4. Working conditions and exposure

4. Working conditions and exposure to risks
A broad range of cleaning activities, from sweeping and vacuuming to disposing of waste or cleaning
toilets is performed in different work environments such as homes, offices, industries, schools, shops,
but also aircrafts or hospitals. The types of risks to which cleaning workers are exposed are hence not
only specific to the type of cleaning tasks they perform, but also specific to the sector and premises they
work in [21].
4.1. Chemical hazards in cleaning
Cleaning workers use many different cleaning agents to facilitate dust and dirt removal, for disinfection
and surface maintenance, which are a source of chemical hazards. The exposure depends on the type
of products used and the conditions under which they are used such as frequency, amount, and
manner of application, cleaner’s breathing rate and efficiency of ventilation during and after cleaning or
use of protective measures to limit exposure and intake [22] [23]. For example, some chemicals may
have irritant properties at low concentrations and be corrosive at high concentrations, e.g. acids or
bases. Some chemicals may for example cause breathing problems if over sprayed, used without
adequate ventilation or sprayed onto hot surfaces for instance [24]. The chemicals contained in some
cleaning agents may be flammable or explosive. The incorrect use of certain products (e.g. overdosage,
unsafe mixing of different products, inappropriate cleaning methods) can increase the risks for
cleaners [25]. Furthermore, when cleaning workers work outside the regular working times, i.e. before
or after the opening hours, the ventilation, air exhaust or air conditioning system may be turned off and
the air not renewed in the work areas, which may increase the exposure to chemical substances [9].
In addition to the cleaning products used, the dirt itself which the worker aims at removing may be a
source of chemical – as well as biological - hazard. According to P. Wolkoff [26], the process of
cleaning can be considered as a chemical reaction causing, depending on the substances (whether
dust, fat, etc.) being cleaned, either the dissolution of deposits of minerals or inorganic salts i.e.
equivalent to acid-base reactions; or complex formation of soluble ‘reaction products’ with water; or the
formation of micelles of dust or fat to which cleaning workers are exposed when removing these.
Therefore, when looking at the chemical risks that cleaning workers may be exposed to, the exposure
to the chemical substances present in dirt, dust, soot particles, etc. being removed from surfaces
to be cleaned such as floors, furniture etc. has to be taken in account in addition to the chemical
ingredients of cleaning products that the workers use in order to clean this dirt, dust, grease, etc..
Identifying the different types of chemical hazards involved in the cleaning process is hence of great
