Shrimp aquaculture is the principal

Shrimp aquaculture is the principal seafood product in international trade, and half of the total shrimp production was derived from aquaculture. Vibrio parahaemolyticus, is an opportunistic pathogen that causes symptomatic infections in shrimps as well in seafood. Phage has been proposed as bacterial pathogen controlling agents in a process called phage therapy. Phage particles are natural inhabitants of ecosystem so there is no harm or environmental hazards, while reintroduced into the same environment with enriched count. Based on our initial studies, three phages (VP1, VP7 and VP9) and pathogenic V. parahaemolyticus (BG 24) were taken. Two sets of experiments were conducted as phage (individual and cocktail) dispersed in water and mixed with fed diet to control V. parahaemolyticus infection in Penaeus monodon. According to phage treatment in water, 20% of shrimp mortality was observed. Other individual phage therapies VP1, VP7 and VP9 showed 30, 40 and 40% mortality respectively. During the phage fed diet experimental studies, shrimp immune parameters, gut phage count and bacterial count were monitored. Cocktail of phage fed shrimps produced a good haemocyte count and in control the cell count was drastically decreased. Similarly, total phenoloxidase and respiratory burst activity (superoxide anions) was observed high in cocktail phage treated shrimps. Lysozyme activity was gradually increased in all the phage treated group and significantly reduced in control. The cumulative survival rate stated that the cocktail phage fed shrimps survived 70% after 144 h and others 60–65%. Our results stated that phages also infect V. parahaemolyticus in the shrimp gut and its debris produce an immune response in shrimps, which can battle any infection non-specifically as immune stimulants. Application of phages as cocktile will improve the shrimp immune system and used as therapeutic and prophylactic measure for specific infection in shrimps.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเลี้ยงกุ้งทะเลเป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สำคัญในการค้าระหว่างประเทศ และครึ่งหนึ่งของการผลิตกุ้งทั้งหมดได้มาจากสัตว์น้ำ Parahaemolyticus เค็ม เป็นเชื้อฉวยโอกาสที่ทำให้เกิดอาการติดเชื้อในกุ้งทะเลเช่น Phage ได้ถูกเสนอให้ควบคุมตัวแทนในการเรียก phage บำบัดเชื้อโรคแบคทีเรีย Phage อนุภาคมีผู้อยู่อาศัยตามธรรมชาติของระบบนิเวศดังนั้นจึงไม่มีอันตรายหรืออันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ชนิดในสภาพแวดล้อมเดียวกันจำนวนอุดม ตามที่เราเริ่มต้นศึกษา สาม phages (VP1, VP7 และ VP9) และเชื้อ V. parahaemolyticus (BG 24) ถ่าย สองชุดของการทดลองได้ดำเนินการเป็น phage (ละ และค็อกเทล) กระจายในน้ำ และผสมกับอาหารรับควบคุม V. parahaemolyticus การติดเชื้อในกุ้งกุลาดำ 20% ของการตายของกุ้งถูกตรวจสอบตาม phage รักษาในน้ำ รักษาอื่น ๆ ละ phage VP1, VP7 และ VP9 พบ 30, 40 และ 40% อัตราการตายตามลำดับ ระหว่าง phage ที่เลี้ยงอาหารทดลองศึกษา กุ้งพารามิเตอร์ภูมิคุ้มกัน ลำไส้ phage จำนวนและนับจำนวนแบคทีเรียได้ตรวจสอบ ค็อกเทลของ phage ที่เลี้ยงกุ้งจำนวน haemocyte ดี และควบคุม การตรวจนับเซลล์เป็นอย่างมากลดลงด้วย ในทำนองเดียวกัน รวม phenoloxidase และกิจกรรมต่อเนื่องที่ทางเดินหายใจ (ซูเปอร์ออกไซด์นไอออน) ถูกสังเกตกุ้งค็อกเทล phage ถือว่าสูง กิจกรรม lysozyme การถูกค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในทุก phage ถือว่ากลุ่ม และลดลงอย่างมากในการควบคุม อัตราการอยู่รอดที่สะสมระบุว่า phage ค็อกเทลเลี้ยงกุ้งรอด 70% หลังจากชม. 144 และอื่น ๆ 60 – 65% ผลลัพธ์ที่ได้ระบุไว้ว่า phages ยังติดเชื้อ V. parahaemolyticus ในลำไส้กุ้ง และเศษของผลิตการตอบสนองภูมิคุ้มกันในกุ้ง ซึ่งสามารถต่อสู้กับการติดไวรัสไม่ใช่เฉพาะเป็นสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โปรแกรมของ phages เป็น cocktile จะปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันของกุ้ง และใช้เป็นมาตรการในการรักษา และป้องกันโรคติดเชื้อเฉพาะในกุ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเพาะเลี้ยงกุ้งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สำคัญในการค้าระหว่างประเทศและครึ่งหนึ่งของการผลิตกุ้งที่ได้มาจากการเพาะเลี้ยง Vibrio parahaemolyticus เป็นเชื้อฉวยโอกาสทำให้เกิดการติดเชื้อที่มีอาการในกุ้งเช่นกันในทะเล Phage ได้รับการเสนอให้เป็นเชื้อแบคทีเรียตัวแทนในการควบคุมกระบวนการที่เรียกว่าการรักษาด้วยการทำลายจุลินทรีย์ อนุภาค Phage เป็นคนที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติของระบบนิเวศดังนั้นจึงไม่มีอันตรายหรืออันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่รับรู้ในสภาพแวดล้อมเดียวกันกับการนับอุดม จากการศึกษาครั้งแรกของเราสาม phages (VP​​1, VP7 และ VP9) ที่ทำให้เกิดโรคและ V. parahaemolyticus (BG 24) ถูกนำ สองชุดทดลองเป็นฟาจ (บุคคลและค๊อกเทล) แยกย้ายกันไปในน้ำและอาหารที่ผสมกับอาหารเพื่อควบคุมการติดเชื้อ V. parahaemolyticus ในกุ้งกุลาดำ ตามที่การรักษาทำลายจุลินทรีย์ในน้ำ 20% ของอัตราการตายของกุ้งเป็นที่สังเกต การรักษาแต่ละทำลายจุลินทรีย์อื่น ๆ VP1, VP7 VP9 และแสดงให้เห็นว่า 30, 40 และอัตราการตาย 40% ตามลำดับ ในระหว่างการทำลายจุลินทรีย์ศึกษาทดลองเลี้ยงอาหารกุ้งพารามิเตอร์ภูมิคุ้มกันนับลำไส้ทำลายจุลินทรีย์และแบคทีเรียนับถูกตรวจสอบ ค๊อกเทลกุ้งที่เลี้ยงทำลายจุลินทรีย์ที่ผลิตนับเม็ดเลือดที่ดีและอยู่ในการควบคุมจำนวนเซลล์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในทำนองเดียวกัน phenoloxidase รวมและกิจกรรมการระเบิดทางเดินหายใจ (แอนไอออน superoxide) พบว่าสูงในการทำลายจุลินทรีย์กุ้งค๊อกเทลได้รับการรักษา กิจกรรม lysozyme เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกกลุ่มได้รับการรักษาทำลายจุลินทรีย์และลดลงอย่างมากในการควบคุม อัตราการรอดตายสะสมระบุว่ากุ้งที่เลี้ยงค๊อกเทลฟาจรอดชีวิต 70% หลังจากที่ 144 เอชและอื่น ๆ อีก 60-65% ผลของเราระบุว่า phages ยังติด V. parahaemolyticus ในลำไส้กุ้งและเศษซากของการผลิตการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในกุ้งที่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อใด ๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะเป็นสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน การประยุกต์ใช้เป็น phages cocktile จะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของกุ้งและใช้เป็นมาตรการรักษาและป้องกันโรคติดเชื้อที่เฉพาะเจาะจงสำหรับในกุ้ง