but even life at the top has its up

but even life at the top has its ups and downs.One of the worst moments in the young musician's life was the death of her grandfather, Tan Lip Kee,lived in Singapore, She explains."I was his only grandchild so we were close" Vanessa thinks that her grandfather was disappointed with her choice of career,He couldn't really understand why she wanted to play the violin professionally. One day,when Vanessa was 15 and preparing for an important concert,the family received a call telling them that Tan Lip Kee was very ill with cancer. Her mother flew to Singapore but the young woman stayed in London to do her concert."All through my life,my parents reminded me that you must do your job and do it to the end" she says.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ชีวิตคู่ที่ด้านบนมีดอน ๆช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของนักดนตรีหนุ่มหนึ่งสิ้นพระชนม์ของเธอตา ตาลลิกี อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ เธออธิบาย"ผมเป็นหลานชายของเขาเท่านั้นเพื่อให้เราได้ใกล้ชิด"วาเนสซ่าคิดว่า ปู่ของเธอถูกผิดหวังกับอาชีพของเธอ เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมเธออยากเล่นไวโอลินอย่างมืออาชีพ วันหนึ่ง เมื่อวาเนสซ่าเป็น 15 และเตรียมสำหรับคอนเสิร์ตสำคัญ ครอบครัวที่รับสายบอกพวกเขาว่า ขี้ Lip ตาลถูกมากป่วย ด้วยโรคมะเร็ง แม่ของเธอบินไปสิงคโปร์ แต่หญิงสาวอยู่ในลอนดอนจะทำคอนเสิร์ตของเธอ"ตลอดชีวิต พ่อเตือนฉันว่า คุณต้องทำงานของคุณ และทำตาม"เขากล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่แม้ชีวิตที่ด้านบนมีอัพและ downs.One ของช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของนักดนตรีหนุ่มสาวคือความตายของคุณปู่ของเธอลิปตันคีอาศัยอยู่ในสิงคโปร์, เธออธิบาย. "ผมเป็นหลานคนเดียวของเขาเพื่อให้เราอยู่ใกล้ "วาเนสซ่าคิดว่าคุณปู่ของเธอรู้สึกผิดหวังกับทางเลือกของเธอในอาชีพของเขาอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงอยากจะเล่นไวโอลินมืออาชีพ อยู่มาวันหนึ่งเมื่อวาเนสซ่าอายุ 15 และเตรียมความพร้อมสำหรับคอนเสิร์ตที่สำคัญครอบครัวได้รับโทรศัพท์บอกว่าตาลลิป Kee ป่วยมากด้วยโรคมะเร็ง แม่ของเธอบินไปสิงคโปร์ แต่หญิงสาวที่อยู่ในกรุงลอนดอนที่จะทำคอนเสิร์ตของเธอ. "ตลอดชีวิตของฉันพ่อแม่ของฉันเตือนฉันว่าคุณต้องทำผลงานของคุณและทำมันจบ" เธอกล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ชีวิตที่ด้านบนมี ups และดาวน์ หนึ่งในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตหนุ่มนักดนตรี คือ ความตายของปู่ของเธอแทน ปากคีอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ เธออธิบายว่า " ฉันเป็นหลานคนเดียวของเขา ดังนั้น เราสนิทกัน " วาเนสซ่าคิดแบบนั้นปู่ของเธอผิดหวังกับทางเลือกของอาชีพของเธอ เขาไม่ได้เข้าใจจริงๆ ทำไมเธอถึงอยากเล่นไวโอลินอย่างมืออาชีพ วันหนึ่งเมื่อ วาเนสซ่า คือ 15 และเตรียมตัวสำหรับงานคอนเสิร์ตสำคัญ ครอบครัวได้รับโทรศัพท์บอกพวกเขาว่า ตาล ปากคี ป่วยด้วยโรคมะเร็ง แม่เธอบินไปสิงคโปร์ แต่หญิงสาวอยู่ในลอนดอนเพื่อทำคอนเสิร์ตของเธอ " ทั้งหมดผ่านชีวิตของฉัน พ่อแม่ของฉันเตือนฉันว่าคุณต้องทำหน้าที่ของคุณ และทำมันให้จบ " เธอกล่าว