Several papers have reported on the

Several papers have reported on the use of supercritical carbon dioxide extraction to obtain lycopene and other carotenoids from tomato by-product at lower temperature and pressure as well as on the use of organic solvents as a modifier (Baysal et al., 2000; Rozzi et al., 2002; Sabio et al., 2003; Vagi et al., 2007; Huang et al.,
2008). Through response surface regression, Huang et al. (2008) predicted a 93% lycopene recovery using supercritical CO2 and 16% ethanol as a co-solvent. Topal et al. (2006) reported on the effects of temperature, pressure, and CO2 flow rate on extraction of lycopene from tomato peel by-product without the addition of any modifier; they did, however, use the toxic organic solvent tetrahydrofuran/ THF to rinsing the remaining lycopene in the system. It was shown
that temperature and pressure had an effect on lycopene extraction, and that the highest yield of lycopene, 85%, was obtained at 40 MPa, 100 C, and 2.5 mL/min of CO2 with the THF rinsing method. Rozzi et al. (2002) examined the effects of temperature, pressure, flow rate, and CO2 volume on extraction of lycopene from tomato peel and seed. A lycopene recovery of 61.0% was obtained at 86 C and 34.47 MPa with 500 mL of CO2 at a flow rate of 2.5 mL/min. Vasapollo et al. (2004) showed the presence of hazelnut oil worked both to improve the yield up to three times of lycopene extracted over 8 h and also to prevent degradation of lycopene during storage; however, they did not quantify stability. The maximum amount of extractable lycopene from dried tomato obtained at 45 MPa and 66 C in the presence of hazelnut oil (10%) at a flow rate of 20 kg CO2/h for extraction time more than eight hours was 60%. The use of vegetable oil as a co-matrix with the tomato matrix for supercriticalCO2 extraction of lycopene has also been reported with mixed olive oil and ethanol (Shi et al., 2009a) and hazelnuts (Ciurlia et al., 2009; Lenucci et al., 2010). Lenucci et al. (2010) reported that the addition of an oleaginous co-matrix consisting of roughly crushed hazelnutsmade it possible to recover approximately 80% of the lycopene in the oleoresin.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เอกสารหลายแห่งมีการรายงานเกี่ยวกับการใช้การสกัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ supercritical ที่จะได้รับไลโคปีนและนอยด์อื่น ๆ จากมะเขือเทศโดยผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิต่ำและความดันเช่นเดียวกับการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์เป็นส่วนขยาย (Baysal et al, 2000;. Rozzi et อัล., 2002;. Sabio et al, 2003; Vagi et al, 2007;.. Huang et al,,
2008) ผ่านการถดถอยพื้นผิวตอบสนอง Huang et al, (2008) คาดการณ์การฟื้นตัวของไลโคปีน 93% โดยใช้ CO2 supercritical และเอทานอล 16% เป็นตัวทำละลายร่วม เม็ตโทปาล, et al (2006) รายงานเกี่ยวกับผลกระทบของอุณหภูมิความดันและอัตราการไหลของก๊าซ CO2 ในการสกัดของไลโคปีนจากเปลือกมะเขือเทศโดยผลิตภัณฑ์โดยไม่มีการเติมปรับปรุงใด ๆ ; พวกเขาได้ แต่ใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ tetrahydrofuran พิษ / บ่ายคล้อยไปล้างไลโคปีนที่เหลืออยู่ในระบบ มันแสดงให้เห็นอุณหภูมิและความดันที่มีผลต่อการสกัดไลโคปีนและที่อัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุดของไลโคปีน 85% ที่ได้รับที่ 40 MPa 100 องศาเซลเซียสและ 2.5 มิลลิลิตร / นาทีของ CO2 กับวิธีการล้างบ่ายคล้อย
