The water holding and retention cap

The water holding and retention capacities were increased from 5.56 to 7.11 g/g and 3.22 to 5.33 g/g, respectively as the particle size was decreased from 1127 to 550 lm. The increase in particle size beyond 550 lm resulted in a decrease in water holding and retention capacities up to 4.42 and 3.67 g/g, respectively. The increase in water holding and retention capacity could be attributed to a better water accessibility of the surface capillaries and increase in the surface area due to grinding. The water holding capacity for coconut residue was found to be comparable with sugar beet fiber and citrus fiber, whereas water retention capacity was of similar magnitude to that of the pea hull and wheat

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความจุโฮลดิ้งและกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นจาก 5.56 7.11 g/g และ 3.22 5.33 กรัม/g ตามลำดับ ตามขนาดอนุภาคลดลงจาก 1127 เป็น 550 lm การเพิ่มขึ้นของขนาดอนุภาคมากกว่า 550 lm ส่งผลให้เกิดการลดลงของน้ำถือและเก็บข้อมูลความจุสูงสุด 4.42 และ 3.67 กรัม/g ตามลำดับ การเพิ่มขึ้นของความจุการถือและการเก็บรักษาน้ำสามารถนำมาประกอบในการเข้าถึงน้ำที่ดีของเส้นเลือดฝอยที่ผิวและเพิ่มพื้นที่ผิวเนื่องจากการบด พบน้ำจุสำหรับกากมะพร้าวจะเทียบได้กับนทานไฟเบอร์และใยส้ม ในขณะที่ถูกกักเก็บน้ำความจุของขนาดคล้ายกับเรือถั่วและข้าวสาลี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โฮลดิ้งน้ำและการเก็บรักษาความจุเพิ่มขึ้น 5.56-7.11 G / g และ 3.22-5.33 กรัม / กรัมตามลำดับในขณะที่ขนาดอนุภาคลดลง 1127-550 LM การเพิ่มขึ้นของขนาดอนุภาคเกิน 550 LM ผลในการลดลงในน้ำโฮลดิ้งและการเก็บรักษาความจุสูงสุดถึง 4.42 และ 3.67 กรัม / กรัมตามลำดับ เพิ่มขึ้นในการอุ้มน้ำและความสามารถในการเก็บรักษาที่สามารถนำมาประกอบกับการเข้าถึงน้ำที่ดีขึ้นของเส้นเลือดฝอยพื้นผิวและการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ผิวเนื่องจากการบด น้ำสามารถรองรับกากมะพร้าวถือพบว่าจะเทียบเคียงได้กับเส้นใยน้ำตาลหัวผักกาดและเส้นใยส้มขณะที่ความจุกักเก็บน้ำเป็นของขนาดคล้ายกับที่ของเรือกฟภ. และข้าวสาลี