล ผู้เล่นมักจะพบว่า เหงื่อกลายเป็น ปัญหา ในกรณีนี้ ตัวแทนเป่าแห้งอาจใช้การจับหรือมือ อาจใช้ sweatbands ผู้เล่นอาจเลือกอื่นจับวัสดุ หรือเปลี่ยนเขา/เธอจับบ่อยมีสองประเภทหลักของการจับ: จับแทนและ overgrips จับแทนจะหนา และมักใช้เพื่อเพิ่มขนาดของหมายเลขอ้างอิง Overgrips จะบาง (น้อยกว่า 1 มิลลิเมตร), และมักใช้เป็นชั้นสุดท้าย ผู้เล่นมากมาย อย่างไรก็ตาม ต้องการใช้แทนจับเป็นชั้นสุดท้าย Towelling จับมักจับแทน จับเปลี่ยนมีกาวสำรอง ในขณะที่ overgrips มีเฉพาะแพทช์เล็ก ๆ ของกาวที่จุดเริ่มต้นของเทป และต้องใช้ภายใต้ความตึงเครียด overgrips จะสะดวกกว่าสำหรับผู้เล่นที่เปลี่ยนจับบ่อย เนื่องจากพวกเขาอาจถูกเอาออกอย่างรวดเร็วมากขึ้นโดยไม่ทำลายวัสดุต้นแบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม้ [แก้ไข]
ไม้แบดมินตันมีน้ำหนักเบาด้วยไม้ที่มีคุณภาพสูงชั่งน้ำหนักระหว่าง 70 และ 95 กรัม (2.4-3.3 ออนซ์) ไม่รวมถึงการจับหรือสตริง. [11] [12] ที่มีองค์ประกอบของวัสดุที่แตกต่างกันตั้งแต่คอมโพสิตคาร์บอนไฟเบอร์ ( กราไฟท์พลาสติกเสริม) เพื่อเหล็กแข็งซึ่งอาจจะเติมโดยความหลากหลายของวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความแข็งแรงที่ดีที่จะอัตราส่วนน้ำหนักเป็นแข็งและช่วยให้การถ่ายโอนพลังงานจลน์ที่ดีเยี่ยม ก่อนที่การยอมรับของคอมโพสิตคาร์บอนไฟเบอร์, ไม้ที่ทำจากโลหะเบาเช่นอลูมิเนียม ก่อนหน้านี้ยังคงไม้ที่ทำจากไม้ ไม้ราคาถูกยังคงมักจะทำจากโลหะเช่นเหล็ก แต่ไม้ไม้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตไม่ได้สำหรับตลาดธรรมดาเพราะมวลที่มากเกินไปของพวกเขาและค่าใช้จ่าย ปัจจุบันวัสดุนาโนเช่น fullerene และท่อนาโนคาร์บอนจะถูกเพิ่มลงไม้ให้พวกเขามีความทนทานมากขึ้น. [อ้างจำเป็น]
มีความหลากหลายของการออกแบบไม้แม้กฎหมาย จำกัด ขนาดไม้และรูปร่าง ไม้ที่แตกต่างกันมีลักษณะการเล่นที่ดึงดูดผู้เล่นที่แตกต่างกัน รูปร่างหัวรูปไข่แบบดั้งเดิมยังคงมีอยู่ แต่เป็นรูปหัวมีมิติเท่ากันเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในไม้ใหม่.
Strings [แก้ไข]
สตริงแบดมินตันมีบางสายที่มีประสิทธิภาพสูงที่มีความหนาตั้งแต่ประมาณ 0.62-0.73 มิลลิเมตร สตริงหนามีความคงทนมากขึ้น แต่ผู้เล่นหลายคนชอบความรู้สึกของสตริงทินเนอร์ ความตึงเครียด String เป็นปกติในช่วง 80-160 N (18-36 ปอนด์) ผู้เล่นนันทนาการสตริงทั่วไปที่ความตึงเครียดต่ำกว่ามืออาชีพปกติระหว่าง 80 และ 110 N (18 และ 25 ปอนด์) สตริงผู้เชี่ยวชาญระหว่างประมาณ 110 และ 160 N (25 และ 36 ปอนด์) ผู้ผลิตสตริงบางวัดความหนาของสตริงของพวกเขาภายใต้ความตึงเครียดเพื่อให้พวกเขาเป็นจริงหนากว่าที่ระบุไว้เมื่อหย่อน Ashaway Micropower เป็นจริง 0.7mm แต่ Yonex BG-66 เป็นเรื่องเกี่ยวกับ 0.72mm.
