Prevailing wisdom goes like this--C

Prevailing wisdom goes like this--China will overtake the U.S. economy in the next few decades, ushering in a new era of Chinese international political dominance. Various reports agree--15 out of 22 countries in a Pew Research study and a plurality of U.S. Americans believe China has overtaken the U.S. or will soon. And the U.S. National Intelligence Council forecasts China usurping U.S. authority by 2030.

U.S. hegemonic decline has been debated for decades, and the newest foil to its authority is China. The U.S. currently exists as the world's one and only superpower. But it is folly to believe that the U.S. will be deposed by China anytime soon, even with its double-digit growth and increasing regional influence.

Reports foretelling the end of U.S. hegemony rely on raw data, when it is international relationships that truly undergird world superpowers. No economic, military, and public opinion formula will decide the world's next global hegemon. These components matter--but not without international legitimacy, as derived from, and defined by, a global coalition of the willing.

It is here that the U.S. reigns supreme. The U.S. has won over, however begrudgingly, the international community as a whole. And until this allegiance to the U.S. breaks down, she will remain the absolute world superpower. The U.S. wields a power of influence, persuasion, and leadership on the international stage that no other state comes close to. She sets international law, ignores international law, and is accountable to no one. China, while clearly jockeying for authority and power, does not yet have legitimacy.

Take France's invasion of Mali last year. It was the U.S. who provided the necessary support, in effect running the operation to combat Islamic militants. A scenario where France, a country with a permanent seat on the UN Security Council, calls first on China for tactical support is tough to imagine. China has seen its regional influence increase substantially in recent years, but a situation where China and not the U.S. leads a successful international coalition of allies is fantasy.

In fact, the opposite is true. China is far from being considered a trustworthy ally to the international community, sitting on the periphery of many international decision-making processes, for a number of reasons. China commits deeply troubling human rights violations at home. China has yet to disavow the brutal oppression of President Bashar al-Assad, and, along with Russia, has held up UN resolutions condemning the regime. China is also North Korea's last ally, a thoroughly unfortunate distinction.

China's relationship to human rights is anything but progressive. Censorship of the press and the Internet, restrictions on freedoms of religion, expression, association, prohibition of many independent labor unions and organizations, and the repressive policies against many people in Western China and Tibet spell trouble for the leaders in Beijing on the international stage. Even though the U.S. is no human rights saint, she currently holds legitimacy with a team of allies who prize consistency and stability, making a global shift in power highly unlikely.

If China continues on this path of questionable governance and cavorting with questionable allies, no serious block of internationally influential states will support a Chinese hegemony over the current U.S. one. And so, China will remain a strong regional and international player, but one that plays second fiddle to the U.S.

Still, the dogged sentiment of declining U.S. authority remains. China predicts its economy will overtake that of the U.S. by 2019. But the likes of the U.K., France, Germany, Japan, etc. will not simply turn around and support China the moment its GDP crosses some arbitrary threshold. Rich, industrialized nations are not about to live in an international system dictated by Chinese rule.

The U.S. and China will engage in plenty of power struggles in the coming decades--but it is unlikely that China will challenge U.S. authority and garner support from the world's industrialized nations. The U.S., regardless of its failings, rightfully holds firmly its influence over world values, and will do so indefinitely, regardless of its economic and military strength in relation to China.

