BACKGROUND: Approximately 20% of he

BACKGROUND: Approximately 20% of healthcare workers are infected with influenza each year, causing nosocomial outbreaks and staff shortages. Despite influenza vaccination of healthcare workers representing the most effective preventive strategy, coverage remains low.

AIM: To analyse the risk of nosocomial influenza-like illness (NILI) among patients admitted to an acute care hospital in relation to influenza vaccination coverage among healthcare workers.

METHODS: Data collected over seven consecutive influenza seasons (2005-2012) in an Italian acute care hospital were analysed retrospectively. Three different sources of data were used: hospital discharge records; influenza vaccination coverage among healthcare workers; and incidence of ILI in the general population. Clinical modification codes from the International Classification of Diseases, 9(th) Revision were used to define NILI.

FINDINGS: Overall, 62,343 hospitalized patients were included in the study, 185 (0.03%) of whom were identified as NILI cases. Over the study period, influenza vaccination coverage among healthcare workers decreased from 13.2% to 3.1% (P < 0.001), whereas the frequency of NILI in hospitalized patients increased from 1.1‰ to 5.7‰ (P < 0.001). A significant inverse association was observed between influenza vaccination coverage among healthcare workers and rate of NILI among patients (adjusted odds ratio 0.97, 95% confidence interval 0.94-0.99).

CONCLUSION: Increasing influenza vaccination coverage among healthcare workers could reduce the risk of NILI in patients hospitalized in acute hospitals. This study offers a reliable and cost-saving methodology that could help hospital management to assess and make known the benefits of influenza vaccination among healthcare workers.

Copyright © 2014 The Healthcare Infection Society. Published by Elsevier Ltd. All rights reserved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: ประมาณ 20% ของแรงงานสุขภาพติดกับไข้หวัดใหญ่แต่ละปี สาเหตุ nosocomial ระบาดและพนักงานขาดแคลน แม้ มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของคนสุขภาพที่แสดงถึงกลยุทธ์เชิงป้องกันมีประสิทธิภาพสูงสุด ความครอบคลุมยังคง น้อย

เป้าหมาย: การวิเคราะห์ความเสี่ยงของ nosocomial นิดเจ็บป่วย (NILI) ระหว่างผู้ป่วยในโรงพยาบาลเกี่ยวกับความครอบคลุมของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในหมู่แพทย์ผู้ปฏิบัติงานการดูแลเฉียบพลันอัน

วิธี: ข้อมูลที่เก็บรวบรวมกว่าเจ็ดฤดูไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อกัน (2005-2012) ในโรงพยาบาลดูแลอิตาลีเฉียบพลันถูก analysed ย้อนหลังได้ ใช้แตกต่างกันสามแหล่งข้อมูล: โรงพยาบาลปล่อยระเบียน ความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคนสุขภาพ และอุบัติการณ์ของคาราในประชากรทั่วไป ใช้รหัสคลินิกแก้ไขจากนานาประเภทของโรค 9(th) ปรับปรุงเพื่อกำหนด NILI

พบ: โดยรวม 62,343 พักรวมอยู่ในการศึกษา ระบุเป็นกรณี NILI 185 (0.03%) ของผู้ป่วย ระยะเวลาการศึกษา ความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคนสุขภาพลดลงจาก 13.2% เป็น 3.1% (P < 0.001), ใน ขณะที่ความถี่ของ NILI ในผู้ป่วยที่พักเพิ่มขึ้นจาก 1.1‰ เพื่อ 5.7‰ (P < 0.001) มีสังเกตความสัมพันธ์ผกผันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคนสุขภาพและอัตราของ NILI ระหว่างผู้ป่วย (ราคาปรับปรุงอัตรา 0.97 95% ช่วงความเชื่อมั่น 0.94-0.99) ได้

สรุป: เพิ่มความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคนสุขภาพสามารถลดความเสี่ยงของ NILI ในผู้ป่วยพักในโรงพยาบาลที่เฉียบพลันได้ การศึกษานี้มีวิธีที่เชื่อถือได้ และประหยัดที่จะช่วยให้การบริหารโรงพยาบาลเพื่อประเมิน และให้รู้จักประโยชน์ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคนสุขภาพ

