Murray read up on the mummy and dis

Murray read up on the mummy and discovered that mummy and discovered that the ancient high priestess was part of a feared group called the Cult of the dead.The group had one central belief: they considered it their duty to bring death and destruction to everyone they met. Murray read that when the scientists who made the discovery found the high priestess's tomb, above the entrance they uncovered writing - warning of death and terror for anyone who disturbed her resting place. Murray didn't believe the story of the curse. He prepared to take the mummy back to England. But a few days later. He had shooting accident. Without warning, suddenly his gun exploded in his right hand. The wound became strangely infected, and doctors were forced to amputate Murray's arm at the elbow.


Murray eventually set off for England, with the mummy. However, during the voyage, two of his Egyptian servants mysteriously died. They were young, strong, healthy men, so their deaths came very unexpectedly. Later, having arrived back in England. Murray was examining the carved image of the priestess on the side of the case when he report that "its eyes seemed to come back to life and looked at me with such hatred that my blood ran cold. "TWO OF HIS CLOSE FRIENDS. to whom he had proudly shown the mummy on his return. Fell sick and died soon after.
By this time, Murray was starting to have second thoughts about keeping the mummy case. A lady friend of his persuaded him to sell it to her. Within weeks. the woman's mother died. her fiance left her, and she got very sick with a strange disease. Was it perhaps the same disease that had plagued the American? Fearing for her life, she begged Murray to take back the mummy case. Murray gave it to the British Museum.


Murray read up on the mummy and discovered that mummy and discovered that the ancient high priestess was part of a feared group called the Cult of the dead.The group had one central belief: they considered it their duty to bring death and destruction to everyone they met. Murray read that when the scientists who made the discovery found the high priestess's tomb, above the entrance they uncovered writing - warning of death and terror for anyone who disturbed her resting place. Murray didn't believe the story of the curse. He prepared to take the mummy back to England. But a few days later. He had shooting accident. Without warning, suddenly his gun exploded in his right hand. The wound became strangely infected, and doctors were forced to amputate Murray's arm at the elbow.

Murray eventually set off for England, with the mummy. However, during the voyage, two of his Egyptian servants mysteriously died. They were young, strong, healthy men, so their deaths came very unexpectedly. Later, having arrived back in England. Murray was examining the carved image of the priestess on the side of the case when he report that "its eyes seemed to come back to life and looked at me with such hatred that my blood ran cold. "TWO OF HIS CLOSE FRIENDS. to whom he had proudly shown the mummy on his return