Amidst economic crises and an embarrassing era of political dysfunction (See: government shutdown), the U.S. remains the world's only superpower. An upheaval of the international power dynamic, in this century, requires more than economic or military might. It requires democratic values, respectable allies, and an appreciation of human rights. And until China can pass these tests, the U.S. is in no danger of losing its allies or influence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภูมิปัญญาเป็นไปเช่นนี้ - จีนจะแซงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไม่กี่ทศวรรษถัดไป ushering ในยุคใหม่ของการครอบงำทางการเมืองระหว่างประเทศจีน รายงานต่าง ๆ กัน - 15 จากทั้งหมด 22 ประเทศในการศึกษาวิจัยพิวและหลายฝ่ายของสหรัฐอเมริกันเชื่อว่า จีนมี overtaken สหรัฐอเมริกา หรือจะเร็ว ๆ นี้ และสภาข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ประเทศสหรัฐอเมริกา usurping จีนปี 2030มีการยังคงปฏิเสธเจ้าของสหรัฐอเมริกาในทศวรรษที่ผ่านมา และฟอยล์ใหม่ล่าสุดเพื่อความเป็นจีน สหรัฐอเมริกาปัจจุบันอยู่เป็นโลกหนึ่งและมหาอำนาจเท่านั้น แต่มันเป็นความโง่เขลาเชื่อว่า สหรัฐอเมริกาจะเป็น deposed จีนตลอดเวลาเร็ว ๆ นี้ แม้จะ มีการเจริญเติบโตตัวเลขสองหลักและอิทธิพลภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นรายงาน foretelling สิ้นนับถือสหรัฐฯ อาศัยข้อมูลดิบ เมื่อมันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ undergird ประเทศมหาอำนาจของโลกอย่างแท้จริง ไม่เศรษฐกิจ ทหาร และมติมหาชนสูตรจะตัดสินใจว่า hegemon สากลต่อไปในโลกนี้ ส่วนประกอบเหล่านี้ — แต่ไม่ว่า โดยชอบธรรมระหว่างประเทศ สืบทอดจาก และกำหนด โดย รัฐบาลส่วนกลางของความเต็มใจที่นี่เป็นที่สหรัฐอเมริกา reigns supreme สหรัฐได้ชัยชนะกว่า ไร begrudgingly ประชาคมทั้งหมด และจนกว่าจะให้สัตยาบันนี้สหรัฐอเมริกาแบ่ง เธอยังคงมหาอำนาจของโลกแน่นอน สหรัฐอเมริกา wields อำนาจอิทธิพล จูงใจ และเป็นผู้นำในเวทีระหว่างประเทศที่รัฐไม่มาใกล้ เธอตั้งกฎหมายระหว่างประเทศ ละเว้นกฎหมายระหว่างประเทศ และรับผิดชอบไปไม่ จีน ขณะ jockeying ชัดเจนสำหรับหน่วยงานและพลังงาน ยังไม่มีชอบธรรมใช้เวลาการรุกรานของฝรั่งเศสของมาลีปี สหรัฐอเมริกาที่ให้การสนับสนุนที่จำเป็น ทำการต่อสู้กับอิสลามฉะนั้นผล ได้ สถานการณ์สมมติที่ฝรั่งเศส ประเทศที่ มีนั่งถาวรในสหประชาชาติมนตรี เรียกครั้งแรกในประเทศจีนสำหรับยุทธวิธีสนับสนุนยากจะจินตนาการได้ จีนได้เห็นอิทธิพลภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นมากในปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ที่จีนและสหรัฐอเมริกาไม่นำไปสู่การร่วมมือกันระหว่างประเทศประสบความสำเร็จของพันธมิตรเป็นแฟนตาซีในความเป็นจริง ตรงข้ามเป็นความจริง จีนจากการเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือเพื่อประชาคม นั่งบนยสปริงของหลายประเทศตัดสินใจกระบวนการ สำหรับจำนวนของเหตุผลได้ จีนทำลึกปัญหาสิทธิมนุษยชนละเมิดที่บ้าน จีนยังไม่ได้คืนคำกดขี่ที่โหดร้ายของประธานาธิบดี Bashar al-Assad และ กับรัสเซีย มีจัดขึ้นมติสหประชาชาติประณามการใช้ระบบการปกครอง จีนเป็นเกาหลีเหนือล่าสุดพันธมิตร ความแตกต่างอย่างโชคร้ายความสัมพันธ์ของจีนกับสิทธิมนุษยชนคืออะไรแต่ก้าวหน้า เซ็นเซอร์สื่อมวลชนและอินเทอร์เน็ต ข้อจำกัดเกี่ยวกับเสรีภาพของศาสนา นิพจน์ สมาคม prohibition สหภาพแรงงานอิสระหลายองค์กร และนโยบายกดขี่กับหลายคนในทิเบตและจีนตะวันตกสะกดปัญหาสำหรับผู้นำในเวทีนานาชาติ แม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่เซนต์สิทธิมนุษยชน เธอกำลังถือชอบธรรมกับทีมงานพันธมิตรที่รางวัลความสอดคล้องและความมั่นคง