• They held out the hope that life

• They held out the hope that life on earth could be

improved, that poverty and injustice need not be

accepted as part of an unalterable natural order.

• The prophets emphasized the individual’s

responsibility for his or her own actions.

• They indicated that the individual could not know God by

merely following edicts and performing rituals; the

individual must experience God.

• Precisely this I-Thou relationship could make the

individual fully conscious of self and could deepen and

enrich his or her own personality.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

•พวกเขาก็หวังว่าชีวิตบนโลกอาจจะว่า ความยากจนและความอยุติธรรมไม่จำเป็น การปรับปรุงยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของใบสั่งที่ธรรมชาติไม่เปลี่ยนแปลง•ผู้เผยพระวจนะเน้นของแต่ละบุคคลความรับผิดชอบการกระทำของ ตนเอง•พวกเขาระบุว่า บุคคลสามารถรู้จักพระเจ้าด้วยเพียงต่อสาธารณและการทำพิธีกรรม การบุคคลต้องพบพระเจ้า•ตรงนี้ฉัน-เจ้าทำให้ความสัมพันธ์แต่ละอย่างเต็มสติของตนเอง และสามารถกระชับ และและบุคลิกภาพของ ตนเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

•พวกเขายื่นออกมาหวังว่าชีวิตบนโลกจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นที่ความยากจนและความอยุติธรรมไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไม่เปลี่ยนแปลง. •ผู้เผยพระวจนะเน้นของแต่ละบุคคลที่รับผิดชอบในการกระทำของเขาหรือเธอเอง. •พวกเขาแสดงให้เห็นว่าบุคคลที่ ไม่สามารถรู้ว่าพระเจ้าโดยเพียงต่อไปสิตและพิธีกรรม; บุคคลต้องมีประสบการณ์พระเจ้า. •แม่นยำนี้ความสัมพันธ์ของ I-พระองค์จะทำให้แต่ละคนได้อย่างเต็มที่จิตสำนึกของตนเองและอาจลึกมากขึ้นและเสริมสร้างบุคลิกภาพของเขาหรือเธอเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- พวกเขาไว้ หวังว่า ชีวิตบนโลกได้ปรับปรุง , ความยากจนและความอยุติธรรมไม่ต้องได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไม่เปลี่ยนแปลง .- นบีเน้นของแต่ละบุคคลความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองของเขาหรือเธอ- พวกเขาพบว่า บุคคลไม่สามารถรู้จักพระเจ้าโดยแต่ต่อไปนี้ต้องแสดงพิธีกรรมแต่ละคนต้องพบพระเจ้า- เรื่องนี้แน่นอน i-thou ความสัมพันธ์ให้แต่ละอย่างมีสติของตนเองและอาจลึกและเต็มอิ่มกับบุคลิกภาพของตัวเองของเขาหรือเธอ