By this time, Murray was starting to have second thoughts about keeping the mummy case. A lady friend of his persuaded him to sell it to her. Within weeks. the woman's mother died. her fiance left her, and she got very sick with a strange disease. Was it perhaps the same disease that had plagued the American? Fearing for her life, she begged Murray to take back the mummy case. Murray gave it to the British Museum.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมอร์เรย์ และอ่านค่าในมัมมี่มัมมี่ที่ค้นพบ และพบว่า priestess สูงโบราณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกลัวเรียกลัทธิของคนตาย กลุ่มที่มีความเชื่อศูนย์กลางหนึ่ง: พวกเขาถือว่ามันหน้าที่นำความตายและทำลายทุกคน จะพบ เมอร์เรย์อ่านว่า เมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการค้นพบสุสานของ priestess สูง ด้านบนทางเข้า จะเปิดเขียน - คำเตือนของความตายและความหวาดกลัวสำหรับใครก็ตามที่รบกวนพักของเธอ เมอร์เรย์ไม่เชื่อว่าเรื่องราวของการสาปแช่ง เขาเตรียมนำมัมมี่กลับไปอังกฤษ แต่ไม่กี่วันภายหลัง เขาได้ถ่ายภาพอุบัติเหตุ พรวด ก็ปืนของเขาระเบิดในมือขวาของเขา แผลที่ติดเชื้อกลายเป็นแพงกว่า และแพทย์ถูกบังคับให้ตัดแขนของเมอร์เรย์ที่ศอกเมอร์เรย์ในที่สุดการปิดสำหรับอังกฤษ กับมัมมี่ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเดินทาง สองราชการอียิปต์หายไปอย่างลึกลับตาย พวกเขาถูกชายหนุ่ม แข็งแรง สุขภาพดี ดังนั้นที่ผ่านมาโดยไม่คาดคิดมาก ภายหลัง มาถึงในประเทศอังกฤษ เมอร์เรย์ได้ตรวจสอบภาพแกะสลักของ priestess ด้านของกรณีเมื่อเขารายงานที่ "ตาของมันดูเหมือนจะ กลับมาชีวิต และมองฉัน ด้วยความเกลียดชังดังกล่าวว่า เลือดของฉันวิ่งเย็น" สองเพื่อนสนิทของเขา ที่เขาภูมิใจได้แสดงมัมมี่พระองค์ ล้มป่วย และเสียชีวิตหลังจากนั้นโดยเวลานี้ เมอร์เรย์กำลังเริ่มมีความคิดที่สองเกี่ยวกับการรักษากรณีมัมมี่ เพื่อนหญิงของเขาเกลี้ยกล่อมให้เขาขายให้เธอ ภายในสัปดาห์ แม่ของผู้หญิงที่เสียชีวิต fiance ของเธอทิ้งเธอ และเธอมีความมากป่วย ด้วยโรคประหลาด คือมันอาจจะโรคเดียวกันที่ได้เลือกที่อเมริกัน เธอกลัวสำหรับชีวิตของเธอ ขอร้องเมอร์เรย์จะกลับกรณีมัมมี่ เมอร์เรย์ให้กับพิพิธภัณฑ์อังกฤษเมอร์เรย์ และอ่านค่าในมัมมี่มัมมี่ที่ค้นพบ และพบว่า priestess สูงโบราณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกลัวเรียกลัทธิของคนตาย กลุ่มที่มีความเชื่อศูนย์กลางหนึ่ง: พวกเขาถือว่ามันหน้าที่นำความตายและทำลายทุกคน จะพบ เมอร์เรย์อ่านว่า เมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการค้นพบสุสานของ priestess สูง ด้านบนทางเข้า จะเปิดเขียน - คำเตือนของความตายและความหวาดกลัวสำหรับใครก็ตามที่รบกวนพักของเธอ เมอร์เรย์ไม่เชื่อว่าเรื่องราวของการสาปแช่ง เขาเตรียมนำมัมมี่กลับไปอังกฤษ แต่ไม่กี่วันภายหลัง เขาได้ถ่ายภาพอุบัติเหตุ พรวด ก็ปืนของเขาระเบิดในมือขวาของเขา แผลที่ติดเชื้อกลายเป็นแพงกว่า และแพทย์ถูกบังคับให้ตัดแขนของเมอร์เรย์ที่ศอกเมอร์เรย์ในที่สุดการปิดสำหรับอังกฤษ กับมัมมี่ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเดินทาง สองราชการอียิปต์หายไปอย่างลึกลับตาย พวกเขาถูกชายหนุ่ม แข็งแรง สุขภาพดี ดังนั้นที่ผ่านมาโดยไม่คาดคิดมาก ภายหลัง มาถึงในประเทศอังกฤษ เมอร์เรย์ได้ตรวจสอบภาพแกะสลักของ priestess ด้านของกรณีเมื่อเขารายงานที่ "ตาของมันดูเหมือนจะ กลับมาชีวิต และมองฉัน ด้วยความเกลียดชังดังกล่าวว่า เลือดของฉันวิ่งเย็น" สองเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเขาได้ภูมิใจแสดงมัมมี่พระองค์โดยเวลานี้ เมอร์เรย์กำลังเริ่มมีความคิดที่สองเกี่ยวกับการรักษากรณีมัมมี่ เพื่อนหญิงของเขาเกลี้ยกล่อมให้เขาขายให้เธอ ภายในสัปดาห์ แม่ของผู้หญิงที่เสียชีวิต fiance ของเธอทิ้งเธอ และเธอมีความมากป่วย ด้วยโรคประหลาด คือมันอาจจะโรคเดียวกันที่ได้เลือกที่อเมริกัน เธอกลัวสำหรับชีวิตของเธอ ขอร้องเมอร์เรย์จะกลับกรณีมัมมี่ เมอร์เรย์ให้กับพิพิธภัณฑ์อังกฤษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมอร์เรอ่านข้อมูลเกี่ยวกับแม่และพบว่าแม่และพบว่าพระโบราณสูงเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่เรียกว่ากลัวลัทธิความเชื่อของกลุ่ม dead.The ที่มีหนึ่งความเชื่อกลางที่พวกเขาคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของตนที่จะนำความตายและการทำลายให้กับทุกคนที่พวกเขา