Learning disability is a classifica

Learning disability is a classification including several areas of functioning in which a person has difficulty learning in a typical manner, usually caused by an unknown factor or factors.

While learning disability, learning disorder and learning difficulty are often used interchangeably, they differ in many ways. Learning disability refers to significant learning problems in an academic area. These problems, however, are not enough to warrant an official diagnosis. Learning disorder, on the other hand, is an official clinical diagnosis, whereby the individual meets certain criteria, as determined by a professional (psychologist, pediatrician, etc.) The difference is in degree, frequency, and intensity of reported symptoms and problems, and thus the two should not be confused. When the term "learning disabilities" is used, it describes a group of disorders characterized by inadequate development of specific academic, language, and speech skills.[1] Types of learning disabilities include reading disability (dyslexia), mathematics disability (dyscalculia) and writing disability (dysgraphia).[1]

The unknown factor is the disorder that affects the brain's ability to receive and process information. This disorder can make it problematic for a person to learn as quickly or in the same way as someone who is not affected by a learning disability. People with a learning disability have trouble performing specific types of skills or completing tasks if left to figure things out by themselves or if taught in conventional ways.

Individuals with learning disabilities can face unique challenges that are often pervasive throughout the lifespan. Depending on the type and severity of the disability, interventions and current technologies may be used to help the individual learn strategies that will foster future success. Some interventions can be quite simplistic, while others are intricate and complex. Current technologies may require student training to be effective classroom supports. Teachers, parents and schools can create plans together that tailor intervention and accommodations to aid the individual in successfully becoming independent learners. School psychologists and other qualified professionals quite often help design the intervention and coordinate the execution of the intervention with teachers and parents. Social support may improve the learning for students with learning disabilities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พิการเรียนรู้เป็นการจัดประเภทที่รวมทั้งหลายพื้นที่ทำงานซึ่งผู้มีปัญหาในการเรียนรู้ในลักษณะทั่วไป มักเกิดจากปัจจัยไม่รู้จักหรือปัจจัย

ขณะเรียนพิการ โรคการเรียนรู้ และเรียนรู้ความยากลำบากมักใช้สลับกัน พวกเขาแตกต่างกันในการ พิการเรียนถึงปัญหาการเรียนรู้ที่สำคัญในพื้นที่ศึกษา ปัญหาเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงพอที่จะรับประกันการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ บนมืออื่น ๆ เรียนรู้โรค เป็นการวินิจฉัยทางคลินิกอย่างเป็นทางการ โดยบุคคลตรงตามเงื่อนไข เป็นกำหนดโดยมืออาชีพ (จิตวิทยา กุมาร ฯลฯ) ความแตกต่างระดับ ความถี่ และความรุนแรงของปัญหาและรายงานอาการ และดังนั้น ทั้งสองไม่ควรสับสน เมื่อมีใช้คำว่า "พิการทางการเรียน" อธิบายกลุ่มของโรคโดยการพัฒนาทักษะวิชาการ ภาษา และคำพูดไม่เพียงพอ[1] ชนิดของความพิการเรียนรวมอ่านพิการ (dyslexia), ความพิการคณิตศาสตร์ (dyscalculia) และเขียน (dysgraphia) พิการ[1]

ตัวไม่ทราบเป็นโรคที่มีผลต่อความสามารถของสมองจะได้รับ และประมวลผลข้อมูล โรคนี้สามารถทำให้เป็นปัญหาสำหรับคนที่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วหรือ ในลักษณะเดียวกับคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากพิการเรียนรู้ คนพิการเรียนมีปัญหาในการระบุชนิดของทักษะ หรือการทำงานให้เสร็จ ถ้าปล่อยสิ่งที่รูปออก ด้วยตัวเอง หรือถ้าสอนในแบบวิธีการ

บุคคลพิการเรียนสามารถเผชิญกับความท้าทายที่ไม่ซ้ำกันที่อยู่ชุมชนที่แพร่หลายตลอดอายุการใช้งาน ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของความพิการ งานวิจัยและเทคโนโลยีปัจจุบันอาจถูกใช้เพื่อช่วยให้บุคคลเรียนรู้กลยุทธ์ที่จะสร้างความสำเร็จในอนาคต บางมาตรการสามารถค่อนข้างเร่งรีบ ในขณะที่ผู้อื่นจะซับซ้อน และซับซ้อน เทคโนโลยีปัจจุบันอาจเป็น ห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพรองรับการฝึกอบรมนักเรียน ครู ผู้ปกครองและโรงเรียนสามารถสร้างแผนกันที่ปรับการแทรกแซงและการช่วยบุคคลในการประสบความสำเร็จกลายเป็น เรียนอิสระ นักจิตวิทยาโรงเรียนและอื่น ๆ ผู้เชี่ยวชาญมากมักจะช่วยออกแบบการแทรกแซง และประสานงานการดำเนินการแทรกแซงกับครูและผู้ปกครอง สนับสนุนทางสังคมอาจช่วยปรับปรุงการเรียนรู้สำหรับนักเรียนพิการได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การจัด ประเภท ความพิการการเรียนรู้เป็นที่รวมถึงพื้นที่หลายแห่งของการทำงานในที่บุคคลที่มีปัญหาการเรียนรู้ในลักษณะแบบดั้งเดิมที่โดยปกติแล้วเกิดจากสาเหตุหรือปัจจัยที่ไม่รู้จัก.