ทำกะโลกพลังงานสูงไม่น่าถ้าจีนยังคงอยู่ในเส้นทางนี้อาจกำกับและ cavorting กับพันธมิตรอาจ บล็อกไม่ร้ายแรงของอเมริกามีอิทธิพลในระดับนานาชาติจะสนับสนุนเจ้าจีนกว่าสหรัฐปัจจุบันหนึ่ง และอื่น ๆ จีนยังคง แข็งแกร่งระดับภูมิภาค และนานาชาติเล่น แต่ที่เล่นสองซอเพื่อสหรัฐอเมริกาความเชื่อมั่น dogged ของประเทศสหรัฐอเมริกาลดลงยังคง จีนทำนายเศรษฐกิจมันจะแซงของสหรัฐอเมริกา โดย 2019 แต่ชอบของสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น ฯลฯ ไม่เพียงแต่จะหันไปรอบ ๆ และสนับสนุนจีนขณะที่ GDP ของข้ามขีดจำกัดที่กำหนดบาง รวย ร่ำจะไม่อยู่ในระบบระหว่างประเทศตามกฎจีนสหรัฐอเมริกาและจีนจะเข้าร่วมในการต่อสู้อำนาจมากมายในทศวรรษมา - แต่ก็ไม่น่าที่จีนจะท้าทายอำนาจของสหรัฐอเมริกา และ garner สนับสนุนจากประเทศอุตสาหกรรมของโลก สหรัฐอเมริกา ว่าความล้มเหลวของ พวกมีอิทธิพลของโลกค่าอย่างมั่นคง และจะทำโดยไม่จำกัดเวลา โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแรงทางเศรษฐกิจ และทางทหารเกี่ยวกับจีนท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและยุคการเมืองล้มเหลวอาย (ดู: รัฐบาลปิด), สหรัฐอเมริกามหาอำนาจเดียวของโลกที่ยังคงอยู่ มีแรงกระเพื่อมของพลังงานระหว่างประเทศแบบไดนามิก ชัด ต้องอาจมากกว่าทางเศรษฐกิจ หรือทางทหาร ต้องการค่าประชาธิปไตย พันธมิตรเกียรติ และการเพิ่มค่าของสิทธิมนุษยชน และจนจีนสามารถผ่านการทดสอบเหล่านี้ สหรัฐอเมริกาตกอยู่ในอันตรายไม่สูญเสียพันธมิตรหรืออิทธิพลของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แลกเปลี่ยนภูมิปัญญาไปเช่นนี้ - จีนจะแซงเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงไม่กี่สิบปีข้างหน้าในการนำไปสู่ยุคใหม่ของจีนการเมืองการปกครองระหว่างประเทศ รายงานต่างๆเห็นด้วย - 15 จาก 22 ประเทศในการศึกษาวิจัย Pew และส่วนใหญ่ของชาวอเมริกันที่สหรัฐเชื่อว่าประเทศจีนได้ทันสหรัฐอเมริกาหรือจะเร็ว ๆ นี้ และสหรัฐอเมริกาข่าวกรองสภาแห่งชาติจีนคาดการณ์แย่งชิงอำนาจของสหรัฐในปี 2030 สหรัฐลดลง hegemonic มีการถกเถียงกันมานานหลายทศวรรษและฟอยล์ใหม่ล่าสุดที่ผู้มีอำนาจของมันคือประเทศจีน สหรัฐมีอยู่ในปัจจุบันเป็นหนึ่งของโลกและมหาอำนาจเท่านั้น แต่มันก็เป็นความโง่เขลาที่จะเชื่อว่าเราจะได้รับการปลดจากประเทศจีนในเร็ว ๆ นี้แม้จะมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักและเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาค. รายงานพยากรณ์สิ้นอำนาจสหรัฐพึ่งพาข้อมูลดิบเมื่อมันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่โลกอย่างแท้จริง undergird มหาอำนาจ ไม่มีทางเศรษฐกิจทหารและสูตรความคิดเห็นของประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจอิทธิพลระดับโลกต่อไปของโลก องค์ประกอบเหล่านี้มีความสำคัญ - แต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายต่างประเทศเป็นที่ได้มาจากและกำหนดโดยรัฐบาลทั่วโลกของความเต็มใจ. ที่นี่เป็นที่สหรัฐอเมริการัชกาลที่สุด สหรัฐได้รับรางวัลมากกว่า แต่สลับที่ประชาคมระหว่างประเทศโดยรวม และจนกว่าจะจงรักภักดีต่อแบ่งสหรัฐลงนี้เธอจะยังคงเป็นมหาอำนาจโลกแน่นอน สหรัฐ wields อำนาจของอิทธิพลชักชวนและความเป็นผู้นำในเวทีระหว่างประเทศว่าไม่มีรัฐอื่น ๆ มาใกล้เคียงกับ เธอชุดกฎหมายต่างประเทศไม่สนใจกฎหมายต่างประเทศและมีความรับผิดชอบต่อไม่มีใคร ประเทศจีนในขณะโยกย้ายอย่างชัดเจนในอำนาจหน้าที่และอำนาจยังไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย. ใช้รุกรานของฝรั่งเศสมาลีปีที่ผ่านมา มันเป็นสหรัฐที่ให้การสนับสนุนที่จำเป็นในผลการดำเนินงานที่ทำงานในการต่อสู้กับการก่อการร้ายอิสลาม สถานการณ์ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีที่นั่งถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้องครั้งแรกในประเทศจีนสำหรับการสนับสนุนทางยุทธวิธีเป็นเรื่องที่ยากที่จะจินตนาการ จีนได้เห็นการเพิ่มขึ้นอิทธิพลของภูมิภาคอย่างมากในปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ที่จีนและสหรัฐไม่ได้นำไปสู่การร่วมมือกันระหว่างประเทศที่ประสบความสำเร็จของพันธมิตรคือจินตนาการ. ในความเป็นจริงตรงข้ามเป็นจริง ประเทศจีนอยู่ไกลจากที่ได้รับการพิจารณาเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือให้ประชาคมระหว่างประเทศนั่งอยู่บนขอบของการตัดสินใจต่างประเทศหลายกระบวนการด้วยเหตุผลหลายประการ จีนมุ่งมั่นที่สิทธิมนุษยชนหนักใจลึกละเมิดที่บ้าน ประเทศจีนยังไม่ได้ปฏิเสธการกดขี่โหดร้ายของประธานาธิบดีบาชาร์อัลอัสซาดและพร้อมกับรัสเซียได้จัดขึ้นมติสหประชาชาติประณามระบอบการปกครอง ประเทศจีนยังเป็นพันธมิตรเกาหลีเหนือที่ผ่านมาความแตกต่างที่โชคร้ายอย่างทั่วถึง. ความสัมพันธ์ของจีนเพื่อสิทธิมนุษยชนคืออะไร แต่ความก้าวหน้า การเซ็นเซอร์ของสื่อมวลชนและอินเทอร์เน็ตข้อ จำกัด เกี่ยวกับเสรีภาพในการนับถือศาสนาแสดงออกสมาคมข้อห้ามของสหภาพแรงงานที่เป็นอิสระจำนวนมากและองค์กรและนโยบายการปราบปรามกับคนจำนวนมากในภาคตะวันตกของจีนและทิเบตสะกดปัญหาสำหรับการเป็นผู้นำในกรุงปักกิ่งในเวทีระหว่างประเทศ . แม้ว่าสหรัฐจะไม่มีสิทธิมนุษยชนนักบุญเธอในปัจจุบันถือความถูกต้องกับทีมงานของพันธมิตรที่สอดคล้องรางวัลและความมั่นคงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของโลกในอำนาจไม่น่าจะสูง. หากจีนยังคงอยู่บนเส้นทางของการกำกับดูแลที่น่าสงสัยนี้และ cavorting กับพันธมิตรสงสัยไม่มี บล็อกที่ร้ายแรงของรัฐที่มีอิทธิพลในระดับนานาชาติจะสนับสนุนอำนาจของจีนในช่วงหนึ่งของสหรัฐฯในปัจจุบัน ดังนั้นจีนจะยังคงเป็นผู้เล่นในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง แต่อย่างหนึ่งที่เล่นไวโอลินที่สองไปยังสหรัฐอเมริกายังคงเชื่อมั่นพากเพียรของการลดลงของสหรัฐยังคงเป็นผู้มีอำนาจ จีนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะแซงของสหรัฐโดย 2019 แต่ชอบของสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, ฯลฯ จะไม่เพียงแค่หันไปรอบ ๆ และสนับสนุนประเทศจีนขณะที่จีดีพีข้ามบางเกณฑ์โดยพลการ ที่อุดมไปด้วยประเทศอุตสาหกรรมไม่ได้เกี่ยวกับการที่จะอยู่ในระบบระหว่างประเทศกำหนดโดยกฎจีน. สหรัฐฯและจีนจะมีส่วนร่วมในความอุดมสมบูรณ์ของอำนาจการต่อสู้ในทศวรรษที่ผ่านมา - แต่ก็ไม่น่าที่ประเทศจีนจะท้าทายอำนาจของสหรัฐและรวบรวมการสนับสนุนจาก โลกของประเทศอุตสาหกรรม สหรัฐโดยไม่คำนึงถึงความล้มเหลวของตนอย่างถูกต้องถือมั่นอิทธิพลของมันมากกว่าค่าของโลกและจะทำไปเรื่อย ๆ โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการทหารของตนในความสัมพันธ์กับประเทศจีน. ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและยุคที่น่าอายของความผิดปกติทางการเมือง (ดู: ปิดรัฐบาล ) สหรัฐอเมริกายังคงเป็นมหาอำนาจของโลกเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกพลังงานระหว่างประเทศในศตวรรษนี้ต้องมีมากกว่าทางเศรษฐกิจหรือทางทหารอาจ มันต้องมีค่านิยมประชาธิปไตยพันธมิตรนับถือและชื่นชมของสิทธิมนุษยชน และจนกว่าประเทศจีนสามารถผ่านการทดสอบเหล่านี้เราอยู่ในอันตรายของการสูญเสียพันธมิตรหรือไม่มีอิทธิพล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีปัญญาไปแบบนั้น . . . จีนจะแซงเศรษฐกิจสหรัฐในอีกไม่กี่ทศวรรษ , ushering ในจีนระหว่างประเทศการเมืองการปกครอง รายงานต่างๆเห็นด้วย -- 15 จาก 22 ประเทศในการสำรวจการวิจัยและเสียงข้างมากของสหรัฐอเมริกาชาวอเมริกันเชื่อว่าจีนได้แซงหน้าสหรัฐฯ หรือจะเร็ว ๆนี้ และสหรัฐอเมริกาสภาข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐคาดการณ์จีนแย่งชิงอำนาจโดย 2030 .

