Scientific Management, also called

Scientific Management, also called Taylorism,[1] is a theory of management that analyzes and synthesizes workflows. Its main objective is improving economic efficiency, especially labor productivity. It was one of the earliest attempts to apply science to the engineering of processes and to management.

Its development began with Frederick Winslow Taylor in the 1880s and 1890s within the manufacturing industries. Its peak of influence came in the 1910s;[2] by the 1920s, it was still influential but had entered into competition and syncretism with opposing or complementary ideas.

Although scientific management as a distinct theory or school of thought was obsolete by the 1930s, most of its themes are still important parts of industrial engineering and management today. These include analysis; synthesis; logic; rationality; empiricism; work ethic; efficiency and elimination of waste; standardization of best practices; disdain for tradition preserved merely for its own sake or to protect the social status of particular workers with particular skill sets; the transformation of craft production into mass production; and knowledge transfer between workers and from workers into tools, processes, and documentation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จัดการทางวิทยาศาสตร์ Taylorism, [1] เรียกว่าเป็นทฤษฎีการจัดการที่วิเคราะห์ และ synthesizes ลำดับงาน เป็นวัตถุประสงค์หลักคือปรับปรุงประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานผลิต มันเป็นความพยายามแรกสุดจะใช้วิทยาศาสตร์วิศวกรรมกระบวนการ และ การจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งการพัฒนาเริ่มต้น ด้วยเฟรเดอริก Winslow Taylor ในปัจจุบันและช่วงปี 1890 สื่อภายในอุตสาหกรรมการผลิต จุดสูงสุดของของอิทธิพลมา 1910s [2] โดย 1920 มันถูกยังคงทรงอิทธิพล แต่ได้ไปเข้าแข่งขันและประสานทัศน์กับฝ่ายตรงข้าม หรือเสริมความคิดแม้ว่าวิทยาศาสตร์การจัดการเป็นทฤษฎีที่แตกต่างกันหรือโรงเรียนคิดล้าสมัย โดย 1930 ชุดรูปแบบของมีส่วนสำคัญยังวิศวกรรมอุตสาหการและการจัดการวันนี้ รวมถึงวิเคราะห์ การสังเคราะห์ ตรรกะ rationality empiricism งานจริยธรรม ประสิทธิภาพและการกำจัดของเสีย มาตรฐานแนวทางปฏิบัติ disdain สำหรับประเพณีรักษาเพียงสาเกตนเอง หรือ เพื่อรักษาสถานะทางสังคมของแรงงานโดยเฉพาะทักษะเฉพาะชุด การเปลี่ยนแปลงของผลิตยานเป็นมวล และโอนความรู้ ระหว่างผู้ปฏิบัติงาน และผู้ปฏิบัติงานเป็นเครื่องมือ กระบวนการ และเอกสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การจัดการทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า Taylorism [1] เป็นทฤษฎีของการจัดการที่ช่วยวิเคราะห์และสังเคราะห์เวิร์กโฟลว์ วัตถุประสงค์หลักคือการปรับปรุงประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตแรงงาน มันเป็นหนึ่งในความพยายามที่เก่าแก่ที่สุดที่จะใช้วิทยาศาสตร์วิศวกรรมของกระบวนการและการบริหารจัดการ. การพัฒนาของมันเริ่มต้นด้วยเฟรเดอริพระพุทธเจ้าเทย์เลอร์ในยุค 1880 และ 1890 ในอุตสาหกรรมการผลิต จุดสูงสุดของอิทธิพลเข้ามาใน 1910s; [2] โดยปี ค.ศ. 1920 มันก็ยังมีอิทธิพล แต่ได้เข้าสู่การแข่งขันและ syncretism กับฝ่ายตรงข้ามหรือความคิดที่สมบูรณ์. แม้ว่าการจัดการทางวิทยาศาสตร์เป็นทฤษฎีที่แตกต่างกันหรือโรงเรียนของความคิดที่ล้าสมัยโดยช่วงทศวรรษที่ 1930 ส่วนใหญ่ของรูปแบบของมันยังคงมีส่วนสำคัญของวิศวกรรมอุตสาหการและการจัดการในวันนี้ เหล่านี้รวมถึงการวิเคราะห์ การสังเคราะห์; ตรรกะ; เหตุผล; ประสบการณ์นิยม; จรรยาบรรณในการทำงาน ประสิทธิภาพและการกำจัดของเสีย มาตรฐานของการปฏิบัติที่ดีที่สุด; เหยียดหยามประเพณีที่เก็บรักษาไว้เพียงเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อปกป้องสถานภาพทางสังคมของคนงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีชุดทักษะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงของการผลิตงานฝีมือในการผลิตมวล; และการถ่ายทอดความรู้ระหว่างคนงานและคนงานจากการเป็นเครื่องมือกระบวนการและเอกสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจัดการทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า taylorism [ 1 ] เป็นทฤษฎีการจัดการที่วิเคราะห์และสังเคราะห์เช่นนี้ วัตถุประสงค์หลักของมันคือการเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลผลิตแรงงาน มันเป็นหนึ่งในความพยายามแรกที่จะใช้วิทยาศาสตร์วิศวกรรมของกระบวนการและการจัดการ .

การพัฒนาเริ่มด้วยเฟรดเดอริค วินสโลว์เทย์เลอร์ใน 1880 และ 1890 ในอุตสาหกรรมการผลิต จุดสูงสุดของอิทธิพลเข้ามาในคริสต์ทศวรรษ 1890 ; [ 2 ] โดยปี 1920 ก็ยังคงมีอิทธิพลแต่ได้เข้าสู่การแข่งขันและประสานทัศน์กับฝ่ายตรงข้ามหรือความคิดแบบ

ถึงแม้ว่าการจัดการทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกันทฤษฎีหรือโรงเรียนของความคิดล้าสมัยโดย 1930 ,ที่สุดของชุดรูปแบบยังคงเป็นส่วนสำคัญของวิศวกรรมและการจัดการอุตสาหกรรมในวันนี้ เหล่านี้รวมถึงการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ ; ตรรกะ ; สติ ; ประสบการณ์นิยม จริยธรรมในการทำงาน ประสิทธิภาพและกำจัดของเสีย ; มาตรฐานการปฏิบัติที่ดีที่สุด ; เหยียดหยามประเพณีไว้เพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือเพื่อปกป้องสถานะทางสังคมของแรงงานโดยเฉพาะกับชุดทักษะเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของการผลิตหัตถกรรมในการผลิตมวล และการถ่ายทอดความรู้ระหว่างคนงานและคนงานเป็นเครื่องมือ กระบวนการ และเอกสาร