สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์พระอ การแปล - สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์พระอ ไทย วิธีการพูด

สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์

สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์พระองค์ที่ ๕ และเป็นพระองค์สุดท้าย ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระมหาวีรกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้าง และเป็นที่รู้จักในนามพระมหากษัตริย์ผู้พยายามกู้เอกราชชาติลาวจากการเป็นประเทศราชของประเทศสยาม จากเอกสารเพ็ชรพื้นเมืองเวียงจันทน์กล่าวว่า ญวณได้แต่งตั้งให้เจ้าราชวงษ์เป็นเจ้าองค์ครองนครเวียงจันทน์ต่อจากพระองค์ พร้อมทั้งมอบราชธิดาพระเจ้ากรุงญวณให้เป็นพระมหาเทวีแด่เจ้าราชวงษ์ด้วย ดังนั้นพระองค์จึงไม่ใช่กษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งนครเวียงจันทน์ นักประวัติศาสตร์ลาวและไทยนิยมออกพระนามพระองค์ว่า พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๓ แต่นักประวัติศาสตร์บางคนตรวจสอบพระนามจากจารึกต่าง ๆ แล้วได้นับพระองค์เป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๕ เนื่องจากพระเจ้าสิริบุญสาร ผู้เป็นพระราชบิดา และเจ้าอินทวงศ์ผู้เป็นพระเชษฐาได้ออกพระนามของพระองค์ว่า พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ด้วยเช่นกัน จึงนับเป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๓ และที่ ๔ ตามลำดับ สมเด็จเจ้าอนุวงศ์หรือเจ้าอนุรุธราช เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๓ ของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร (เจ้าองค์บุญ) หรือสมเด็จพระเจ้าไชยเสฏฐาธิราชที่ ๓ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ลำดับที่ ๔ และพระมหากษัตริย์เอกราชแห่งนครเวียงจันทน์พระองค์สุดท้ายก่อนการยกทัพขึ้นไปตีของเจ้าพระยาจักรีในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าตากสิน กับพระอัครมเหษีฝ่ายขวา เจ้าอนุวงศ์ทรงได้รับการเฉลิมพระนามเต็มในจารึกประวัติศาสตร์ว่า "สมเด็จบรมบพิตรพระมหาขัติยธิเบศไชยเชษฐา ชาติสุริยวงศ์องค์เอกอัครธิบดินทรบรมมหาธิปติราชาธิราช มหาจักรพรรดิ์ภูมินทรมหาธิปตนสากลไตรภูวนาถ ชาติพะโตวิสุทธิมกุตสาพาราทิปุลอตุลยโพธิสัตว์ขัติย พุทธัง กุโลตรนมหาโสพัสสันโต คัดชลักขรัตถ ราชบุรีสีทัมมาธิราช บรมนาถบรมบพิตร" จากการสถาปนาพระนามนี้สื่อให้เห็นว่า นครเวียงจันทน์มีเจ้าผู้ปกครองแผ่นดินในฐานะพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงเอกราชมากกว่าที่จะอยู่ในฐานะเมืองขึ้นหรือเมืองส่วยอย่างที่หลายคนเข้าใจ การเฉลิมพระนามต่างๆ ของพระองค์ตามที่ปรากฏในจารึกต่างๆ นั้นพอประมวลได้คือ พระมหาธรรมิกสีหตบูรราชาธิราช, พระศรีหะตะนุ, พระมหาขัติยธิเบศไชยเชษฐา, พระราชเชษฐา, พระโพธิสาลราชาธิราชเจ้าจักรพรรดิธรรมิกราชาธิราช, พระไชยเชษฐาธิราชชาติสุริยวงศ์องค์อัครธิบดินทร์, พระภูมินทราธิปัติธรรมิกราชาธิราช, พระมหาธรรมิกราชไชยมหาจักรพรรดิ์ เป็นต้น[2]

