13observed in China’s Tourism indus

13
observed in China’s Tourism industry over the recent years in contrast to divergence in the
general economy (Wen, 2001). However more specific evaluations and comparisons are needed
to analyze the relationship between foreign exchange earnings by international tourists, number
of international tourists, and other tourism related indicators.
One way to capture the essence of the economic distribution is by using the Gini
coefficient. The Gini coefficient, as proposed by Gini in 1912 in French, was developed to
measure the degree of concentration (inequality) of a variable in a distribution of its elements. It
compares the Lorenz curve of a ranked empirical distribution with the line of perfect equality.
This line assumes that each element has the same contribution to the total summation of the
values of a variable. The Gini coefficient ranges between 0 (where there is no concentration and
implies perfect equality) and 1 (where there is total concentration and implies perfect inequality).
The greater the degree of inequality, the larger is the Gini coefficient.
The Gini coefficient can be used to measure the degree of inequality among thirty-one
Provinces given different indicators associated with the international tourists in China. The
degrees of the concentration for various tourism indicators can be measured and compared
between thirty-one Provinces, such as foreign exchange earning, number of tourists, and number
of hotels. In order to define mathematically the Lorenz curve and Gini coefficient, the
formulation of elements can be either discrete or continuous. The discrete form was chosen for
this study, and the distribution of international tourism across the thirty-one Provinces could be
represented as
where y represents the tourism indicators (the number of international tourists, the foreign
exchange earning, and the number of hotels) and N equals 31 (the number of the Provinces in
y ≤ y ≤ y ≤ ... ≤ yN 1 2 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

13
สังเกตในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีนกว่าปีที่ผ่านมาในทางตรงกันข้ามกับ divergence ใน
เศรษฐกิจทั่วไป ( Wen , 2001 ) อย่างไรก็ตาม การประเมินที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นและการเปรียบเทียบเป็น
เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้จากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวน
ของนักท่องเที่ยวนานาชาติ และการท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวบ่งชี้
วิธีหนึ่งที่จะจับสาระสําคัญของการกระจายตัวทางเศรษฐกิจ โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์ Gini
. และสัมประสิทธิ์จินี ตามที่เสนอโดย Gini ในปี 1912 ในฝรั่งเศส ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ
วัดระดับสมาธิ ( ความ ) ของตัวแปรในการกระจายขององค์ประกอบของมัน มัน
เปรียบเทียบโค้งลอเรนซ์ของการกระจายเชิงประจักษ์กับบรรทัดของความเสมอภาคที่สมบูรณ์แบบ
บรรทัดนี้สันนิษฐานว่า แต่ละองค์ประกอบมีการเดียวกันเพื่อรวมรวมค่า
ของตัวแปร โดยสัมประสิทธิ์จีนีช่วงระหว่าง 0 ( ที่ไม่มีสมาธิและสมบูรณ์แบบ
หมายถึงความเสมอภาค ) และ 1 ( ซึ่งมีความเข้มข้นของทั้งหมด และแสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันที่สมบูรณ์แบบ ) .
มากขึ้นระดับของความไม่เท่าเทียมกัน ขนาดใหญ่ คือ สัมประสิทธิ์จินี .
ค่าสัมประสิทธิ์ Gini สามารถใช้ในการวัดระดับของความไม่เท่าเทียมกันระหว่าง 31
จังหวัดได้รับตัวบ่งชี้ที่แตกต่างกันที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวต่างชาติในจีน
องศาของความเข้มข้นสำหรับตัวชี้วัดการท่องเที่ยวต่าง ๆ สามารถวัดและเปรียบเทียบ
ระหว่าง 31 จังหวัด เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินรายได้ จำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวน
โรงแรมการกำหนดทางคณิตศาสตร์โดยโค้งลอเรนซ์และสัมประสิทธิ์จินี ,
การกำหนดองค์ประกอบสามารถให้ต่อเนื่อง หรือ แบบต่อเนื่อง แบบฟอร์มต่อเนื่องถูกเลือกสำหรับ
การศึกษา , และการกระจายของนานาชาติการท่องเที่ยวใน 31 จังหวัดได้

ที่แสดงเป็น Y แทนการท่องเที่ยวตัวชี้วัด ( จำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศต่างประเทศ
ตราไรและหมายเลขของโรงแรม ) และ n เท่ากับ 31 ( จํานวนของจังหวัดใน≤ Y Y
Y ≤≤ . . . . . . . ≤ใน 1 2 3