Rozzi et al, (2002) ตรวจสอบผลของอุณหภูมิความดันอัตราการไหลและปริมาณ CO2 ในการสกัดของไลโคปีนจากเปลือกและเมล็ดมะเขือเทศ การกู้คืนของไลโคปีน 61.0% ถูกได้ที่ 86 องศาเซลเซียสและ 34.47 MPa 500 มิลลิลิตร CO2 ในอัตราการไหล 2.5 มิลลิลิตร / นาที Vasapollo et al, (2004) แสดงให้เห็นว่าการปรากฏตัวของน้ำมันเฮเซลนัททำงานทั้งสองเพื่อเพิ่มผลผลิตได้ถึงสามครั้งของไลโคปีนที่สกัดได้กว่า 8 ชั่วโมงและยังเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของไลโคปีนในระหว่างการเก็บรักษา แต่พวกเขาไม่ได้วัดปริมาณความมั่นคง จำนวนเงินสูงสุดของไลโคปีนที่สกัดจากมะเขือเทศอบแห้งได้ที่ 45 เมกะปาสคาลและ 66 องศาเซลเซียสในการปรากฏตัวของน้ำมันเฮเซลนัท (10%) ในอัตราการไหลของก๊าซ CO2 20 กิโลกรัม / ชั่วโมงเวลาสกัดมากกว่าแปดชั่วโมงเป็น 60% การใช้น้ำมันพืชเป็นผู้ร่วมเมทริกซ์กับเมทริกซ์มะเขือเทศสำหรับการสกัด supercriticalCO2 ของไลโคปีนยังได้รับรายงานด้วยน้ำมันมะกอกผสมเอทานอลและเฮเซลนัท (Ciurlia et al, 2009 (ชิ, et al, 2009a.). Lenucci et al, ., 2010) Lenucci et al, (2010) รายงานว่านอกเหนือจากน้ำมันร่วมเมทริกซ์ประกอบด้วย hazelnutsmade บดประมาณมันเป็นไปได้ที่จะกู้คืนโดยประมาณ 80% ของไลโคปีนใน oleoresin

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอกสารต่าง ๆได้รายงานเกี่ยวกับการใช้ของการสกัดโดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดที่จะได้รับไลโคปีนจากมะเขือเทศและ carotenoids อื่น ๆและในอุณหภูมิและความดัน ตลอดจนการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์เป็นส่วนขยาย ( baysal et al . , 2000 ; rozzi et al . , 2002 ; ซาเบียว et al . , 2003 ; Vagi et al . , 2007 ; Huang et al . ,
2008 ) ผ่านการตอบสนองที่พื้นผิว , Huang et al .( 2008 ) คาดการณ์ 93% การกู้คืนโดยใช้ supercritical CO2 Lycopene และเอทานอลร้อยละ 16 ร่วมในฐานะตัวทําละลาย topal et al . ( 2006 ) รายงานผลของอุณหภูมิ ความดัน และอัตราการไหลของ CO2 ในการสกัดไลโคปีนจากมะเขือเทศและเปลือกโดยไม่เพิ่มใด ๆที่ พวกเขาได้ แต่การใช้พิษตัวทำละลายอินทรีย์เตตระไฮโดรฟแรน / เตตระไฮโดรฟูแรน เพื่อทําความสะอาดไลโคปีนที่เหลือในระบบพบ
ที่อุณหภูมิและความดันที่มีผลต่อการสกัดไลโคปีน และ ผลผลิตของไลโคปีน 85 % ได้ 40 MPa , 100  C และ 2.5 มล. / นาทีของ CO2 กับเตตระไฮโดรฟูแรน ล้างวิธี rozzi et al . ( 2002 ) ศึกษาผลของอุณหภูมิ ความดัน อัตราการไหลและปริมาณ CO2 ในการสกัดไลโคปีนจากมะเขือเทศ เปลือก และเมล็ด มีไลโคปีนการฟื้นตัวของ 610 % ได้ 86  C และ 34.47 MPA 500 ml ของ CO2 ที่อัตราการไหล 2 มล. / นาที vasapollo et al . ( 2004 ) พบการปรากฏตัวของน้ำมันเฮเซลนัททำงานทั้งคู่เพื่อเพิ่มผลผลิตได้ถึงสามครั้งของไลโคปีนสกัดกว่า 8 ชั่วโมง และเพื่อป้องกันการย่อยสลายของไลโคปีนในช่วงกระเป๋า อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ที่มีเสถียรภาพจำนวนเงินสูงสุดของปริมาณไลโคปีนจากมะเขือเทศอบแห้งที่อุณหภูมิ 45 MPa และ 66  C ในการปรากฏตัวของน้ำมันฮาเซลนัท ( 10% ) ในอัตรา 20 กิโลกรัม / ชั่วโมง สำหรับเวลาที่ใช้ CO2 มากกว่าแปดชั่วโมง 60 % การใช้น้ำมันพืชเป็นเมทริกซ์เมทริกซ์ Co กับมะเขือเทศ supercriticalco2 การสกัดไลโคปีนยังได้รับรายงานว่า มีน้ำมันผสมเอธานอลและมะกอก ( ซือ et al . ,2009a ) และเฮเซลนัท ( ciurlia et al . , 2009 ; lenucci et al . , 2010 ) lenucci et al . ( 2553 ) รายงานว่า นอกจากของที่ผสมด้วยน้ำมัน Co เมทริกซ์ประกอบด้วยประมาณบด hazelnutsmade มันเป็นไปได้ที่จะกู้คืนประมาณ 80% ของไลโคปีนในโอลีโอเรซิน .