Demand for organic foods is partial

Demand for organic foods is partially driven by consumers’ perceptions that they are more nutritious. However, scientific opinion is divided
on whether there are significant nutritional differences between organic and non-organic foods, and two recent reviews have
concluded that there are no differences. In the present study, we carried out meta-analyses based on 343 peer-reviewed publications that
indicate statistically significant and meaningful differences in composition between organic and non-organic crops/crop-based foods. Most
importantly, the concentrations of a range of antioxidants such as polyphenolics were found to be substantially higher in organic crops/
crop-based foods, with those of phenolic acids, flavanones, stilbenes, flavones, flavonols and anthocyanins being an estimated 19 (95 % CI
5, 33) %, 69 (95 % CI 13, 125) %, 28 (95 % CI 12, 44) %, 26 (95 % CI 3, 48) %, 50 (95 % CI 28, 72) % and 51 (95 % CI 17, 86) % higher, respectively.
Many of these compounds have previously been linked to a reduced risk of chronic diseases, including CVD and neurodegenerative
diseases and certain cancers, in dietary intervention and epidemiological studies. Additionally, the frequency of occurrence of pesticide residues was found to be four times higher in conventional crops, which also contained significantly higher concentrations of the toxic metal Cd.
Significant differences were also detected for some other (e.g. minerals and vitamins) compounds. There is evidence that higher antioxidant
concentrations and lower Cd concentrations are linked to specific agronomic practices (e.g. non-use of mineral N and P fertilisers, respectively)
prescribed in organic farming systems. In conclusion, organic crops, on average, have higher concentrations of antioxidants, lower concentrations of Cd and a lower incidence of pesticide residues than the non-organic comparators across regions and production seasons.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความต้องการอาหารอินทรีย์บางส่วนได้รับการขับเคลื่อน โดยผู้บริโภครับรู้ว่า จะมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แบ่งความคิดเห็น scientificกับว่ามีความแตกต่างทางโภชนาการ significant ระหว่างอาหารอินทรีย์ และไม่อินทรีย์ และมีรีวิวสองล่าสุดสรุปว่า มีความแตกต่างไม่ ในการศึกษาปัจจุบัน เราทำ meta-วิเคราะห์ตาม 343 เพียร์-ทบทวนสิ่งที่ระบุทางสถิติ significant และมีความแตกต่างในองค์ประกอบระหว่างอินทรีย์ และไม่อินทรีย์พืช/พืชตามอาหาร มากที่สุดสำคัญ มีความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระ polyphenolics เช่นช่วงที่พบจะสูงมากในพืชอินทรีย์ /ใช้พืชอาหาร กับกรดฟีนอ flavanones, stilbenes, flavones, flavonols และ anthocyanins 19 การประเมิน (95% CI5, 33) %, 69 (95% CI 13, 125) %, 28 (95% CI 12, 44) %, (95% CI 3, 48) 26%, 50 (95% CI 28, 72) และ 51 (95% CI 17, 86) %สูง ตามลำดับสารเหล่านี้มากมายก่อนหน้านี้เชื่อมโยงเพื่อลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง ผิว CVD และ neurodegenerativeโรคและบางโรคมะเร็ง ในการแทรกแซงของอาหารและความ นอกจากนี้ ความถี่ของการเกิดสารพิษตกค้างพบจะสูงสี่ครั้งในพืชทั่วไป ซึ่งยัง ประกอบด้วยความเข้มข้นสูง significantly ของโลหะเป็นพิษซีดีนอกจากนี้ยังพบความแตกต่าง Significant สำหรับบางอื่น ๆ (เช่นแร่ธาตุและวิตามิน) สารประกอบ มีหลักฐานว่าสารต้านอนุมูลอิสระสูงความเข้มข้นและความเข้มข้นซีดีต่ำเชื่อมโยงกับแนวทางลักษณะทาง specific (เช่นไม่ใช้ของแร่ธาตุ N และ P ปุ๋ย ตามลำดับ)กำหนดในระบบเกษตรอินทรีย์ เบียดเบียน พืชอินทรีย์ เฉลี่ย ได้ความเข้มข้นสูงของสารต้านอนุมูลอิสระ ความเข้มข้นต่ำของซีดีและอุบัติการณ์ต่ำกว่าของสารพิษตกค้างมากกว่า comparators ไม่อินทรีย์ทั่วภูมิภาคและฤดูกาลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความต้องการอาหารอินทรีย์เป็นแรงผลักดันบางส่วนจากการรับรู้ของผู้บริโภคว่าพวกเขามีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น อย่างไรก็ตามความเห็นคทางวิทยาศาสตร์แบ่งออก
ว่ามีนัยสำคัญ Fi ลาดเทความแตกต่างระหว่างทางโภชนาการอาหารอินทรีย์และไม่ใช่อินทรีย์และสองความคิดเห็นที่ผ่านมาได้
ข้อสรุปว่าไม่มีความแตกต่าง ในการศึกษาปัจจุบันเราดำเนินการวิเคราะห์ meta-343 ขึ้นอยู่กับสิ่งพิมพ์ peer-reviewed ที่
บ่งบอกถึงความลาดเทมีนัยสำคัญทางสถิติที่มีความหมายและความแตกต่างในองค์ประกอบระหว่างพืชอินทรีย์และไม่ใช่อินทรีย์ / อาหารพืชที่ใช้ ส่วนใหญ่
ที่สำคัญความเข้มข้นของช่วงของสารต้านอนุมูลอิสระเช่น polyphenolics พบว่ามีนัยสำคัญที่สูงขึ้นในการปลูกพืชอินทรีย์ /
อาหารพืชที่ใช้กับผู้ที่มีกรดฟีนอลชั้น avanones, stilbenes ชั้น avones ชั้น avonols และ anthocyanins เป็นประมาณ 19 (95% CI
5, 33)%, 69 (95% CI 13, 125)%, 28 (95% CI 12, 44)%, 26 (95% CI 3, 48)%, 50 (95% CI 28, 72)% และ 51 (95% CI 17, 86)% สูงตามลำดับ.
