Essential oils and extracts belongi

Essential oils and extracts belonging to plants in the citronella genus (Poaceae) are commonly used as ingredients of plant-based mosquito repellents (Table ​(Table1),1), mainly Cymbopogon nardus that is sold in Europe and North America in commercial preparations. Citronella has found its way into many commercial preparations through its familiarity, rather than its efficacy. Citronella was originally extracted for use in perfumery, and its name derives from the French citronelle around 1858 [28]. It was used by the Indian Army to repel mosquitoes at the beginning of the 20th century [29] and was then registered for commercial use in the USA in 1948 [30]. Today, citronella is one of the most widely used natural repellents on the market, used at concentrations of 5-10%. This is lower than most other commercial repellents but higher concentrations can cause skin sensitivity. However, there are relatively few studies that have been carried out to determine the efficacy of essential oils from citronella as arthropod repellents. Citronella-based repellents only protect from host-seeking mosquitoes for about two hours although formulation of the repellent is very important [31,32]. Initially, citronella, which contains citronellal, citronellol, geraniol, citral, α pinene, and limonene, is as effective dose for dose as DEET [33], but the oils rapidly evaporate causing loss of efficacy and leaving the user unprotected. However, by mixing the essential oil of Cymbopogon winterianus with a large molecule like vanillin (5%) protection time can be considerable prolonged by reducing the release rate of the volatile oil [34]. Recently, the use of nanotechnology has allowed slower release rates of oils to be achieved, thus prolonging protection time [35]. Encapsulated citronella oil nanoemulsion is prepared by high-pressure homogenization of 2.5% surfactant and 100% glycerol, to create stable droplets that increase the retention of the oil and slow down release. The release rate relates well to the protection time so that a decrease in release rate can prolong mosquito protection time [35]. Another means of prolonging the effect of natural repellents is microencapsulation using gelatin-arabic gum microcapsules, which maintained the repellency of citronella up to 30 days on treated fabric stored at room temperature (22°C) [36]. The use of these technologies to enhance the performance of natural repellents may revolutionize the repellent market and make plant oils a more viable option for use in long-lasting repellents. However, for the time-being travellers to disease endemic areas should not be recommended citronella-based repellents [32]. In contrast, for those communities where more efficacious alternatives are not available, or are prohibitively expensive, the use of citronella to prevent mosquito bites may provide important protection from disease vectors [17].

