The objective of this research is t

The objective of this research is to investigate the relationship between gender and employee attitudes among
temporary employees. Drawing on gender role theory,we hypothesized that female temporary employees, compared
to male counterparts, will have more positive attitudes toward their organizations. We studied the above
relationship in relation to both client organization and temporary agency as temporary employees associate
themselves with these two types of organization. We also tested the moderating influence of age and education
on the relationship between gender and work-related attitudes. The results based on a survey of temporary employees
(N = 1261), indicate that female temporary employees have more positive work related attitudes toward
the client organization. The results also indicated that education and, to a limited extent, age, acted as a
moderator for the relationship between gender and employee attitudes. We discuss implications of these findings
for the research and practice of managing temporary employees in organizations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการ ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเพศและพนักงานทัศนคติระหว่างลูกจ้างชั่วคราว วาดบนทฤษฎีบทบาทเพศ เราตั้งสมมติฐานว่าที่หญิงลูกจ้างชั่วคราว เปรียบเทียบกับคู่ชาย จะมีเจตคติในเชิงบวกมากขึ้นองค์กรของพวกเขา เราศึกษาข้างต้นความสัมพันธ์เกี่ยวกับลูกค้าองค์กรและหน่วยงานชั่วคราวเป็นพนักงานชั่วคราวรศมีสองชนิดเหล่านี้ขององค์กรตัวเอง นอกจากนี้เรายังทดสอบอิทธิพลของอายุและการศึกษา moderatingในความสัมพันธ์ระหว่างเพศและทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ผลลัพธ์ที่ตามการสำรวจลูกจ้างชั่วคราว(N = 1261), ระบุว่า พนักงานหญิงชั่วคราวมีงานยิ่งบวกที่เกี่ยวข้องกับเจตคติลูกค้าองค์กร ผลลัพธ์ยังระบุว่า การศึกษา และ ขอบเขตที่จำกัด อายุ ดำเนินเป็นการผู้ดูแลสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศและพนักงานทัศนคติ เราหารือเกี่ยวกับผลกระทบของผลการวิจัยเหล่านี้สำหรับการวิจัยและปฏิบัติการจัดการพนักงานชั่วคราวในองค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเพศและทัศนคติของพนักงานในกลุ่มลูกจ้างชั่วคราว
การวาดภาพบนทฤษฎีบทบาททางเพศที่เราตั้งสมมติฐานว่าลูกจ้างชั่วคราวหญิงเมื่อเทียบกับคู่ชายจะมีทัศนคติที่เป็นบวกมากขึ้นต่อองค์กรของพวกเขา
เราศึกษาดังกล่าวข้างต้นมีความสัมพันธ์ในความสัมพันธ์กับองค์กรทั้งลูกค้าและหน่วยงานชั่วคราวเป็นพนักงานชั่วคราวเชื่อมโยงตัวเองกับทั้งสองประเภทขององค์กร นอกจากนี้เรายังได้รับการทดสอบอิทธิพลดูแลของอายุและการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศและทัศนคติการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ ผลจากการสำรวจของพนักงานชั่วคราว(ยังไม่มี = 1261) แสดงให้เห็นว่าลูกจ้างชั่วคราวหญิงมีงานที่เป็นบวกมากขึ้นต่อทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของลูกค้า ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าและในระดับที่ จำกัด อายุทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างเพศและทัศนคติของพนักงาน เราหารือผลกระทบของการค้นพบเหล่านี้สำหรับการวิจัยและการปฏิบัติของการจัดการพนักงานชั่วคราวในองค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเพศ และทัศนคติของพนักงานระหว่าง
พนักงานชั่วคราว การวาดภาพบนทฤษฎีบทบาทเพศ เราตั้งสมมุติฐานว่าพนักงานหญิงชั่วคราว เทียบ
คู่ชาย จะมีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นต่อองค์กรของตน เราเรียนข้างต้น
ความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งในองค์กรและหน่วยงานชั่วคราวในฐานะพนักงานชั่วคราวเชื่อมโยง
ตัวเองกับทั้งสองประเภทขององค์กร เรายังทดสอบควบคุมอิทธิพลของอายุและการศึกษา
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศและทัศนคติเกี่ยวกับงาน ผลที่ได้จากการสำรวจพนักงานชั่วคราว
( n = 1261 )ระบุว่า ลูกจ้างชั่วคราว หญิงมีมากขึ้นบวกทํางานที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติต่อ
องค์การค้า ผลการวิจัยยังพบว่า ระดับการศึกษา และในขอบเขตที่ จำกัด อายุ แสดงเป็น
ผู้ดูแลสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศ และทัศนคติของพนักงาน เราได้กล่าวถึงความหมายของการค้นพบเหล่านี้
สำหรับการวิจัยและการปฏิบัติของการจัดการพนักงานชั่วคราวในองค์กร