เจ้าอนุวงศ์มีพระยศเป็นเจ้าฟ้าชั้นเอกโดยกำเนิด และมีลำดับศักดิ์ในการสืบราชสันตติวงศ์ตามระบบเจ้ายั้งขะหม่อมทั้ง ๔ ของลาวเป็นลำดับที่ ๓ ลำดับพระยศของพระองค์ต่างจากรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงเทพพระมหานคร ซึ่งมีพระยศเป็นพระองค์เจ้าโดยกำเนิด ความสัมพันธ์ของพระองค์กับรัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ เป็นไปอย่างสนิทแนบแน่นและเป็นความสัมพันธ์ในเชิงเครือญาติเสมอสถานะของสมเด็จพระนเรศวรเมื่อครั้งประทับในกรุงหงสาวดี ในเอกสารฝ่ายสยามนั้น พระองค์ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะพระเจ้าแผ่นดินประเทศราชผู้ก่อการขบถต่อแผ่นดินแห่งข้าขอบขัณฑเสมาสยาม [3] ในประชุมพงศาวดารของไทยดูหมิ่นพระเกียรติยศของพระองค์ด้วยการออกนามของพระองค์ว่า "อ้ายอนุ" ส่วนเอกสารฝ่ายลาวและอีสานนั้น พระองค์ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะสมเด็จพระมหากษัตริย์มหาราชผู้พยายามปลดแอกชนชาติลาวสู่เอกราช ผู้ประกอบมหคุณูปการด้านการปกครองแก่ประเทศลาวและแผ่นดินภาคอีสานของสยาม[4] ผู้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในแผ่นดินลาวและอีสาน ทรงเป็นพระหน่อพุทธเจ้า เป็นพระมหากษัตริย์ผู้เปี่ยมด้วยพระราชอำนาจพระราชบารมีอันเป็นที่ครั่นคร้ามและเป็นที่นิยมนับถือต่อบรรดาเจ้านายหัวเมืองลาวต่างๆ ทรงเป็นใหญ่เหนือแผ่นดินลาวใต้อย่างนครจำปาสักและอัตตะปือ ทรงเป็นใหญ่เหนืออีสานกลางอย่างร้อยเอ็ด สุวรรณภูมิ กาฬสินธุ์ ทรงเป็นใหญ่เหนือลาวลุ่มน้ำโขงอย่างนครพนมและมุกดาหาร ทรงเป็นใหญ่เหนือลาวตอนกลางอย่างเมืองวัง ตะโปน ชุมพร และกะปอง และทรงเป็นใหญ่เหนือลาวเหนืออย่างเชียงขวางและหัวเมืองพวน ความสัมพันธ์ของพระองค์กับเจ้าเมืองเหล่านี้เป็นไปในเชิงเครือญาติ ในสมัยของพระองค์ทรงมีเมืองขึ้นจำนวนมากกว่าร้อยหัวเมือง จนเกินกว่าที่จะเรียกนครเวียงจันทน์ว่าเป็นเมืองประเทศราช นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าเกรงขามต่อหัวเมืองลาวประเทศราชสยามอย่างนครหลวงพระบาง อุบลราชธานี เขมราฐธานี และหัวเมืองชั้นเอกอย่างนครราชสีมา และพระราชบารมียังเป็นที่ครั่นคร้ามเข้าไปจนถึงหัวเมืองลาวชั้นในของภาคกลางอย่างเมืองสระบุรีด้วยเช่นกัน

หลังเหตุการณ์เผานครเวียงจันทน์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของการปกครองหัวเมืองลาว และหลังความพยายามทำลายราชวงศ์เวียงจันทน์ให้สิ้นซากของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) ของสยามนั้น ได้ก่อให้เกิดเหตุการณ์กบฏหัวเมืองลาวอีสานตามมาอีกหลายครั้งสืบเนื่องมาจนปัจจุบัน บ่อยครั้งชาวลาวและชาวอีสานต่างก็นิยมอ้างถึงเหตุการณ์เผาเวียงจันทน์ในอดีต มาเป็นเหตุผลในการต่อสู้กับอำนาจสยามและอำนาจรัฐ เรื่องราวของเจ้าอนุวงศ์ไม่เพียงแต่เป็นฉนวนเหตุความขัดแย้งของประชาชนชาวลาวกับชาวไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นฉนวนเหตุให้ชาวไทยอีสานขัดแย้งกับชาวไทยสยาม