ปริญญานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพ

ปริญญานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการปรับอัตราส่วนการอัดในเครื่องยนต์ดีเซล ห้องเผาไหม้แบบเปิด มีการดัดแปลงห้องเผาไหม้ที่ลูกสูบให้มีปริมาตรเล็กลงและเสริมกระบอกปรับอัตราส่วนการอัดเข้าไปที่ฝาสูบทำให้สามารถปรับอัตราส่วนการอัดระหว่าง 16:1 ถึง 24:1 ได้ ทำการทดสอบเครื่องยนต์ดัดแปลงที่ความเร็วรอบ 1000 1500 2000 2500 และ3000 รอบต่อนาที ด้วยภาระของเครื่องยนต์ 25% 50% และ 75% ของเครื่องยนต์เดิมตามลำดับ และได้เปรียบเทียบผลการทดสอบระหว่างเครื่องยนต์เดิมกับเครื่องยนต์ดัดแปลงที่อัตราส่วนการอัดเดียวกัน เพื่อศึกษาประสิทธิภาพเชิงความร้อน อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจำเพาะของแต่ละอัตราส่วนการอัด
จากการศึกษาพบว่าเมื่อเพิ่มอัตราส่วนการอัดให้สูงขึ้นประสิทธิภาพเชิงความร้อนจะเพิ่มขึ้นและมีค่าสูงสุดที่อัตราส่วนการอัด 24:1 ที่ 2500 รอบต่อนาทีมีค่า 38.7% เป็นรอบที่มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงสุดและมีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจำเพาะต่ำสุด มีค่าไนโตรเจนออกไซด์ 161 ppm การเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์เดิมกับเครื่องยนต์ดัดแปลงที่อัตราส่วนการอัด 20:1 พบว่าเครื่องยนต์ดัดแปลงมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงกว่าเครื่องยนต์เดิมที่ภาระของเครื่องยนต์ต่ำความเร็วรอบต่ำคือช่วงโหลด 25% ความเร็วรอบ 1000-2300 รอบต่อนาที ภาระของเครื่องยนต์ 50% ความเร็วรอบ 1000-1500 รอบต่อนาที หลังจากนั้นที่ภาระของเครื่องยนต์ 75% เครื่องยนต์เดิมมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ดัดแปลงทุกช่วงความเร็วรอบ เนื่องจากผลของการฉีดเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ที่มีขนาดต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปริญญานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการปรับอัตราส่วนการอัดในเครื่องยนต์ดีเซลห้องเผาไหม้แบบเปิดมีการดัดแปลงห้องเผาไหม้ที่ลูกสูบให้มีปริมาตรเล็กลงและเสริมกระบอกปรับอัตราส่วนการอัดเข้าไปที่ฝาสูบทำให้สามารถปรับอัตราส่วนการอัดระหว่าง 16:1 ถึง 24:1 ได้ 1000 1500 2000 2500 ทำการทดสอบเครื่องยนต์ดัดแปลงที่ความเร็วรอบ และ3000 รอบต่อนาทีด้วยภาระของเครื่องยนต์ 25% 50% และ 75% ของเครื่องยนต์เดิมตามลำดับและได้เปรียบเทียบผลการทดสอบระหว่างเครื่องยนต์เดิมกับเครื่องยนต์ดัดแปลงที่อัตราส่วนการอัดเดียวกันเพื่อศึกษาประสิทธิภาพเชิงความร้อนอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจำเพาะของแต่ละอัตราส่วนการอัดจากการศึกษาพบว่าเมื่อเพิ่มอัตราส่วนการอัดให้สูงขึ้นประสิทธิภาพเชิงความร้อนจะเพิ่มขึ้นและมีค่าสูงสุดที่อัตราส่วนการอัด 24:1 2500 รอบต่อนาทีมีค่า 38.7% เป็นรอบที่มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงสุดและมีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจำเพาะต่ำสุดมีค่าไนโตรเจนออกไซด์ 161 ppm การเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์เดิมกับเครื่องยนต์ดัดแปลงที่อัตราส่วนการอัดพบว่าเครื่องยนต์ดัดแปลงมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงกว่าเครื่องยนต์เดิมที่ภาระของเครื่องยนต์ต่ำความเร็วรอบต่ำคือช่วงโหลด 20:1 25% ความเร็วรอบ 1000-2300 รอบต่อนาทีภาระของเครื่องยนต์ความเร็วรอบ 50% 1000-1500 รอบต่อนาทีหลังจากนั้นที่ภาระของเครื่องยนต์ 75% เครื่องยนต์เดิมมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ดัดแปลงทุกช่วงความเร็วรอบเนื่องจากผลของการฉีดเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ที่มีขนาดต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปริญญานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการปรับอัตราส่วนการอัดในเครื่องยนต์ดีเซลห้องเผาไหม้แบบเปิดมีการดัดแปลงห้องเผาไหม้ที่ลูกสูบให้มีปริมาตรเล็กลงและเสริมกระบอกปรับอัตราส่วนการอัดเข้าไปที่ฝาสูบทำให้สามารถปรับอัตราส่วนการอัดระหว่าง 1 ถึง 24 : 1 ได คุณทำการทดสอบเครื่องยนต์ดัดแปลงที่ความเร็วรอบ 1000 1500 2000 2500 3000 รอบต่อนาทีและด้วยภาระของเครื่องยนต์ 25% 50% 75% ของเครื่องยนต์เดิมตามลำดับและได้เปรียบเทียบผลการทดสอบระหว่างเครื่องยนต์เดิมกับเครื่องยนต์ดัดแปลงที่อัตราส่วนการอัดเดียวกันเพื่อศึกษาประสิทธิภาพเชิงความร้อและ นอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจำเพาะของแต่ละอัตราส่วนการอัดจากการศึกษาพบว่าเมื่อเพิ่มอัตราส่วนการอัดให้สูงขึ้นประสิทธิภาพเชิงความร้อนจะเพิ่มขึ้นและมีค่าสูงสุดที่อัตราส่วนการอัด 24 : 1 ที่ 2500 รอบต่อนาทีมีค่า 38.7 % เป็นรอบที่มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงสุดและมีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจำเพาะต่ำสุดมีค่าไนโตรเจนออกไซด์ 16 การเปรียบเทียบระหว่างเครื่องยนต์เดิมกับเครื่องยนต์ดัดแปลงที่อัตราส่วนการอัด 1 ppm : พบว่าเครื่องยนต์ดัดแปลงมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงกว่าเครื่องยนต์เดิมที่ภาระของเครื่องยนต์ต่ำความเร็วรอบต่ำคือช่วงโหลด 25% ความเร็วรอบ 1000-2300 รอบต่อนาทีภาระของเครื่องยนต์ 50% ความเ ร็วรอบ 1000-1500 รอบต่อนาทีหลังจากนั้นที่ภาระของเครื่องยนต์ 75% เครื่องยนต์เดิมมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ดัดแปลงทุกช่วงความเร็วรอบเนื่องจากผลของการฉีดเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ที่มีขนาดต่างกัน