importance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. ทำงานเงื่อนไขและความเสี่ยงความหลากหลายของกิจกรรม กวาด และดูดฝุ่นการทิ้งของเสีย หรือการทำความสะอาดทำความสะอาดห้องสุขาจะดำเนินการในสภาพแวดล้อมในการทำงานต่าง ๆ เช่นบ้าน สำนักงาน อุตสาหกรรม โรงเรียน ร้าน ค้าแต่ยังเครื่องบินหรือโรงพยาบาล ประเภทของความเสี่ยงที่แรงงานทำความสะอาดจะสัมผัสไม่ได้ดังนั้นเฉพาะเจาะจงกับชนิดของทำงานทำความสะอาด แต่ยังเฉพาะภาคและสถานพวกเขาทำงานใน [21]4.1. สารเคมีอันตรายในการทำความสะอาดคนงานทำความสะอาดใช้น้ำยาทำความสะอาดแตกต่างกันมากมายเพื่อกำจัดที่เป็นฝุ่นและสิ่งสกปรก สำหรับการฆ่าเชื้อและพื้นผิวการบำรุงรักษา ซึ่งเป็นแหล่งของสารเคมีอันตราย การเปิดรับแสงตามประเภทผลิตภัณฑ์ของใช้ และมีเงื่อนไขที่จะใช้เช่นความถี่ ยอด และลักษณะของงาน ทำความสะอาดของหายใจอัตราและประสิทธิภาพของการระบายอากาศในระหว่าง และ หลังทำความสะอาด หรือการใช้มาตรการป้องกันเพื่อจำกัดการรับและบริโภค [22] [23] ตัวอย่างเช่น เคมีบางอย่างอาจมีคุณสมบัติ irritant ที่ความเข้มข้นต่ำ และถูกกัดกร่อนที่ความเข้มข้นสูง เช่นกรด หรือฐาน สารเคมีบางอย่างอาจสำหรับสาเหตุอย่างหายใจปัญหาถ้าพ่นมากกว่า ไม่ใช้ระบายอากาศเพียงพอ หรือฉีดพ่นลงบนพื้นผิวที่ร้อนเช่น [24] สารเคมีที่อยู่ในสะอาดอาจติดไฟ หรือระเบิด การใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่าง (เช่น overdosage ไม่ถูกต้องผสมไม่ปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง วิธีทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม) สามารถเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการน้ำยาทำความสะอาด [25] นอกจากนี้ เมื่อทำความสะอาดคนงานทำงานนอกเวลาทำงานปกติ เช่นก่อนหรือหลังจากเวลา ระบายอากาศ ระบบไอเสียหรือเครื่องปรับอากาศอากาศอาจถูกปิด และอากาศที่ไม่ต่ออายุในพื้นที่ทำงาน ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงกับสารเคมี [9]นอกเหนือจากใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแล้ว อาจจะสกปรกตัวเองซึ่งผู้ปฏิบัติงานที่เอาการแหล่งที่มาของเคมี –และชีวภาพ- ตาม Wolkoff P. [26], กระบวนการทำความสะอาดถือได้ว่าเป็นมีปฏิกิริยาเคมีเกิด ขึ้นอยู่กับสาร (ไม่ว่าจะฝุ่น ไขมัน และอื่น ๆ) การทำความสะอาด ทั้งการล่มสลายของฝาก ของแร่ธาตุ หรืออนินทรีย์เกลือเช่นเทียบเท่ากับปฏิกิริยากรดเบส หรือซับซ้อนเกิดละลาย 'ผลิตภัณฑ์ปฏิกิริยา' น้ำ หรือการก่อตัวของ micelles ฝุ่นหรือไขมันที่คนงานทำความสะอาดจะสัมผัสได้เมื่อเอาเหล่านี้ดังนั้น เมื่อความเสี่ยงสารเคมี ทำความสะอาด คนงานสามารถสัมผัสกับ การเปิดรับแสงการสารเคมีที่อยู่ในอนุภาคเขม่า ฝุ่น สิ่งสกปรก ฯลฯ ที่ถูกเอาออกจากพื้นผิวการทำความสะอาดเช่นชั้น เฟอร์นิเจอร์ฯลฯ ที่ในบัญชีนอกเหนือจากสารเคมีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่คนงานใช้เพื่อทำความสะอาดนี้สกปรก ฝุ่น จาระบี ฯลฯ ทำความสะอาด...ระบุชนิดของสารเคมีอันตรายที่เกี่ยวข้องในการทำความสะอาดเป็นดังของความสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. เงื่อนไขในการทำงานและความเสี่ยงที่
มีความหลากหลายของกิจกรรมการทำความสะอาดจากการกวาดและดูดฝุ่นในการกำจัดของเสียหรือการทำความสะอาด
ห้องสุขาจะดำเนินการในสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่างกันเช่นบ้าน, สำนักงาน, อุตสาหกรรม, โรงเรียน, ร้านค้า,
แต่ยังเครื่องบินหรือโรงพยาบาล ประเภทของความเสี่ยงที่คนงานทำความสะอาดกำลังเผชิญอยู่จึงไม่
เพียง แต่เฉพาะกับประเภทของงานที่พวกเขาดำเนินการทำความสะอาด แต่ยังที่เฉพาะเจาะจงไปยังภาคและสถานที่ที่พวกเขา
ทำงานใน [21].