The second way to use volatile plant repellents is to continuously evaporate them. Citronella and geraniol candles are widely sold as outdoor repellents, however field studies against mixed populations of nuisance mosquitoes show reductions in biting around 50%, although they do not provide significant protection against mosquito bites [37-39].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดที่อยู่ในตะไคร้หอม (หญ้า) นิยมใช้เป็นส่วนผสมของไล่ยุงจากพืช (ตาราง (Table1), 1), ส่วนใหญ่ตะไคร้ nardus พาณิชย์เตรียมขายในยุโรปและอเมริกาเหนือ ตะไคร้หอมมีหาทางในการเตรียมการพาณิชย์มากมายผ่านความคุ้นเคยของ มากกว่าประสิทธิภาพของ ตะไคร้หอมถูกแยกเดิมสำหรับใช้ในน้ำหอม และชื่อมาจาก citronelle ฝรั่งเศสประมาณ 1858 [28] มันถูกใช้ โดยกองทัพอินเดียเพื่อขับไล่ยุงที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 [29] และจากนั้นลงทะเบียนสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาในปี 1948 [30] วันนี้ ตะไคร้เป็นหนึ่งไล่ตามธรรมชาติใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาด ใช้ในความเข้มข้น 5-10% จะต่ำกว่าคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไล่พาณิชย์ แต่ความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดอาการ อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาค่อนข้างน้อยซึ่งการดำเนินการตรวจสอบประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้หอมเป็นคนไล่สัตว์ขาปล่อง ตะไคร้หอมใช้ไล่เท่าป้องกันยุงหาโฮสต์สองชั่วโมงแม้ว่าสูตรของยุงจะสำคัญมาก [31,32] ในขั้นต้น ตะไคร้หอม ซึ่งประกอบด้วย citronellal, citronellol แอฟริกาใต้ citral α pinene และ limonene เป็นเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับปริมาณ DEET [33], แต่น้ำมันระเหยอย่างรวดเร็วทำให้สูญเสียประสิทธิภาพและออกจากผู้ใช้ที่ไม่มีป้องกัน อย่างไรก็ตาม โดยการผสมน้ำมันหอมระเหยของ winterianus ตะไคร้กับโมเลกุลขนาดใหญ่เช่นวานิลลิน (5%) เวลาป้องกันได้อย่างมากเป็นเวลานาน โดยการลดอัตราการปลดปล่อยน้ำมันหอมระเหย [34] เมื่อเร็ว ๆ นี้ การใช้นาโนเทคโนโลยีได้อนุญาตช้าปล่อยราคาน้ำมันจะทำได้ จึง ยืดเวลาการป้องกัน [35] Nanoemulsion น้ำมันตะไคร้หอมสรุปทาง homogenization แรงดันสูงของ 2.5% ชุดและ 100% กลีเซอรอล การสร้างหยดมีเสถียรภาพที่เพิ่มการกักเก็บน้ำมัน และชะลอการปล่อย อัตราการปลดปล่อยที่เกี่ยวข้องกับเวลาการป้องกันดีดังนั้นการลดลงของอัตราแลกสามารถยืดเวลาการป้องกันยุง [35] เป็นอีกวิธีการยืดผลของธรรมชาติไล่ microencapsulation ใช้เจลาติน-อาหรับเหงือก microcapsules ซึ่งรักษา repellency ของตะไคร้หอม 30 วันบนผ้ารักษาเก็บที่อุณหภูมิห้อง (22° C) [36] การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของธรรมชาติไล่อาจปฏิวัติตลาดยา และทำให้น้ำมันพืชครับเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานในยาวนานไล่ อย่างไรก็ตาม การเดินทางนั้นเป็นโรค พื้นที่ถิ่นควรไม่ถูกแนะนำตะไคร้หอมใช้ไล่ [32] ตรงกันข้าม ที่ชุมชนที่ครบวงจรมากขึ้นทางเลือกไม่มี หรือพิมพ์แพง การใช้ตะไคร้หอมป้องกันยุงกัดอาจให้การป้องกันที่สำคัญจากโรคเวกเตอร์ [17]วิธีที่สองใช้คนไล่สารระเหยพืชจะระเหยไปอย่างต่อเนื่อง เทียนตะไคร้หอมและแอฟริกาใต้มีจำหน่ายอย่างกว้างขวางเป็นคนไล่กลางแจ้ง เขตการศึกษากับประชากรผสมของลดดูยุงรำคาญในกัดประมาณ 50% อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาไม่ให้สำคัญการป้องกันยุงกัด [37-39]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดจากพืชที่อยู่ในจำพวกตะไคร้หอม (หญ้า) เป็นที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมของพืชที่ใช้ไล่ยุง (ตาราง (ตารางที่ 1) 1) ส่วนใหญ่ตะไคร้หอมที่มีขายในยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือในการเตรียมการในเชิงพาณิชย์ ตะไคร้หอมได้พบทางเข้าไปในการเตรียมการเชิงพาณิชย์จำนวนมากผ่านความคุ้นเคยของมันมากกว่ารู้ความสามารถของตน ตะไคร้หอมถูกสกัดมาเพื่อใช้ในน้ำหอมและชื่อของมันมาจาก Citronelle ฝรั่งเศสรอบ 1858 [28] มันถูกใช้โดยกองทัพอินเดียเพื่อขับไล่ยุงที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 [29] และได้รับการจดทะเบียนแล้วสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1948 [30] วันนี้ตะไคร้หอมเป็นหนึ่งในผู้ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดไล่ตามธรรมชาติในตลาดที่ใช้ที่ความเข้มข้น 5-10% นี้เป็นราคาที่ต่ำกว่ามากไล่เชิงพาณิชย์อื่น ๆ ที่สูงขึ้น แต่ความเข้มข้นสามารถทำให้เกิดความไวของผิวหนัง แต่มีการศึกษาค่อนข้างน้อยที่ได้รับการดำเนินการเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้หอมไล่แมลงเป็น ไล่ตามตะไคร้หอมเพียง แต่ปกป้องจากยุงโฮสต์ที่กำลังมองหาประมาณสองชั่วโมงถึงแม้ว่าการกำหนดขับไล่เป็นสิ่งสำคัญมาก [31,32] ในขั้นต้นตะไคร้หอมซึ่งมี citronellal, citronellol, geraniol, citral, pinene αและ limonene เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับยาที่เป็นสาร DEET [33] แต่น้ำมันหอมระเหยอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดการสูญเสียการรับรู้ความสามารถและออกจากผู้ใช้ที่ไม่มีการป้องกัน แต่ด้วยการผสมน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ winterianus ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่เช่นวานิลลิน (5%) เวลาคุ้มครองได้มากเป็นเวลานานโดยการลดอัตราการปลดปล่อยของน้ำมันระเหย [34] เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช้นาโนเทคโนโลยีได้รับอนุญาตให้ปล่อยอัตราที่ช้าลงของน้ำมันที่จะประสบความสำเร็จจึงยืดเวลาการป้องกัน [35] ห่อหุ้ม nanoemulsion น้ำมันตะไคร้หอมมีการจัดทำขึ้นโดยเป็นเนื้อเดียวกันแรงดันสูงของแรงตึงผิวที่ 2.5% และกลีเซอรอล 100% เพื่อสร้างหยดมั่นคงที่เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาของน้ำมันและชะลอการเปิดตัว อัตราการปลดปล่อยเกี่ยวข้องเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันเวลาเพื่อให้การลดลงของอัตราการปลดปล่อยสามารถยืดเวลาการป้องกันยุง [35] วิธีการยืดอายุผลของการไล่ตามธรรมชาติก็คือไมโครใช้เจลาตินแคปซูลอาหรับเหงือกซึ่งการบำรุงรักษา repellency ของตะไคร้หอมขึ้นถึง 30 วันบนผ้าได้รับการรักษาที่เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง (22 ° C) [36] การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของไล่ตามธรรมชาติอาจปฏิวัติตลาดขับไล่และทำให้น้ำมันพืชเป็นตัวเลือกที่ทำงานได้มากขึ้นเพื่อใช้ในการไล่ยาวนาน แต่สำหรับเวลาเดินทางเป็นอยู่ไปยังพื้นที่ถิ่นโรคไม่ควรได้รับการแนะนำไล่ตะไคร้หอมตาม [32] ในทางตรงกันข้ามสำหรับชุมชนเหล่านั้นที่ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะไม่สามารถใช้ได้หรือมีราคาแพงการใช้ตะไคร้หอมเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัดอาจให้การป้องกันที่สำคัญจากพาหะนำโรค [17].