มันเป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งที่ความตึงเครียดสูงสตริงปรับปรุงการควบคุมในขณะที่ความตึงเครียดสตริงต่ำเพิ่มพลัง. [13] ข้อโต้แย้งในการนี้โดยทั่วไปขึ้นอยู่กับเหตุผลกลน้ำมันดิบเช่น อ้างว่าเตียงสตริงความตึงเครียดลดลงมากขึ้นเด้งและดังนั้นจึงมีอำนาจมากขึ้น นี่คือความจริงที่ไม่ถูกต้องสำหรับความตึงเครียดสตริงที่สูงขึ้นอาจทำให้เกิดรถรับส่งที่จะเลื่อนออกไม้และด้วยเหตุนี้ทำให้มันยากขึ้นที่จะตียิงได้อย่างถูกต้อง มุมมองทางเลือกให้เห็นว่าความตึงเครียดที่ดีที่สุดสำหรับการใช้พลังงานขึ้นอยู่กับผู้เล่น: [11] ได้เร็วขึ้นและถูกต้องมากขึ้นผู้เล่นสามารถแกว่งไม้ของพวกเขาที่สูงกว่าความตึงเครียดสำหรับการใช้พลังงานสูงสุด มุมมองที่ไม่ได้รับภายใต้การวิเคราะห์กลอย่างเข้มงวดหรือมีหลักฐานที่ชัดเจนในความโปรดปรานของหนึ่งหรืออื่น ๆ วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับผู้เล่นที่จะได้พบกับความตึงเครียดสตริงที่ดีคือการทดสอบ.
จับ [แก้ไข]
ทางเลือกของด้ามจับช่วยให้ผู้เล่นที่จะเพิ่มความหนาของการจัดการไม้ของพวกเขาและเลือกพื้นผิวที่สะดวกสบายในการถือ ผู้เล่นอาจสร้างขึ้นด้ามจับหนึ่งหรือหลายก่อนที่จะใช้ชั้นสุดท้าย.
ผู้เล่นอาจจะเลือกระหว่างความหลากหลายของวัสดุจับ ทางเลือกที่พบมากที่สุดคือ PU จับสังเคราะห์หรือจับ toweling ทางเลือกที่ด้ามจับเป็นเรื่องของการตั้งค่าส่วนตัว ผู้เล่นมักจะพบเหงื่อที่กลายเป็นปัญหา; ในกรณีนี้ตัวแทนอบแห้งอาจจะนำไปใช้กับการจับหรือมือ sweatbands อาจจะใช้ผู้เล่นสามารถเลือกวัสดุที่จับอีกหรือเปลี่ยน / จับของเขาและเธอบ่อยครั้งมากขึ้น.
มีสองประเภทหลักของด้ามจับคือจับทดแทนและ overgrips จับเปลี่ยนจะหนาและมักจะใช้เพื่อเพิ่มขนาดของด้ามจับ Overgrips มีทินเนอร์ (น้อยกว่า 1 มิลลิเมตร) และมักจะใช้เป็นชั้นสุดท้าย ผู้เล่นหลายคน แต่ชอบที่จะใช้จับเปลี่ยนเป็นชั้นสุดท้าย จับ Towelling มักจะจับแทน จับเปลี่ยนได้รับการสนับสนุนกาวในขณะที่มีเพียง overgrips แพทช์เล็กของกาวที่จุดเริ่มต้นของเทปและต้องนำมาใช้ภายใต้ความตึงเครียด; overgrips มีความสะดวกมากขึ้นสำหรับผู้เล่นที่จับเปลี่ยนบ่อยเพราะพวกเขาอาจถูกลบออกมากขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทำลายวัสดุพื้นฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทนนิส [ แก้ไข ]
แบดมินตันไม้ที่มีน้ำหนักเบาด้วยคุณภาพสูงสุดเทนนิสหนักระหว่าง 70 และ 95 กรัม ( 2.4 3.3 ออนซ์ ) ไม่รวมด้ามจับหรือสตริง . [ 11 ] [ 12 ] พวกเขาจะประกอบด้วยวัสดุที่แตกต่างกันมากตั้งแต่คาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต ( พลาสติกเสริมแกรไฟต์ ) เหล็กแข็ง ซึ่งอาจจะเติมโดย ความหลากหลายของวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มีความแข็งแรงต่อน้ำหนักที่ดี , แข็ง , และช่วยให้การถ่ายโอนพลังงานจลน์ที่ยอดเยี่ยม ก่อนการใช้คาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต เทนนิสทำจากโลหะอ่อน เช่น อลูมิเนียม ก่อนหน้านี้ ยังเป็นแฟชั่นที่ทำจากไม้ แฟชั่นราคาถูกยังมักจะทำจากโลหะเช่นเหล็ก แต่เทนนิส ไม้จะไม่ผลิตเพื่อตลาดธรรมดาเพราะมวลมากเกินไปของพวกเขาและค่าใช้จ่าย ทุกวันนี้ nanomaterials เช่น ฟูลเลอรีนคาร์บอนและเพิ่มไม้ให้ทนทานมากขึ้น . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]
มีหลากหลายรูปแบบไป แม้ว่ากฎหมายจำกัดไม้ขนาดและรูปร่าง เล่นเทนนิสที่แตกต่างกันมีลักษณะที่ดึงดูดผู้เล่นที่แตกต่างกันแบบรูปร่างศีรษะรูปไข่ยังคงมีอยู่ แต่รูปร่างเป็นหัวโตเป็นปกติมากขึ้นในแฟชั่นใหม่ [ แก้ไข ]

สายแบดมินตันสายผอม สูงแสดงสตริงที่มีความหนาตั้งแต่ประมาณ 0.62 ถึง 0.73 มิลลิเมตร สายหนาทนทานมากขึ้น แต่ผู้เล่นหลายคนรู้สึกว่าสายบาง ความตึงปกติในช่วง 80 ถึง 160 N ( 18 ถึง 36 lbf )ผู้เล่นสันทนาการทั่วไปสตริงที่ความตึงเครียดน้อยกว่าผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติระหว่าง 80 และ 110 N ( 18 และ 25 lbf ) สายอาชีพระหว่าง 110 และ 160 N ( 25 และ 36 lbf ) บางผู้ผลิตสาย วัดความหนาของสตริงของพวกเขาภายใต้ความตึงเครียดดังนั้นพวกเขาจริงหนาเกินกำหนด เมื่อหย่อน ashaway micropower เป็นจริง 0.7mm แต่ Yonex bg-66 เกี่ยวกับ 0.72mm .
มันมักจะแย้งว่าสายป่านความตึงเครียดสูงปรับปรุงการควบคุม ในขณะที่ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นพลังงานต่ำสตริง [ 13 ] อาร์กิวเมนต์นี้มักจะพึ่งพาน้ำมันดิบทางเหตุผล เช่น อ้างว่าลดความตึงเตียงเด้งมากขึ้นและดังนั้นจึงให้พลังงานมากกว่า นี่คือในความเป็นจริงไม่ถูกต้องสําหรับความตึงสูง สามารถทำให้รถเลื่อนออกไป และจึงทำให้มันยากที่จะตียิงแม่น มุมมองทางเลือก ชี้ให้เห็นว่า ความตึงเครียดที่เหมาะสมสำหรับพลังงานขึ้นอยู่กับผู้เล่น : [ 11 ] ได้เร็วขึ้นและถูกต้องมากขึ้น ผู้เล่นสามารถสวิงแร็กเก็ตของพวกเขา ยิ่งแรง ให้พลังสูงสุด หรือมุมมองที่ได้รับภายใต้ความเป็นจักรกลการวิเคราะห์หรือมีหลักฐานชัดเจนในความโปรดปรานของหนึ่งหรืออื่น ๆ วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับผู้เล่นที่จะหาความตึงที่ดีคือ การทดลองจับ [ แก้ไข ]

จอง Grip จะช่วยให้ผู้เล่นเพื่อเพิ่มความหนาของไม้เทนนิสของพวกเขาจัดการและเลือกพื้นผิวที่สะดวกสบายในการถือ ผู้เล่นอาจสร้างขึ้นในการจัดการกับหนึ่งหรือหลาย จับก่อนใช้เลเยอร์สุดท้าย .
ผู้เล่นสามารถเลือกระหว่างความหลากหลายของวัสดุยึดเกาะ ทางเลือกที่พบมากที่สุดเป็น PU grips สังเคราะห์หรือ towelling คลิบ จับเลือกเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว ผู้เล่นมักจะพบว่า เหงื่อจะกลายเป็นปัญหา ในกรณีนี้ตัวแทนอบแห้ง อาจจะใช้กับมือหรือมือ , sweatbands อาจใช้ ผู้เล่นอาจเลือกอื่นจับวัสดุ หรือเปลี่ยนของเขา / เธอจับบ่อย
มีอยู่สองประเภทหลักของจับ : จับแทน และ overgrips . เปลี่ยน grips จะหนา และมักจะใช้เพื่อเพิ่มขนาดของด้ามจับ overgrips บางมาก ( น้อยกว่า 1 มิลลิเมตร ) และมักจะใช้เป็นชั้นสุดท้าย ผู้เล่นมากมาย แต่ต้องการใช้เปลี่ยนด้ามจับเป็นชั้นสุดท้าย towelling grips มักจะเปลี่ยน grips . เปลี่ยนด้ามจับมีกาวสํารองข้อมูลในขณะที่มีเพียงเล็กน้อย overgrips แพทช์ของกาวที่เริ่มต้นของเทปและต้องใช้ภายใต้ความตึงเครียด ; overgrips สะดวกมากขึ้นสำหรับผู้เล่นที่เปลี่ยน grips บ่อย เพราะอาจถูกลบออกอย่างรวดเร็วโดยไม่ทำลายพื้นฐานของวัสดุ