พบ เมอร์เรอ่านว่าเมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นพบพบหลุมฝังศพพระสูง, เหนือประตูทางเข้าที่พวกเขาค้นพบการเขียน - การแจ้งเตือนของการเสียชีวิตและความหวาดกลัวสำหรับทุกคนที่รบกวนสถานที่พักผ่อนของเธอ เมอเรย์ไม่เชื่อว่าเรื่องราวของคำสาปที่ เขาเตรียมที่จะใช้แม่กลับไปอังกฤษ แต่ไม่กี่วันต่อมา เขาได้ถ่ายภาพที่เกิดอุบัติเหตุ โดยไม่มีการเตือนก็ระเบิดปืนของเขาอยู่ในมือข้างขวาของเขา กลายเป็นแผลติดเชื้อแปลกและแพทย์จะถูกบังคับให้ตัดแขนของเมอร์เรที่ข้อศอก. เมอเรย์ในที่สุดก็ออกเดินทางไปประเทศอังกฤษกับแม่ อย่างไรก็ตามในระหว่างการเดินทางสองของข้าราชการอียิปต์ลึกลับของเขาเสียชีวิต พวกเขาเป็นเด็กแข็งแรงผู้ชายที่มีสุขภาพดังนั้นความตายมามากโดยไม่คาดคิด ต่อมาได้กลับมาอยู่ในประเทศอังกฤษ เมอเรย์ได้รับการตรวจสอบภาพแกะสลักของพระด้านข้างของคดีเมื่อเขารายงานว่า "ตาดูเหมือนจะกลับมามีชีวิตและมองมาที่ผมด้วยความเกลียดชังดังกล่าวว่าเลือดของฉันวิ่งเย็น." สองเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเขาได้แสดงให้เห็นความภาคภูมิใจในการกลับมาแม่ของเขา ป่วยและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน. โดยขณะนี้เมอเรย์ก็เริ่มที่จะมีความคิดที่สองเกี่ยวกับการรักษากรณีแม่ เพื่อนผู้หญิงของเขาชักชวนให้เขาที่จะขายมันให้กับเธอ ภายในสัปดาห์ แม่ของผู้หญิงที่เสียชีวิต คู่หมั้นของเธอทิ้งเธอและเธอได้ป่วยมากที่มีโรคแปลก ๆ มันอาจจะเป็นโรคเดียวกันที่รบกวนชาวอเมริกัน? เพราะเกรงว่าชีวิตของเธอเธอขอร้องให้เมอเรย์ที่จะกลับกรณีแม่ เมอร์เรมอบมันให้กับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษ. เมอร์เรอ่านข้อมูลเกี่ยวกับแม่และพบว่าแม่และพบว่าพระโบราณสูงเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกลัวที่เรียกว่าศาสนาของกลุ่ม dead.The มีความเชื่อหนึ่งกลางที่พวกเขาคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขา ที่จะนำความตายและการทำลายให้กับคนที่พวกเขาพบกัน เมอร์เรอ่านว่าเมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นพบพบหลุมฝังศพพระสูง, เหนือประตูทางเข้าที่พวกเขาค้นพบการเขียน - การแจ้งเตือนของการเสียชีวิตและความหวาดกลัวสำหรับทุกคนที่รบกวนสถานที่พักผ่อนของเธอ เมอเรย์ไม่เชื่อว่าเรื่องราวของคำสาปที่ เขาเตรียมที่จะใช้แม่กลับไปอังกฤษ แต่ไม่กี่วันต่อมา เขาได้ถ่ายภาพที่เกิดอุบัติเหตุ โดยไม่มีการเตือนก็ระเบิดปืนของเขาอยู่ในมือข้างขวาของเขา กลายเป็นแผลติดเชื้อแปลกและแพทย์จะถูกบังคับให้ตัดแขนของเมอร์เรที่ข้อศอก. เมอเรย์ในที่สุดก็ออกเดินทางไปประเทศอังกฤษกับแม่ อย่างไรก็ตามในระหว่างการเดินทางสองของข้าราชการอียิปต์ลึกลับของเขาเสียชีวิต พวกเขาเป็นเด็กแข็งแรงผู้ชายที่มีสุขภาพดังนั้นความตายมามากโดยไม่คาดคิด ต่อมาได้กลับมาอยู่ในประเทศอังกฤษ เมอเรย์ได้รับการตรวจสอบภาพแกะสลักของพระด้านข้างของคดีเมื่อเขารายงานว่า "ตาดูเหมือนจะกลับมามีชีวิตและมองมาที่ผมด้วยความเกลียดชังดังกล่าวว่าเลือดของฉันวิ่งเย็น." สองเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเขาได้แสดงให้เห็นความภาคภูมิใจในการกลับมาแม่ของเขามาถึงตอนนี้เมอเรย์ก็เริ่มที่จะมีความคิดที่สองเกี่ยวกับการรักษากรณีแม่ เพื่อนผู้หญิงของเขาชักชวนให้เขาที่จะขายมันให้กับเธอ ภายในสัปดาห์ แม่ของผู้หญิงที่เสียชีวิต คู่หมั้นของเธอทิ้งเธอและเธอได้ป่วยมากที่มีโรคแปลก ๆ มันอาจจะเป็นโรคเดียวกันที่รบกวนชาวอเมริกัน? เพราะเกรงว่าชีวิตของเธอเธอขอร้องให้เมอเรย์ที่จะกลับกรณีแม่ เมอร์เรมอบมันให้กับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมอร์เรย์อ่านขึ้นบน มัมมี่ และค้นพบว่า มัมมี่ และค้นพบว่า นักพรตโบราณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่เรียกว่ากลัวศาสนาของคนตาย กลุ่มหนึ่งกลางความเชื่อ : พวกเขาถือว่าเป็นหน้าที่ ที่จะต้องนำความตายและการทำลายทุกคนที่พวกเขาพบ เมอร์เรย์อ่านเมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นพบพบสุสานนักพรตสูงสุดได้เหนือประตูก็เปิดเขียนเตือนของความตายและความหวาดกลัวให้ใครรบกวนเธอ สถานที่พักผ่อน เมอร์เรย์ ไม่ได้เชื่อเรื่องคำสาป เขาเตรียมจะพาแม่กลับไปอังกฤษ แต่ไม่กี่วันต่อมา เขามีการยิงอุบัติเหตุ โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า จู่ๆปืนระเบิดในมือข้างขวาของเขา แผลเริ่มติดเชื้อ ตระการและแพทย์ต้องตัด murray แขนที่ข้อศอก