วิธีที่สองเพื่อใช้ไล่พืชระเหยจะระเหยอย่างต่อเนื่อง พวกเขา ตะไคร้หอมและ geraniol เทียนจะขายอย่างกว้างขวางว่าเป็นไล่กลางแจ้ง แต่การศึกษาภาคสนามกับประชากรผสมของยุงรำคาญแสดงการลดลงของการกัดประมาณ 50% แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ให้ความคุ้มครองอย่างมีนัยสำคัญกับการถูกยุงกัด [37-39]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดของพืชในจีนัสตะไคร้หอม ( Poaceae ) มักใช้เป็นส่วนผสมของยากันยุงจากพืช ( ตาราง​ ( table1 ) , 1 ) ส่วนใหญ่ตะไคร้ nardus ที่ขายในยุโรปและอเมริกาเหนือ ในการเตรียมการเชิงพาณิชย์ ตะไคร้หอมพบหนทางเข้าสู่การเตรียมการค้ามากถึงความคุ้นเคยมากกว่าเรี่ยวแรง ตะไคร้หอม แต่เดิมที่ใช้ในการผลิตเครื่องหอม และชื่อของมันมาจากฝรั่งเศส citronelle รอบ 1858 [ 28 ] มันถูกใช้โดยกองทัพอินเดียเพื่อขับไล่ยุงที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 [ 29 ] และจากนั้นลงทะเบียนสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาในปี 1948 [ 30 ] วันนี้ ตะไคร้หอมเป็นหนึ่งในที่สุดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายธรรมชาติไล่ในตลาด ใช้ที่ความเข้มข้นประมาณ 5-10 % นี้คือต่ำกว่ามากที่สุดไล่พาณิชย์อื่น แต่ความเข้มข้นสูงสามารถทำให้ความไวของผิว อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาค่อนข้างน้อย ที่ได้ทำการศึกษาประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้หอมเป็นสัตว์ขาปล้องไล่ ตะไคร้หอมใช้ไล่ยุง ป้องกันการโฮสต์เพียงประมาณสองชั่วโมงถึงแม้ว่าการขับไล่สำคัญมาก [ 31,32 ] ตอนแรก ตะไคร้หอม ซึ่งประกอบด้วยสารซิโตรเนลลัลซิโตรเนลเจอรานิออล , , , , αโดไลโมนีน , และ , มีประสิทธิภาพ dose ขนาดยาตาม DEET [ 33 ] , แต่น้ำมันการระเหยอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดการสูญเสียประสิทธิภาพจากผู้ใช้ที่ไม่มีการป้องกัน อย่างไรก็ตาม จากการผสมน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้ winterianus ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่เช่นวานิลลิน ( 5% ) เวลาป้องกันได้โดยการลดอัตราการปล่อยยืดเยื้อมากของน้ำมันระเหย [ 34 ] เมื่อเร็วๆ นี้ การใช้นาโนเทคโนโลยี ทำให้ช้าลงอัตราการปล่อยน้ำมันให้ประสบผลสำเร็จ ดังนั้น เพื่อป้องกันเวลา [ 35 ] ห่อหุ้มตะไคร้หอมน้ำมันนาโนอิมัลชั่นจะเตรียมไว้ โดยการใช้ความดันสูง 2.5 % และ 100 % กลีเซอรอลเพื่อสร้างเสถียรภาพหยดเพิ่มความคงทนของน้ำมัน และลดการปล่อย อัตราการปลดปล่อยเกี่ยวข้องกันเพื่อป้องกันเวลาที่ลดลงในอัตราการปล่อยสามารถยืดอายุเวลาป้องกันยุง [ 35 ] วิธีการหนึ่งที่ยื้อผลไล่ตามธรรมชาติโดยใช้เจลาตินภาษาอาหรับหมากฝรั่งไมโครแคปซูลซึ่งยังคงมีการสะท้อนของตะไคร้หอมถึง 30 วัน บนผ้า ถือว่าเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ( 25 องศา C ) [ 36 ] การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของไล่ตามธรรมชาติอาจปฏิวัติตลาดขับไล่และให้น้ำมันพืชเป็นตัวเลือกที่ทำงานได้สำหรับใช้ในยืนไล่ อย่างไรก็ตาม เวลานี้นักเดินทางโรคระบาดพื้นที่ไม่ควรแนะนำให้ใช้ตะไคร้หอมไล่ [ 32 ] ในทางตรงกันข้าม สำหรับชุมชนที่เลือกใหม่ไม่ได้ หรือแพง การใช้ตะไคร้หอมป้องกันยุงกัดอาจให้การป้องกันที่สำคัญจากพาหะนำโรค [ 17 ]วิธีที่ 2 ให้ใช้ไล่พืชระเหยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ระเหยได้ และเทียนตะไคร้หอมเจอรานิออลจะขายกันอย่างแพร่หลายเป็นไล่สระ แต่ศึกษาจากประชากรผสมของรำคาญยุงกัดให้ลดลงประมาณ 50% , แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ให้การป้องกันที่สำคัญจากยุงกัด [ 37-39 ]