ลิขสิทธิ์ © ปี 2014 สังคมแพทย์ติดเชื้อ เผยแพร่ โดย Elsevier สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิหลัง: ประมาณ 20% ของบุคลากรทางการแพทย์มีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในแต่ละปีทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อในโรงพยาบาลและการขาดแคลนพนักงาน แม้จะมีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของคนงานการดูแลสุขภาพที่เป็นตัวแทนของกลยุทธ์การป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดครอบคลุมยังคงต่ำAIM: เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของโรคไข้หวัดใหญ่เหมือนเจ็บป่วยในโรงพยาบาล (Nili) ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลการดูแลเฉียบพลันที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์วิธีการ: ข้อมูลที่รวบรวมได้กว่าเจ็ดฤดูกาลไข้หวัดใหญ่ติดต่อกัน (2005-2012) ในโรงพยาบาลการดูแลเฉียบพลันอิตาลีวิเคราะห์ย้อนหลัง สามแหล่งที่แตกต่างกันของข้อมูลถูกนำมาใช้: บันทึกออกจากโรงพยาบาล; ครอบคลุมการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในหมู่คนงานการดูแลสุขภาพ; และอุบัติการณ์ของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในประชากรทั่วไป รหัสการเปลี่ยนแปลงทางคลินิกจากการจำแนกระหว่างประเทศของโรค, 9 (th) Revision ถูกนำมาใช้ในการกำหนด Nili นักวิจัยโดยรวมผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาล 62,343 ถูกรวมอยู่ในการศึกษา, 185 (0.03%) ของผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นกรณี Nili ในช่วงระยะเวลาการศึกษาครอบคลุมการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ลดลงจาก 13.2% เป็น 3.1% (p <0.001) ในขณะที่ความถี่ของ Nili ในผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 1.1 เป็น 5.7 ‰‰ (p <0.001) ความสัมพันธ์แบบผกผันอย่างมีนัยสำคัญก็สังเกตเห็นระหว่างการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และอัตราการ Nili ผู้ป่วย (ค่า odds ratio 0.97, 95% confidence interval 0.94-0.99) สรุป: การเพิ่มความครอบคลุมการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์สามารถลดความเสี่ยงของการ Nili ใน ผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลในโรงพยาบาลเฉียบพลัน การศึกษาครั้งนี้มีวิธีการที่เชื่อถือได้และประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะช่วยให้การบริหารจัดการโรงพยาบาลในการประเมินและให้รู้จักประโยชน์ของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในหมู่คนงานการดูแลสุขภาพลิขสิทธิ์© 2014 สุขภาพสังคมการติดเชื้อ ที่ตีพิมพ์โดยเอลส์ จำกัด สงวนลิขสิทธิ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง : ประมาณ 20 % ของพนักงานที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ระบาด และในแต่ละปี ทำให้เกิดการขาดแคลนพนักงาน . แม้จะมีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของพนักงานที่เป็นตัวแทนของกลยุทธ์การป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ครอบคลุมยังคงต่ำ

เป้าหมาย :วิเคราะห์ความเสี่ยงของการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ เช่น เจ็บป่วย ( afghanistan . kgm ) ระหว่างผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลการดูแลด้านความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในหมู่พนักงาน

วิธีการ : รวบรวมข้อมูลกว่าเจ็ดติดต่อกันไข้หวัดใหญ่ฤดูกาล ( 2005-2012 ) ในโรงพยาบาลการดูแลเฉียบพลันอิตาลีวิเคราะห์ย้อนหลัง . 3 แหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้ :ประวัติโรงพยาบาล ; ความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในหมู่พนักงาน และอุบัติการณ์ของพวกเขาในประชากรทั่วไป การเปลี่ยนแปลงทางคลินิกรหัสจากการจำแนกโรคสากล , 9 ( th ) การปรับใช้เพื่อกำหนด afghanistan . kgm

สรุปภาพรวม 62343 ผู้ป่วยถูกรวมในการศึกษา , 185 ( 0.03% ) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นกรณี afghanistan . kgm .ในช่วงเวลาเรียน ความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของพนักงานลดลงจากร้อยละ 13.2 3.1 % ( p < 0.001 ) ส่วนความถี่ของการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 1.1 afghanistan . kgm ‰‰รักษา ( p < 0.001 ) อย่างตรงกันข้ามสมาคมพบว่าระหว่างความครอบคลุมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในหมู่พนักงานและอัตรา afghanistan . kgm ของผู้ป่วย ( Adjusted Odds Ratio 0.97 ,ช่วงความเชื่อมั่น 95% 0.94-0.99 )

สรุป : การเพิ่มความครอบคลุมของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ พนักงานสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยที่รับการรักษาในโรงพยาบาล afghanistan . kgm เฉียบพลัน งานวิจัยนี้เสนอวิธีการที่เชื่อถือได้และประหยัดค่าใช้จ่ายที่สามารถช่วยให้โรงพยาบาลเพื่อประเมินและให้รู้จักประโยชน์ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในคน

)สงวนลิขสิทธิ์สงวนลิขสิทธิ์ 2014 การติดเชื้อสุขภาพสังคม ที่ตีพิมพ์โดยเอลส์จำกัดสงวนลิขสิทธิ์