/ ในที่สุดก็ตั้งปิดสำหรับ อังกฤษ กับ มัมมี่ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเดินทาง สองข้าราชการของเขาอียิปต์ตายอย่างลึกลับ . พวกเขายังเด็ก แข็งแรงกว่าผู้ชาย ดังนั้น การตายของพวกเขามาอย่างไม่คาดคิด ต่อมามีมาถึงในอังกฤษเมอร์เรย์กำลังตรวจสอบภาพแกะสลักของนักพรตในด้านของคดี เมื่อเขารายงานว่า " ตาของมันเหมือนชีวิตกลับมา แล้วมองมาที่ผมกับความเกลียดชังที่เลือดของฉันวิ่งเย็น” สองเพื่อนสนิทของเขา ที่เขาภาคภูมิใจแสดงมัมมี่กลับมาของเขา ป่วยและเสียชีวิต หลังจากนั้นไม่นาน
โดยเวลานี้ เมอร์เรย์ ก็เริ่มที่จะมีความคิดที่สองเกี่ยวกับการรักษามัมมี่ กรณีผู้หญิงที่เป็นเพื่อนของเขาเมื่อเขาขายมันให้กับเธอ ภายในสัปดาห์ แม่ของผู้หญิงที่ตาย คู่หมั้นของเธอทิ้งเธอไป เธอป่วยหนักด้วยโรคที่แปลก มันอาจจะเหมือนกับโรคที่มี plagued อเมริกัน ? กลัวสำหรับชีวิตของเธอ เธอได้ขอร้องให้ เมอร์เรย์ ไปข้างหลัง มัมมี่ กรณี เมอร์เรย์ให้พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษ


เมอร์เรย์อ่านขึ้นบน มัมมี่ และค้นพบว่า มัมมี่ และค้นพบว่า นักพรตโบราณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่เรียกว่ากลัวศาสนาของคนตาย กลุ่มหนึ่งกลางความเชื่อ : พวกเขาถือว่าเป็นหน้าที่ ที่จะต้องนำความตายและการทำลายทุกคนที่พวกเขาพบ เมอร์เรย์อ่านเมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นพบพบสุสานนักพรตสูงสุดได้เหนือประตูก็เปิดเขียนเตือนของความตายและความหวาดกลัวให้ใครรบกวนเธอ สถานที่พักผ่อน เมอร์เรย์ ไม่ได้เชื่อเรื่องคำสาป เขาเตรียมจะพาแม่กลับไปอังกฤษ แต่ไม่กี่วันต่อมา เขามีการยิงอุบัติเหตุ โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า จู่ๆปืนระเบิดในมือข้างขวาของเขา แผลเริ่มติดเชื้อ ตระการและแพทย์ต้องตัด murray แขนที่ข้อศอก

/ ในที่สุดตั้งปิดสำหรับ อังกฤษ กับ มัมมี่ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเดินทาง สองข้าราชการของเขาอียิปต์ตายอย่างลึกลับ . พวกเขายังเด็ก แข็งแรงกว่าผู้ชาย ดังนั้น การตายของพวกเขามาอย่างไม่คาดคิด ต่อมามีมาถึงในอังกฤษเมอร์เรย์กำลังตรวจสอบภาพแกะสลักของนักพรตในด้านของคดี เมื่อเขารายงานว่า " ตาของมันเหมือนชีวิตกลับมา แล้วมองมาที่ผมกับความเกลียดชังที่เลือดของฉันวิ่งเย็น” สองเพื่อนสนิทของเขา ที่เขาภาคภูมิใจแสดงมัมมี่ของเขากลับ


เวลานี้เมอเรย์ก็เริ่มที่จะมีความคิดที่สองเกี่ยวกับการรักษามัมมี่ กรณีผู้หญิงที่เป็นเพื่อนของเขาเมื่อเขาขายมันให้กับเธอ ภายในสัปดาห์ แม่ของผู้หญิงที่ตาย คู่หมั้นของเธอทิ้งเธอไป เธอป่วยหนักด้วยโรคที่แปลก มันอาจจะเหมือนกับโรคที่มี plagued อเมริกัน ? กลัวสำหรับชีวิตของเธอ เธอได้ขอร้องให้ เมอร์เรย์ ไปข้างหลัง มัมมี่ กรณี เมอร์เรย์ให้พิพิธภัณฑ์ของอังกฤษ