ของเจ้าปฏิเสธได้รับการถกเถียงกันมานานหลายทศวรรษ และฟอยล์ใหม่ล่าสุดเพื่ออำนาจของประเทศจีน สหรัฐฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่เป็นหนึ่งของโลกเท่านั้น และพลังพิเศษ แต่ก็โง่ เชื่อว่า สหรัฐฯ จะถูกปลด โดยประเทศจีน ในเร็วๆ นี้ แม้มีการเจริญเติบโตตัวเลขสองหลัก และเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาค

รายงานทำนายตอนจบของเจ้าโลกสหรัฐพึ่งพาข้อมูลดิบเมื่อมันเป็นสากล ความสัมพันธ์ที่แท้จริง undergird มหาอำนาจโลก ไม่มีเศรษฐกิจ , การทหาร , และสูตรที่ความคิดเห็นของประชาชนจะตัดสินโลกเฮเกมอนทั่วโลกต่อไป ส่วนเรื่องเหล่านี้ . . . แต่ไม่ชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ได้รับจาก และกำหนดโดยรัฐบาลของโลกยินดี

มันคือที่นี่ที่สหรัฐอเมริกาครอบครองสูงสุด สหรัฐอเมริกาได้รับรางวัลมากกว่า แต่ begrudgingly ,ชุมชนระหว่างประเทศที่เป็นทั้ง และจนกว่าจะถึงความจงรักภักดีนี้สหรัฐอเมริกาแบ่งลง เธอจะยังคงเป็นมหาอำนาจของโลกแน่นอน สหรัฐอเมริกา ใช้อำนาจอิทธิพล การชักจูง และความเป็นผู้นำในเวทีระหว่างประเทศที่ไม่มีรัฐอื่น ๆมาใกล้ เธอชุดกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่สนใจกฎหมายระหว่างประเทศ และมีความรับผิดชอบที่จะไม่มีใคร จีนขณะที่ชัดเจน jockeying สำหรับอำนาจและอำนาจ ยังไม่มีความชอบธรรม