ในขณะที่จะได้เรียนรู้ความพิการการเรียนรู้หรือความผิดปกติและการเรียนรู้ความยากสามารถใช้แทนกันได้ที่แตกต่างกันในหลายๆวิธีด้วยกัน ทุพพลภาพ หมายถึงการเรียนรู้การแก้ปัญหาการเรียนการสอนอย่างมีนัยสำคัญในพื้นที่การศึกษาได้ปัญหาเหล่านี้ได้แต่ถึงอย่างไรก็ตามมีไม่เพียงพอที่จะได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างเป็นทางการ โรคการเรียนรู้ในอีกด้านหนึ่งที่มีการวินิจฉัยทางการแพทย์อย่างเป็นทางการโดยที่แต่ละคนที่ตรงตามเกณฑ์บางอย่างตามที่ระบุโดย Professional (นักจิตวิทยากระป๋องทำให้เป็นต้น)ที่มีความแตกต่างกันอยู่ในความเข้มและความถี่ของปัญหาและอาการรายงานและทำให้ทั้งสองไม่ควรเกิดความสับสนเมื่อคำว่า"ความบกพร่องทางการเรียนรู้"มีการใช้กลุ่มซึ่งได้อธิบายลักษณะของความผิดปกติโดยไม่เพียงพอในการพัฒนาการศึกษาเฉพาะ ภาษา และเสียงพูดทักษะ.[ 1 ] ประเภท ของความบกพร่องทางการเรียนรู้รวมถึงการอ่านความพิการ(ไดเรคเซีย,) ทุพพลภาพ คณิตศาสตร์( dyscalculia )และความพิการการเขียน( dysgraphia )[ 1 ]

ปัจจัยที่ไม่รู้จักเป็นโรคที่มีผลต่อความสามารถของสมองที่จะได้รับและประมวลผลข้อมูล โรคนี้สามารถทำให้มันเกิดปัญหาสำหรับคนที่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วในแบบเดียวกับที่ผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความพิการการเรียนรู้ผู้ที่มีความพิการการเรียนรู้ที่มีปัญหาการดำเนินการเฉพาะบางรุ่นมีความรู้หรือการดำเนินการหากทางด้านซ้ายจะแสดงออกมาด้วยตัวเองหรือหากสอนในวิธีการแบบเดิม.

ผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายพร้อมด้วยความบกพร่องทางการเรียนรู้สามารถเผชิญกับความท้าทายที่มีความโดดเด่นไม่ซ้ำกันบ่อยมากตลอดทั่วทั้งพื้นที่กระจายไปทั่วจึงจำเป็นต้องมีอายุใช้งานยาวนานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ประเภท และความรุนแรงของความพิการได้การแทรกแซงและเทคโนโลยีในปัจจุบันอาจจะถูกใช้เพื่อช่วยให้แต่ละคนได้เรียนรู้กลยุทธ์ที่จะช่วยส่งเสริมความสำเร็จในอนาคต การแทรกแซงบางคนสามารถแบบเรียบง่ายมากในขณะที่คนอื่นจะประณีตบรรจงและคอมเพล็กซ์ เทคโนโลยีปัจจุบันอาจต้องมีการฝึกอบรมนักศึกษาจะสนับสนุนในห้องเรียนมี ประสิทธิภาพ ครูโรงเรียนและผู้ปกครองสามารถสร้างแผนที่ที่พักและการแทรกแซงปรับแต่งให้ความช่วยเหลือผู้เรียนรายบุคคลในความสำเร็จที่เป็นอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ที่มีคุณสมบัติอื่นๆและนักจิตวิทยาโรงเรียนค่อนข้างบ่อยมากช่วยให้การออกแบบที่เกิดจากการแทรกแซงและประสานงานการประมวลผลในการแทรกแซงที่พร้อมด้วยครูและผู้ปกครองการสนับสนุนทางสังคมอาจช่วยปรับปรุงการเรียนรู้สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้.