4.1 อันตรายจากสารเคมีในการทำความสะอาด
คนงานทำความสะอาดใช้น้ำยาทำความสะอาดจำนวนมากที่แตกต่างกันเพื่อความสะดวกในการกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสำหรับการฆ่าเชื้อ
และการบำรุงรักษาพื้นผิวซึ่งเป็นแหล่งที่มาของสารเคมีที่เป็นอันตราย การเปิดรับขึ้นอยู่กับชนิด
ของผลิตภัณฑ์ที่ใช้และภายใต้เงื่อนไขที่พวกเขาจะใช้เช่นความถี่จำนวนและ
ลักษณะของการประยุกต์ใช้อัตราการหายใจไม่สะอาดและมีประสิทธิภาพของการระบายอากาศในระหว่างและหลังการทำความสะอาดหรือ
การใช้มาตรการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงและการบริโภค [ 22] [23] ยกตัวอย่างเช่นสารเคมีบางชนิดอาจ
มีคุณสมบัติในการเกิดการระคายเคืองที่ความเข้มข้นต่ำและทำให้เกิดการกัดกร่อนที่เข้มข้นสูงเช่นกรดหรือ
ฐาน สารเคมีบางชนิดเช่นอาจทำให้เกิดปัญหาการหายใจถ้ามากกว่าพ่นใช้โดยไม่มีการ
ระบายอากาศอย่างเพียงพอหรือฉีดพ่นลงบนพื้นผิวที่ร้อนสำหรับอินสแตนซ์ [24] สารเคมีที่มีอยู่ในบาง
สารทำความสะอาดอาจไวไฟหรือระเบิดได้ การใช้งานที่ไม่ถูกต้องของสินค้าบางอย่าง (เช่นเกินขนาด,
ไม่ปลอดภัยการผสมของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันวิธีการทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม) สามารถเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ
การทำความสะอาด [25] นอกจากนี้คนงานเมื่อทำความสะอาดทำงานนอกเวลาทำงานปกติคือก่อน
หรือหลังเวลาเปิดการระบายไอเสียอากาศหรือระบบปรับอากาศอาจถูกปิดและ
อากาศไม่ได้ต่ออายุในพื้นที่ทำงานซึ่งอาจเพิ่มการสัมผัสกับสารเคมี . สาร [9]
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้สิ่งสกปรกของตัวเองซึ่งผู้ปฏิบัติงานที่มีจุดมุ่งหมายที่ลบอาจจะเป็น
แหล่งที่มาของสารเคมี - เช่นเดียวกับทางชีวภาพ - อันตราย ตามที่พี Wolkoff [26] กระบวนการของ
การทำความสะอาดที่ถือได้ว่าเป็นปฏิกิริยาเคมีที่ก่อให้เกิดขึ้นอยู่กับสาร (ไม่ว่า
ฝุ่นไขมัน ฯลฯ ) ถูกทำความสะอาดทั้งการสลายตัวของเงินฝากของแร่ธาตุหรือเกลือนินทรีย์เช่น
เทียบเท่า ปฏิกิริยาของกรดเบส; หรือการที่ซับซ้อนของการละลายน้ำ 'ผลิตภัณฑ์ปฏิกิริยากับน้ำ หรือ
การก่อตัวของไมเซลล์ของฝุ่นละอองหรือไขมันที่คนงานทำความสะอาดได้สัมผัสเมื่อลบเหล่านี้.
ดังนั้นเมื่อมองไปที่สารเคมีมีความเสี่ยงว่าคนงานทำความสะอาดอาจจะสัมผัสกับการสัมผัส
กับสารเคมีที่มีอยู่ในฝุ่นละอองสิ่งสกปรกอนุภาคเขม่า ฯลฯ ถูกลบออกจากพื้นผิว
ที่จะทำความสะอาดเช่นพื้น, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ จะต้องมีการดำเนินการในบัญชีนอกจากนี้ยังมีสารเคมี
ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่คนงานใช้ในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกนี้ฝุ่น, จารบี ฯลฯ ..
ระบุ ชนิดที่แตกต่างกันของสารเคมีอันตรายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทำความสะอาดด้วยเหตุนี้การที่ดี
สำคัญ