เอาฝรั่งเศสรุกราน มาลี ปีล่าสุด มันคือสหรัฐอเมริกาที่ให้การสนับสนุนที่จำเป็นในผลเริ่มปฏิบัติการเพื่อต่อสู้กับโจรก่อการร้ายอิสลาม สถานการณ์ที่ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่ มีที่นั่งถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ , สายแรกในประเทศจีนเพื่อสนับสนุนยุทธวิธีเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการอิทธิพลของภูมิภาคจีนได้เห็นเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีล่าสุด แต่สถานการณ์ที่จีนและสหรัฐนำพันธมิตรนานาชาติที่ประสบความสำเร็จพันธมิตรเป็นแฟนตาซี

ในความเป็นจริงตรงข้ามเป็นจริง ประเทศจีนเป็นห่างไกลจากการเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ให้กับประชาคมระหว่างประเทศ นั่งอยู่บนขอบของการตัดสินใจระหว่างประเทศหลายสำหรับจำนวนของเหตุผล จีนพบการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างลึกซึ้งรบกวนที่บ้าน จีนยังปฏิเสธการกดขี่ที่โหดร้ายของประธานาธิบดี Bashar al Assad , และ พร้อมกับรัสเซีย ได้จัดขึ้นที่สหประชาชาติมติประณามระบอบการปกครอง จีนยังเป็นพันธมิตรครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือความแตกต่างอย่างละเอียดโชคร้าย

ความสัมพันธ์ของจีนกับสิทธิมนุษยชนคืออะไร แต่ที่ก้าวหน้าการเซ็นเซอร์สื่อและอินเทอร์เน็ต จำกัดเสรีภาพของศาสนา , แสดงออก , สมาคม , ข้อห้ามของหลายสหภาพแรงงานอิสระและองค์กร และนโยบายปราบปรามกับหลายคนในตะวันตกจีนและทิเบต สะกดปัญหาสำหรับผู้นำในปักกิ่งบนเวทีนานาชาติ แม้สหรัฐจะไม่สิทธิมนุษยชน นักบุญเธอยังถือความชอบธรรมกับทีมงานของพันธมิตรที่ได้รับรางวัลความสอดคล้องและความมั่นคง ทำให้โลกเปลี่ยนอำนาจอย่างมาก

ถ้าจีนยังคงบนเส้นทางนี้ของกิจการเหล่านั้น cavorting กับพันธมิตรที่น่าสงสัย ไม่บล็อกที่ร้ายแรงของผู้มีอิทธิพลระดับรัฐจะสนับสนุนเจ้าโลกจีนมากกว่าปัจจุบันของสหรัฐอเมริกาอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นจีนจะยังคงแข็งแรงในระดับภูมิภาค และผู้เล่นต่างชาติ แต่คนที่เล่นไวโอลินที่สองไปอเมริกา

ยัง พากเพียร ความเชื่อมั่นของสหรัฐฯ ลดลงอำนาจยังคงอยู่ จีนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะแซงของสหรัฐอเมริกาโดย 2019 . แต่ชอบของสหราชอาณาจักร , ฝรั่งเศส , เยอรมนี , ญี่ปุ่น , ฯลฯ จะไม่เพียงแค่หันไปรอบ ๆและสนับสนุนจีนขณะนี้จีดีพีข้ามบางเปิดประตูรวย , ประเทศอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เกี่ยวกับการอาศัยอยู่ในระบบนานาชาติ dictated โดยกฎ

จีน สหรัฐ และจีนจะเข้าร่วมในมากมายของพลังการต่อสู้ในทศวรรษที่ผ่านมา แต่เป็นการยากที่จีนจะท้าทายอำนาจของสหรัฐอเมริกา และได้รับการช่วยเหลือจากประเทศอุตสาหกรรมของโลก สหรัฐอเมริกา โดยไม่คำนึงถึงของมันจะมีข้อด้อยต้องถือมั่นอิทธิพลมากกว่าคุณค่าของโลก และจะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการทหารกับจีน

ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองยุคน่าอายของความผิดปกติ ( ดู : รัฐบาลปิด ) , สหรัฐอเมริกายังคงเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลกใบนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศ อำนาจแบบไดนามิกในศตวรรษนี้ต้องมากกว่าทางเศรษฐกิจหรือทางทหารอาจ มันต้องใช้ค่าประชาธิปไตย มีหน้ามีตา พันธมิตร และการแข็งค่าของสิทธิมนุษยชน และจนกว่าจีนสามารถผ่านการทดสอบเหล่านี้ สหรัฐ อยู่ในอันตรายของการสูญเสียพันธมิตรหรืออิทธิพล