หลายคนของสารเหล่านี้เคยได้รับการเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังรวมทั้ง CVD และระบบประสาท
โรคและโรคมะเร็งบางชนิดในการแทรกแซงการบริโภคอาหารและการศึกษาทางระบาดวิทยา นอกจากนี้ความถี่ของการเกิดสารเคมีตกค้างถูกพบว่าเป็นครั้งที่สี่ที่สูงขึ้นในการปลูกพืชทั่วไปที่ยังมีความเข้มข้นอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นของโลหะที่เป็นพิษ Cd.
นัยสำคัญ Fi แตกต่างลาดเทนอกจากนี้ยังได้ตรวจพบบางอื่น ๆ (เช่นแร่ธาตุและวิตามิน) สารประกอบ มีหลักฐานว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่า
ความเข้มข้นและลดความเข้มข้นของแคดเมียมที่เชื่อมโยงกับเฉพาะเจาะจงคการปฏิบัติทางการเกษตร (เช่นไม่ใช้ของแร่ไนโตรเจนและปุ๋ย P ตามลำดับ)
ที่กำหนดไว้ในระบบเกษตรอินทรีย์ สรุปได้ว่าการปลูกพืชอินทรีย์โดยเฉลี่ยมีความเข้มข้นสูงของสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นต่ำของ Cd และอัตราการเกิดที่ลดลงของสารเคมีตกค้างกว่าตัวเปรียบเทียบที่ไม่ใช่อินทรีย์ทั่วทุกภูมิภาคและฤดูกาลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความต้องการอาหารอินทรีย์เป็นบางส่วนเกิดจากการรับรู้ของผู้บริโภคว่าพวกเขาจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น อย่างไรก็ตาม scienti จึงความเห็นแบ่งเป็น C
ว่ามี signi จึงไม่สามารถความแตกต่างระหว่างอินทรีย์และที่ไม่ใช่อินทรีย์อาหารโภชนาการและสองล่าสุดรีวิวได้
สรุปได้ว่า ไม่มีความแตกต่าง ในการศึกษาครั้งนี้เราดำเนินการโดยวิธีการวิเคราะห์เมต้าขึ้นอยู่กับ 343 ผู้ดี - ทบทวนสิ่งพิมพ์ที่ระบุไม่ได้ และ signi
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจึงมีความหมายแตกต่างในองค์ประกอบระหว่างอินทรีย์และไม่ใช่พืช / พืชอินทรีย์จากอาหาร ที่สุด
ที่ความเข้มข้นในช่วงของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น polyphenolics ได้สูงขึ้นอย่างมากในพืชพืช /
ตามอาหารอินทรีย์กับฟีโนลิก กรดfl avanones stilbenes fl avones , , , และ แอนโทไซยานิน เป็นfl avonols ประมาณ 19 ( 95% CI
5 , 33 ) , 69 ( 95% CI 13 , 125 ) , 28 ( 95% CI 12 , 44 ) , 26 ( 95% CI 3 , 48 ) , 50 ( 95% CI 28 , 72 ) และร้อยละ 51 ( 95% CI 17 , 86 ) % สูงขึ้นตามลำดับ
หลายสารเหล่านี้ได้เคยถูกเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรค Neurodegenerative
โรคมะเร็งบางอย่างในเบต้าแคโรทีนและศึกษาทางระบาดวิทยา . นอกจากนี้ ความถี่ของการเกิดสารเคมีตกค้างอยู่สี่ครั้งสูงกว่าพืชทั่วไป ซึ่งยังมี signi จึงลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อความเข้มข้นของโลหะที่เป็นพิษสูงกว่า CD .
signi จึงไม่สามารถตรวจพบความแตกต่างและบางอื่น ๆ ( เช่นแร่ธาตุและวิตามิน ) สารประกอบ มีหลักฐานว่าสูงกว่าสารต้านอนุมูลอิสระ
ความเข้มข้นและปริมาณซีดีลดเชื่อมโยงกับกาจึง C ทางการปฏิบัติ ( เช่นไม่ใช้แร่ปุ๋ย N P ,
) ) ไว้ในระบบเกษตรอินทรีย์ . สรุปพืชอินทรีย์เฉลี่ย มีความเข้มข้นสูงของสารต้านอนุมูลอิสระลดความเข้มข้นของซีดีและการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างกว่าไม่ใช่อินทรีย์เปรียบเทียบข้ามภูมิภาคและการผลิตฤดู