เป็นฉนวนเหตุให้ชาวอีสานที่นิยมสยามกับชาวอีสานที่นิยมลาวขัดแย้งกันเอง และเป็นฉนวนเหตุให้เกิดการปลุกระดมการแบ่งแยกดินแดนของชาวไทยอีสาน [5] ไม่เพียงเท่านี้ เหตุการณ์เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยังสามารถถือเป็นทั้งจุดเปราะบางและจุดแตกหักของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศลาวและประเทศไทยอีกด้วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์พระองค์ที่ ๕ และเป็นพระองค์สุดท้ายได้รับการยกย่องว่าเป็นพระมหาวีรกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้างและเป็นที่รู้จักในนามพระมหากษัตริย์ผู้พยายามกู้เอกราชชาติลาวจากการเป็นประเทศราชของประเทศสยามจากเอกสารเพ็ชรพื้นเมืองเวียงจันทน์กล่าวว่าญวณได้แต่งตั้งให้เจ้าราชวงษ์เป็นเจ้าองค์ครองนครเวียงจันทน์ต่อจากพระองค์พร้อมทั้งมอบราชธิดาพระเจ้ากรุงญวณให้เป็นพระมหาเทวีแด่เจ้าราชวงษ์ด้วยดังนั้นพระองค์จึงไม่ใช่กษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งนครเวียงจันทน์นักประวัติศาสตร์ลาวและไทยนิยมออกพระนามพระองค์ว่าพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๓ แต่นักประวัติศาสตร์บางคนตรวจสอบพระนามจากจารึกต่างๆ แล้วได้นับพระองค์เป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๕ เนื่องจากพระเจ้าสิริบุญสารผู้เป็นพระราชบิดาและเจ้าอินทวงศ์ผู้เป็นพระเชษฐาได้ออกพระนามของพระองค์ว่าพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชด้วยเช่นกันจึงนับเป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๓ และที่ ๔ ตามลำดับสมเด็จเจ้าอนุวงศ์หรือเจ้าอนุรุธราชเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๓ ของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร (เจ้าองค์บุญ) หรือสมเด็จพระเจ้าไชยเสฏฐาธิราชที่ ๓ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ลำดับที่ ๔ และพระมหากษัตริย์เอกราชแห่งนครเวียงจันทน์พระองค์สุดท้ายก่อนการยกทัพขึ้นไปตีของเจ้าพระยาจักรีในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าตากสินกับพระอัครมเหษีฝ่ายขวาเจ้าอนุวงศ์ทรงได้รับการเฉลิมพระนามเต็มในจารึกประวัติศาสตร์ว่า "สมเด็จบรมบพิตรพระมหาขัติยธิเบศไชยเชษฐาชาติสุริยวงศ์องค์เอกอัครธิบดินทรบรมมหาธิปติราชาธิราชมหาจักรพรรดิ์ภูมินทรมหาธิปตนสากลไตรภูวนาถชาติพะโตวิสุทธิมกุตสาพาราทิปุลอตุลยโพธิสัตว์ขัติยพุทธังกุโลตรนมหาโสพัสสันโตคัดชลักขรัตถราชบุรีสีทัมมาธิราชบรมนาถบรมบพิตร"จากการสถาปนาพระนามนี้สื่อให้เห็นว่านครเวียงจันทน์มีเจ้าผู้ปกครองแผ่นดินในฐานะพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงเอกราชมากกว่าที่จะอยู่ในฐานะเมืองขึ้นหรือเมืองส่วยอย่างที่หลายคนเข้าใจการเฉลิมพระนามต่าง ๆ ของพระองค์ตามที่ปรากฏในจารึกต่าง ๆ นั้นพอประมวลได้คือพระมหาธรรมิกสีหตบูรราชาธิราช พระศรีหะตะนุ พระมหาขัติยธิเบศไชยเชษฐา พระราชเชษฐา พระโพธิสาลราชาธิราชเจ้าจักรพรรดิธรรมิกราชาธิราช พระไชยเชษฐาธิราชชาติสุริยวงศ์องค์อัครธิบดินทร์ พระภูมินทราธิปัติธรรมิกราชาธิราช พระมหาธรรมิกราชไชยมหาจักรพรรดิ์เป็นต้น [2]เจ้าอนุวงศ์มีพระยศเป็นเจ้าฟ้าชั้นเอกโดยกำเนิดและมีลำดับศักดิ์ในการสืบราชสันตติวงศ์ตามระบบเจ้ายั้งขะหม่อมทั้ง ๔ ของลาวเป็นลำดับที่ ๓ ลำดับพระยศของพระองค์ต่างจากรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงเทพพระมหานครซึ่งมีพระยศเป็นพระองค์เจ้าโดยกำเนิดความสัมพันธ์ของพระองค์กับรัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ เป็นไปอย่างสนิทแนบแน่นและเป็นความสัมพันธ์ในเชิงเครือญาติเสมอสถานะของสมเด็จพระนเรศวรเมื่อครั้งประทับในกรุงหงสาวดีในเอกสารฝ่ายสยามนั้นพระองค์ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะพระเจ้าแผ่นดินประเทศราชผู้ก่อการขบถต่อแผ่นดินแห่งข้าขอบขัณฑเสมาสยาม [3] ในประชุมพงศาวดารของไทยดูหมิ่นพระเกียรติยศของพระองค์ด้วยการออกนามของพระองค์ว่า "อ้ายอนุ" ส่วนเอกสารฝ่ายลาวและอีสานนั้นพระองค์ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะสมเด็จพระมหากษัตริย์มหาราชผู้พยายามปลดแอกชนชาติลาวสู่เอกราชผู้ประกอบมหคุณูปการด้านการปกครองแก่ประเทศลาวและแผ่นดินภาคอีสานของสยาม [4] ผู้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในแผ่นดินลาวและอีสานทรงเป็นพระหน่อพุทธเจ้าเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เปี่ยมด้วยพระราชอำนาจพระราชบารมีอันเป็นที่ครั่นคร้ามและเป็นที่นิยมนับถือต่อบรรดาเจ้านายหัวเมืองลาวต่าง ๆ ทรงเป็นใหญ่เหนือแผ่นดินลาวใต้อย่างนครจำปาสักและอัตตะปือทรงเป็นใหญ่เหนืออีสานกลางอย่างร้อยเอ็ดสุวรรณภูมิกาฬสินธุ์ทรงเป็นใหญ่เหนือลาวลุ่มน้ำโขงอย่างนครพนมและมุกดาหารทรงเป็นใหญ่เหนือลาวตอนกลางอย่างเมืองวังตะโปนชุมพรและกะปองและทรงเป็นใหญ่เหนือลาวเหนืออย่างเชียงขวางและหัวเมืองพวนความสัมพันธ์ของพระองค์กับเจ้าเมืองเหล่านี้เป็นไปในเชิงเครือญาติในสมัยของพระองค์ทรงมีเมืองขึ้นจำนวนมากกว่าร้อยหัวเมืองจนเกินกว่าที่จะเรียกนครเวียงจันทน์ว่าเป็นเมืองประเทศราชนอกจากนี้ยังเป็นที่น่าเกรงขามต่อหัวเมืองลาวประเทศราชสยามอย่างนครหลวงพระบางอุบลราชธานีเขมราฐธานีและหัวเมืองชั้นเอกอย่างนครราชสีมาและพระราชบารมียังเป็นที่ครั่นคร้ามเข้าไปจนถึงหัวเมืองลาวชั้นในของภาคกลางอย่างเมืองสระบุรีด้วยเช่นกันหลังเหตุการณ์เผานครเวียงจันทน์ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของการปกครองหัวเมืองลาวและหลังความพยายามทำลายราชวงศ์เวียงจันทน์ให้สิ้นซากของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) ของสยามนั้นได้ก่อให้เกิดเหตุการณ์กบฏหัวเมืองลาวอีสานตามมาอีกหลายครั้งสืบเนื่องมาจนปัจจุบันบ่อยครั้งชาวลาวและชาวอีสานต่างก็นิยมอ้างถึงเหตุการณ์เผาเวียงจันทน์ในอดีตมาเป็นเหตุผลในการต่อสู้กับอำนาจสยามและอำนาจรัฐเรื่องราวของเจ้าอนุวงศ์ไม่เพียงแต่เป็นฉนวนเหตุความขัดแย้งของประชาชนชาวลาวกับชาวไทยเท่านั้นแต่ยังเป็นฉนวนเหตุให้ชาวไทยอีสานขัดแย้งกับชาวไทยสยามเป็นฉนวนเหตุให้ชาวอีสานที่นิยมสยามกับชาวอีสานที่นิยมลาวขัดแย้งกันเองและเป็นฉนวนเหตุให้เกิดการปลุกระดมการแบ่งแยกดินแดนของชาวไทยอีสาน [5] ไม่เพียงเท่านี้เหตุการณ์เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยังสามารถถือเป็นทั้งจุดเปราะบางและจุดแตกหักของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศลาวและประเทศไทยอีกด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์ 5 และเป็นพระองค์สุดท้าย พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 3 ๆ 5 เนื่องจากพระเจ้าสิริบุญสารผู้เป็นพระราชบิดา พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชด้วยเช่นกันจึงนับเป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 3 และที่ 4 ตามลำดับ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร (เจ้าองค์บุญ) หรือสมเด็จพระเจ้าไชยเสฏฐาธิราชที่ 3 4 กับพระอัครมเหษีฝ่ายขวา พุทธังกุโลตรนมหาโสพัสสันโตคัดชลักขรัตถราชบุรีสีทัมมาธิราชบรมนาถบรมบพิตร " การเฉลิมพระนามต่างๆของพระองค์ตามที่ปรากฏในจารึกต่างๆนั้นพอประมวลได้คือพระมหาธรรมิกสีหตบูรราชาธิราช, พระศรีหะตะนุ, พระมหาขัติยธิเบศไชยเชษฐา, พระราชเชษฐา, พระภูมินทราธิปัติธรรมิกราชาธิราช, พระมหาธรรมิกราชไชยมหาจักรพรรดิ์ 4 ของลาวเป็นลำดับที่ 3 3 แห่งกรุงเทพพระมหานคร 1 และรัชกาลที่ 2 ในเอกสารฝ่ายสยามนั้น [3] "อ้ายอนุ" ส่วนเอกสารฝ่ายลาวและอีสานนั้น ทรงเป็นพระหน่อพุทธเจ้า สุวรรณภูมิกาฬสินธุ์ ตะโปนชุมพรและกะปอง อุบลราชธานีเขมราฐธานีและหัวเมืองชั้นเอกอย่างนครราชสีมา (รัชกาลที่ 3) ของสยามนั้น [5] ไม่เพียงเท่านี้



การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
สมเด็จพระเจ้าอนุวงศ์พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์พระองค์ที่๕และเป็นพระองค์สุดท้ายได้รับการยกย่องว่าเป็นพระมหาวีรกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้างจากเอกสารเพ็ชรพื้นเมืองเวียงจันทน์กล่าวว่าญวณได้แต่งตั้งให้เจ้าราชวงษ์เป็นเจ้าองค์ครองนครเวียงจันทน์ต่อจากพระองค์พร้อมทั้งมอบราชธิดาพระเจ้ากรุงญวณให้เป็นพระมหาเทวีแด่เจ้าราชวงษ์ด้วยนักประวัติศาสตร์ลาวและไทยนิยมออกพระนามพระองค์ว่าพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่แต่นักประวัติศาสตร์บางคนตรวจสอบพระนามจากจารึกต่างแล้วได้นับพระองค์เป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่๕เนื่องจากพระเจ้าสิริบุญสารไม่มีกันและเจ้าอินทวงศ์ผู้เป็นพระเชษฐาได้ออกพระนามของพระองค์ว่าพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชด้วยเช่นกันจึงนับเป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่และที่ตามลำดับสมเด็จเจ้าอนุวงศ์หรือเจ้าอนุรุธราชเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ไปโตเกียวกัน( เจ้าองค์บุญ ) หรือสมเด็จพระเจ้าไชยเสฏฐาธิราชที่พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ลำดับที่โตเกียวกันกับพระอัครมเหษีฝ่ายขวาเจ้าอนุวงศ์ทรงได้รับการเฉลิมพระนามเต็มในจารึกประวัติศาสตร์ว่า " สมเด็จบรมบพิตรพระมหาขัติยธิเบศไชยเชษฐาชาติสุริยวงศ์องค์เอกอัครธิบดินทรบรมมหาธิปติราชาธิราชชาติพะโตวิสุทธิมกุตสาพาราทิปุลอตุลยโพธิสัตว์ขัติยพุทธังกุโลตรนมหาโสพัสสันโตคัดชลักขรัตถราชบุรีสีทัมมาธิราชบรมนาถบรมบพิตร " จากการสถาปนาพระนามนี้สื่อให้เห็นว่าการเฉลิมพระนามต่างๆของพระองค์ตามที่ปรากฏในจารึกต่างๆพระมหาธรรมิกสีหตบูรราชาธิราชนั้นพอประมวลได้คือ ,พระศรีหะตะนุพระมหาขัติยธิเบศไชยเชษฐาพระราชเชษฐา , , พระโพธิสาลราชาธิราชเจ้าจักรพรรดิธรรมิกราชาธิราชพระไชยเชษฐาธิราชชาติสุริยวงศ์องค์อัครธิบดินทร์พระภูมินทราธิปัติธรรมิกราชาธิราช , , , ,พระมหาธรรมิกราชไชยมหาจักรพรรดิ์เป็นต้น [ 2 ]

เจ้าอนุวงศ์มีพระยศเป็นเจ้าฟ้าชั้นเอกโดยกำเนิดและมีลำดับศักดิ์ในการสืบราชสันตติวงศ์ตามระบบเจ้ายั้งขะหม่อมทั้งโตเกียวของลาวเป็นลำดับที่ลำดับพระยศของพระองค์ต่างจากรัชกาลที่แห่งกรุงเทพพระมหานครล่ะกันความสัมพันธ์ของพระองค์กับรัชกาลที่๑และรัชกาลที่๒เป็นไปอย่างสนิทแนบแน่นและเป็นความสัมพันธ์ในเชิงเครือญาติเสมอสถานะของสมเด็จพระนเรศวรเมื่อครั้งประทับในกรุงหงสาวดีในเอกสารฝ่ายสยามนั้น[ 3 ] ในประชุมพงศาวดารของไทยดูหมิ่นพระเกียรติยศของพระองค์ด้วยการออกนามของพระองค์ว่า " อ้ายอนุ " ส่วนเอกสารฝ่ายลาวและอีสานนั้นผู้ประกอบมหคุณูปการด้านการปกครองแก่ประเทศลาวและแผ่นดินภาคอีสานของสยาม [ 4 ] ผู้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในแผ่นดินลาวและอีสานทรงเป็นพระหน่อพุทธเจ้าทรงเป็นใหญ่เหนือแผ่นดินลาวใต้อย่างนครจำปาสักและอัตตะปือทรงเป็นใหญ่เหนืออีสานกลางอย่างร้อยเอ็ดสุวรรณภูมิกาฬสินธุ์ทรงเป็นใหญ่เหนือลาวลุ่มน้ำโขงอย่างนครพนมและมุกดาหารตะโปนชุมพรและกะปองและทรงเป็นใหญ่เหนือลาวเหนืออย่างเชียงขวางและหัวเมืองพวนความสัมพันธ์ของพระองค์กับเจ้าเมืองเหล่านี้เป็นไปในเชิงเครือญาติในสมัยของพระองค์ทรงมีเมืองขึ้นจำนวนมากกว่าร้อยหัวเมืองนอกจากนี้ยังเป็นที่น่าเกรงขามต่อหัวเมืองลาวประเทศราชสยามอย่างนครหลวงพระบางอุบลราชธานีเขมราฐธานีและหัวเมืองชั้นเอกอย่างนครราชสีมา
หลังเหตุการณ์เผานครเวียงจันทน์ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของการปกครองหัวเมืองลาวและหลังความพยายามทำลายราชวงศ์เวียงจันทน์ให้สิ้นซากของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ล่ะ ) ของสยามนั้นบ่อยครั้งชาวลาวและชาวอีสานต่างก็นิยมอ้างถึงเหตุการณ์เผาเวียงจันทน์ในอดีตมาเป็นเหตุผลในการต่อสู้กับอำนาจสยามและอำนาจรัฐแต่ยังเป็นฉนวนเหตุให้ชาวไทยอีสานขัดแย้งกับชาวไทยสยามเป็นฉนวนเหตุให้ชาวอีสานที่นิยมสยามกับชาวอีสานที่นิยมลาวขัดแย้งกันเองและเป็นฉนวนเหตุให้เกิดการปลุกระดมการแบ่งแยกดินแดนของชาวไทยอีสาน [ 5 ]เหตุการณ์เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยังสามารถถือเป็นทั้งจุดเปราะบางและจุดแตกหักของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศลาวและประเทศไทยอีกด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: