One of the critical decisions to ma

One of the critical decisions to make in choosing a college is between the research university and the small college. In the spring, we looked at the case for the research university. This week, we consider what advantages a small (or liberal arts) college has to offer. The typical small college is a school that has an enrollment of less than 5,000 students, doesn't have a graduate school, and has a student-to-faculty ratio of under 10:1—some are even as low as 5:1.

[Find student-faculty ratio via U.S. News's Liberal Arts Colleges rankings.]

Here are some of the pluses of choosing a small college:

1. You get small classes. Unlike large research universities where you could regularly find yourself in lecture halls with many hundreds of other students, at a small college you'll rarely be in classes of more than 50 students; in most cases two-thirds of your classes will have fewer than 20 students. (Again, the U.S. News Best Colleges rankings include the percentage of classes under 20 at each school.) The small class environment will give you a much greater opportunity to ask questions, participate in discussion, and have a professor who actually knows who you are. It's always nice to be a real person, rather than a nameless spectator in the crowd of a mega-university.

[Search for the best school for you.]

2. All the teaching is done by professors. Since most small colleges only grant undergraduate degrees, they don't have graduate students. And if you don't have graduate students, you don't have to stick graduate students in the classroom to get trained on how to be a professor. This means that you won't have to deal with inexperienced TA's teaching your class. (It doesn't mean that you might not get stuck with inexperienced young professors. But with many colleges "tenured in," and with not much chance for professors to change jobs in this ultra-tight economy, there should be fewer beginning professors compared to the steady stream of green graduate students coming into the research university.)

[Read 10 Warning Signs of a Bad Professor.]

3. Your professors will be more committed to teaching. At many research universities, "publish or perish" is still the phrase of the day. As a result, professors there who seek tenure and promotion have to make research their No. 1 priority and teaching, at best, No. 2. At small colleges, on the other hand, teaching is often the main criterion for advancement, so the professors will put more effort into preparing their classes and, often, into developing new classes.

4. Your work will be evaluated more carefully. In larger schools, professors, TA's, and/or graders have to rush through huge stacks of papers and exams to grade (that is, when they haven't relegated the grading to a computer), so they don't have much time to offer feedback and suggestions on individual pieces of work. At small schools, the professor will have more time to read your work and offer detailed comments. While to some this might seem intimidating, it's one of the best ways to learn and grow intellectually —if you actually pay attention to the comments, that is.

5. You'll have a chance to write more papers. Grading papers is quite time consuming and papers are one of the first things to go when an instructor is faced with a large class. The limited size of classes at small colleges, though, makes it possible for professors to assign more written work (or other sorts of projects). This is important because the more you write, the better you get at writing. And with the rise of the Internet, communication skills are becoming more and more important compared to just memorizing lots of facts. It's also likely that you'll have more of a change to do bigger projects, such as junior papers and senior theses, usually with one-or-one supervision by a real expert.

6. You'll have more opportunity for one-on-one contact with your professor. At the big universities, your professor may just be a speck in the distance, someone you would never dare approach. But at small colleges, you will get to know your professors and they will get to know you as well. You often will get better advising than you would at a larger university and this professor will actually know you when the time comes for getting a letter of recommendation for graduate school or for an employer.

7. You'll have more freedom in the curriculum. Often smaller colleges are more flexible about requirements and give you more leeway to construct programs that meet your individual interests. Some even allow you to design your own majors or don't have majors at all. What's good about this is that you can take only the courses that you want, rather than sitting in on endless classes that the "college" or the "department" thinks all students should take.

8. You'll have more opportunities to collaborate with a professor. At larger schools, the are endless hordes of graduate students waiting in line to partner with a professo

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัดสินใจที่สำคัญให้ในการเลือกโรงเรียนอย่างใดอย่างหนึ่งคือระหว่างมหาวิทยาลัยวิจัยและวิทยาลัยขนาดเล็ก ในฤดูใบไม้ผลิ เราดูที่กรณีสำหรับมหาวิทยาลัยวิจัย สัปดาห์นี้ เราพิจารณาอะไรประโยชน์ขนาดเล็ก (หรือศิลปศาสตร์) วิทยาลัยมีให้ วิทยาลัยขนาดเล็กทั่วไปเป็นโรงเรียนที่มีการลงทะเบียนของนักเรียนน้อยกว่า 5000 ไม่มีบัณฑิต และมีอัตราส่วนนักเรียนคณะของใต้ 10:1 — มีแม้เป็นต่ำเป็น 5:1[พบอัตราส่วนนักเรียนคณาจารย์ผ่านเดลินิวส์จัดอันดับวิทยาลัยศิลปศาสตร์]นี่คือบางส่วนของ pluses ของเลือกวิทยาลัยขนาดเล็ก:1. คุณได้รับชั้นเรียนขนาดเล็ก ซึ่งแตกต่างจากมหาวิทยาลัยวิจัยขนาดใหญ่ที่เป็นประจำพบตัวเองในห้องโถงบรรยายกับหลายร้อยของนักเรียนคนอื่น ๆ ที่วิทยาลัยขนาดเล็ก คุณจะไม่ค่อยเป็นในชั้นเรียนของนักเรียนมากกว่า 50 ในกรณีส่วนใหญ่สองในสามของชั้นเรียนของคุณจะมีน้อยกว่า 20 คน (อีกครั้ง การจัดอันดับวิทยาลัยที่ดีที่สุดของข่าวสหรัฐฯ รวมเปอร์เซ็นต์ของระดับชั้นที่ต่ำกว่า 20 แต่ละโรงเรียน) สิ่งแวดล้อมระดับเล็กจะให้โอกาสที่มากขึ้นเพื่อถามคำถาม มีส่วนร่วมในการสนทนา และมีอาจารย์ที่รู้จริง ว่าคุณคือใคร มันเป็นเสมอดีที่จะบุคคลจริง มากกว่านัดนิรนามในฝูงชนของ mega-มหาวิทยาลัย[ค้นหาโรงเรียนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ]การเรียนการสอนทั้งหมดจะทำ โดยอาจารย์ เนื่องจากวิทยาลัยขนาดเล็กส่วนใหญ่อนุญาตองศาตรี พวกเขาไม่มีนักศึกษาปริญญาโท และถ้าคุณไม่มีนักศึกษาปริญญาโท คุณไม่ต้องติดนักศึกษาในห้องเรียนเพื่อรับการฝึกอบรมในการเป็นอาจารย์ ซึ่งหมายความ ว่า คุณจะไม่มีการจัดการกับของตาที่ไม่มีประสบการณ์การสอนชั้น (มันไม่ได้หมายความ ว่า คุณอาจไม่ได้ติดอยู่กับอาจารย์หนุ่มที่ไม่มีประสบการณ์ แต่ ด้วยวิทยาลัย "ใน tenured" และ มีโอกาสไม่มากสำหรับอาจารย์การเปลี่ยนงานนี้พิเศษแน่นเศรษฐกิจ มีควรจะอาจารย์เริ่มน้อยลงเมื่อเทียบกับกระแสของเขียวนักศึกษามาเป็นมหาวิทยาลัยวิจัย)[อ่าน 10 สัญญาณเตือนของอาจารย์ไม่ดี]3 อาจารย์ของคุณจะมากขึ้นทำให้การสอน ในหลายงานวิจัยมหาวิทยาลัย "เผยแพร่ หรือพินาศ" ยังคงเป็นวลีของวัน เป็นผล อาจารย์มีโปรโมชั่นและดำรงตำแหน่งที่ต้องทำวิจัยหมายเลข 1 ลำดับความสำคัญและสอน ที่สุด หมายเลข 2 ที่วิทยาลัยขนาดเล็ก คง การเรียนการสอนมักจะเป็นเกณฑ์หลักสำหรับความก้าวหน้า เพื่ออาจารย์จะใส่ความพยายามมากขึ้น ในการจัดเตรียมชั้นเรียน และ มักจะ มาพัฒนาชั้นเรียน4. งานจะถูกประเมินอย่างระมัดระวัง ในโรงเรียนขนาดใหญ่ อาจารย์ ของ TA และ/หรือนักเรียนต้องวิ่งผ่านกองใหญ่ของเอกสารและการสอบเกรด (นั่นคือ เมื่อพวกเขาไม่ได้ผลักไสการจัดเกรดคอมพิวเตอร์), เพื่อให้พวกเขามีเวลาไม่มากได้เสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแต่ละชิ้นงาน ในโรงเรียนขนาดเล็ก อาจารย์จะมีเวลาในการอ่านงานของคุณ และเสนอข้อคิดเห็นรายละเอียด ในขณะที่บาง นี้อาจดูเหมือนข่มขู่ มันเป็นหนึ่งในวิธีการเรียนรู้ และเติบโตสติปัญญา — ถ้าคุณได้ใส่ข้อคิดเห็น กล่าวคือ5. คุณจะมีโอกาสที่จะเขียนบทความเพิ่มเติม คัดเกรดกระดาษเป็นเวลาค่อนข้างนาน และกระดาษเป็นสิ่งแรกเมื่อผู้สอนจะต้องเผชิญกับระดับใหญ่อย่างใดอย่างหนึ่ง จำกัดขนาดของชั้นเรียนที่วิทยาลัยขนาดเล็ก แม้ว่า ทำให้อาจารย์กำหนดให้เขียนขึ้นทำงาน (หรือประเภทอื่น ๆ ของโครงการ) นี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะยิ่งคุณเขียน ดีกว่าคุณได้รับที่เขียน และการเติบโตของอินเทอร์เน็ต ทักษะการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อเทียบกับเพียงจดจำข้อเท็จจริงมากมาย มันยังมีแนวโน้มว่า คุณจะมีการเปลี่ยนแปลงการทำโครงการขนาดใหญ่ เช่นจูเนียร์เอกสารและวิทยานิพนธ์อาวุโส กับหนึ่ง หรือหนึ่งดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงมักจะเพิ่มเติม6. คุณจะมีโอกาสมากขึ้นสำหรับการติดต่อแบบตัวต่อตัวกับอาจารย์ของคุณ มหาวิทยาลัยใหญ่ อาจารย์ของคุณอาจจะพูดคุยในระยะไกล คนที่คุณไม่เคยจะกล้าวิธี แต่ที่วิทยาลัยขนาดเล็ก คุณจะได้รู้ว่าอาจารย์ของคุณ และพวกเขาจะได้รู้ว่าคุณเป็นอย่างดี คุณมักจะได้ดีขึ้นให้คำแนะนำมากกว่า คุณจะเป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ และศาสตราจารย์นี้จะทราบจริง ๆ คุณเมื่อเวลามาขอหนังสือแนะนำ สำหรับบัณฑิต หรือนายจ้าง7. คุณจะมีอิสระมากขึ้นในหลักสูตร วิทยาลัยขนาดเล็กมักจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเกี่ยวกับความต้องการ และทำให้งานที่คั่งค้างเพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรแกรมที่ตรงกับความสนใจของแต่ละ บางคนให้คุณในการออกแบบสาขาของคุณเอง หรือไม่มีสาขาทั้งหมด ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ว่า คุณสามารถใช้เฉพาะหลักสูตรที่คุณต้อง มากกว่าที่นั่งในชั้นเรียนไม่รู้จบว่า "วิทยาลัย" หรือ "แผนก" คิดว่า นักเรียนทุกคนควรจะ8. คุณจะมีโอกาสมากขึ้นในการทำงานร่วมกับอาจารย์ โรงเรียนขนาดใหญ่ การสิ้นสุดพยุหะของนักศึกษามาเข้าแถวรอเป็นพันธมิตรกับ professo

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่จะทำให้ในการเลือกมหาวิทยาลัยที่อยู่ในระหว่างการวิจัยของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยขนาดเล็ก ในฤดูใบไม้ผลิที่เรามองไปที่กรณีของมหาวิทยาลัยวิจัย สัปดาห์นี้เราพิจารณาสิ่งที่ได้เปรียบเล็ก ๆ (หรือศิลปศาสตร์) วิทยาลัยมีให้ วิทยาลัยขนาดเล็กโดยทั่วไปคือโรงเรียนที่มีการลงทะเบียนของนักศึกษาน้อยกว่า 5,000 ไม่ได้มีการศึกษาโรงเรียนและมีอัตราส่วนนักเรียนต่อคณะต่ำกว่า 10: 1 บางคนแม้เป็นต่ำเป็น 5: 1

[. หาอัตราส่วนนักเรียนคณาจารย์ผ่านทางข่าวของสหรัฐฯจัดอันดับวิทยาลัยศิลปศาสตร์]

นี่คือบางส่วนของข้อดีของการเลือกวิทยาลัยขนาดเล็ก:

1 คุณจะได้รับชั้นเรียนขนาดเล็ก ซึ่งแตกต่างจากมหาวิทยาลัยวิจัยขนาดใหญ่ที่คุณเป็นประจำจะพบว่าตัวเองอยู่ในห้องบรรยายที่มีหลายร้อยของนักเรียนคนอื่น ๆ ที่วิทยาลัยขนาดเล็กที่คุณไม่ค่อยจะอยู่ในชั้นเรียนของนักเรียนกว่า 50 คน; ในกรณีส่วนใหญ่สองในสามของการเรียนของคุณจะมีน้อยกว่า 20 คน (อีกครั้งการจัดอันดับของ US News มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดรวมถึงร้อยละของการเรียนต่ำกว่า 20 ที่แต่ละโรงเรียน.) สภาพแวดล้อมระดับเล็ก ๆ จะทำให้คุณมีโอกาสมากขึ้นที่จะถามคำถามและมีส่วนร่วมในการอภิปรายและมีอาจารย์ที่จริงรู้ว่าคุณเป็นใคร . มันเป็นเรื่องดีเสมอที่จะเป็นคนจริงมากกว่าชมนิรนามในฝูงชนของล้านมหาวิทยาลัย.

[ค้นหาสำหรับโรงเรียนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ.]

2 การเรียนการสอนทั้งหมดจะทำโดยอาจารย์ ตั้งแต่วิทยาลัยขนาดเล็กที่สุดเพียงให้ระดับปริญญาตรีที่พวกเขาไม่ได้มีนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และถ้าคุณไม่ได้มีนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่คุณไม่ต้องติดนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในชั้นเรียนจะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการที่จะศาสตราจารย์ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ได้มีการจัดการกับมือใหม่ TA ของการเรียนการสอนชั้นเรียนของคุณ (มันไม่ได้หมายความว่าคุณอาจไม่ได้รับการติดกับอาจารย์หนุ่มมือใหม่. แต่ด้วยหลายวิทยาลัย "ดำรงตำแหน่ง" และมีโอกาสไม่มากสำหรับอาจารย์จะเปลี่ยนงานในระบบเศรษฐกิจพิเศษแน่นนี้ควรจะมีน้อยลงเมื่อเทียบกับอาจารย์เริ่มต้น กับกระแสของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสีเขียวเข้ามาในมหาวิทยาลัยวิจัย.)

[อ่าน 10 สัญญาณเตือนของศาสตราจารย์ Bad.]

3 อาจารย์ของคุณจะมีความมุ่งมั่นมากขึ้นในการเรียนการสอน ที่มหาวิทยาลัยวิจัยจำนวนมาก "เผยแพร่หรือพินาศ" ยังคงเป็นวลีของวันที่ เป็นผลให้มีอาจารย์ที่แสวงหาการดำรงตำแหน่งและการส่งเสริมจะต้องทำวิจัยของพวกเขาครั้งที่ 1 จัดลำดับความสำคัญและการเรียนการสอนที่ดีที่สุดลำดับที่ 2. ที่วิทยาลัยขนาดเล็กในมืออื่น ๆ , การเรียนการสอนมักจะเป็นเกณฑ์หลักในการก้าวหน้าดังนั้น อาจารย์จะใช้ความพยายามมากขึ้นในการเตรียมความพร้อมการเรียนของพวกเขาและมักจะเรียนในการพัฒนาใหม่.

4 การทำงานของคุณจะได้รับการประเมินอย่างระมัดระวังมากขึ้น ในโรงเรียนขนาดใหญ่อาจารย์ TA และ / หรือเกรดเดอร์จะต้องวิ่งผ่านกองใหญ่ของเอกสารและการสอบเกรด (นั่นคือเมื่อพวกเขายังไม่ได้จัดลำดับผลักไสไล่ส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์) เพื่อให้พวกเขาไม่ได้มีเวลามากพอที่จะ เสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแต่ละชิ้นของการทำงาน ในโรงเรียนขนาดเล็กอาจารย์จะมีเวลามากขึ้นในการอ่านงานของคุณและให้เห็นรายละเอียด ในขณะที่บางส่วนนี้อาจจะดูน่ากลัวก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้และเติบโตทางสติปัญญาถ้าคุณให้ความสนใจจริงการแสดงความคิดเห็นที่เป็น.

5 คุณจะมีโอกาสที่จะเขียนเอกสารเพิ่มเติม การวัดผลการศึกษาเอกสารค่อนข้างใช้เวลานานและเอกสารเป็นหนึ่งในสิ่งแรกที่จะไปเมื่ออาจารย์ผู้สอนจะต้องเผชิญกับชั้นเรียนขนาดใหญ่ จำกัด ขนาดของชั้นเรียนที่วิทยาลัยเล็ก ๆ แต่ทำให้มันเป็นไปได้สำหรับอาจารย์ที่จะมอบหมายงานเขียนมากขึ้น (หรือประเภทอื่น ๆ ของโครงการ) นี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะยิ่งคุณเขียนที่ดีกว่าคุณจะได้รับในการเขียน และมีการเพิ่มขึ้นของอินเทอร์เน็ตและทักษะการสื่อสารมีมากขึ้นและที่สำคัญมากขึ้นเมื่อเทียบกับเพียงจำจำนวนมากของข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่คุณจะมีมากขึ้นของการเปลี่ยนแปลงที่จะทำโครงการขนาดใหญ่เช่นเอกสารจูเนียร์และวิทยานิพนธ์ระดับสูงมักจะมีหนึ่งหรือหนึ่งในการกำกับดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง.

6 คุณจะมีโอกาสมากขึ้นสำหรับหนึ่งในหนึ่งติดต่อกับอาจารย์ของคุณ ที่มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อาจารย์ของคุณอาจจะเป็นแค่จุดในระยะทางที่ใครบางคนที่คุณจะไม่เคยกล้าที่วิธีการ แต่ที่วิทยาลัยขนาดเล็กที่คุณจะได้รับรู้ว่าอาจารย์ของคุณและพวกเขาจะได้รับรู้ว่าคุณได้เช่นกัน คุณมักจะได้รับการให้คำปรึกษาที่ดีขึ้นกว่าที่คุณจะในมหาวิทยาลัยที่มีขนาดใหญ่และอาจารย์นี้จะรู้จริงคุณเมื่อเวลามาให้ได้รับจดหมายแนะนำสำหรับบัณฑิตหรือนายจ้าง.

7 คุณจะมีอิสระมากขึ้นในหลักสูตร บ่อยครั้งที่วิทยาลัยขนาดเล็กที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเกี่ยวกับความต้องการและให้ระยะเวลาเพิ่มขึ้นในการสร้างโปรแกรมที่ตอบสนองความสนใจของแต่ละบุคคล บางคนยังช่วยให้คุณสามารถออกแบบสาขาวิชาของคุณเองหรือไม่ได้มีสาขาวิชาที่ทั้งหมด สิ่งที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือการที่คุณสามารถใช้เวลาเพียงหลักสูตรที่คุณต้องการมากกว่าการนั่งอยู่ในชั้นเรียนไม่รู้จบว่า "วิทยาลัย" หรือ "กรม" คิดว่านักเรียนทุกคนควรใช้.

8 คุณจะมีโอกาสมากขึ้นที่จะร่วมมือกับอาจารย์ ในโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีพยุหะไม่มีที่สิ้นสุดของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่รออยู่ในสายที่จะร่วมเป็นพันธมิตรกับ professo

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่จะทำในการเลือกวิทยาลัยอยู่ระหว่างการวิจัยมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยขนาดเล็ก ในฤดูใบไม้ผลิ พวกเรามองกรณีของมหาวิทยาลัยวิจัย สัปดาห์นี้ เราพิจารณาสิ่งที่ข้อดีเล็ก ( หรือศิลปศาสตร์วิทยาลัยมีให้ วิทยาลัยขนาดเล็กทั่วไปคือที่โรงเรียนมีการลงทะเบียนของน้อยกว่า 5 , 000 คน ไม่มีโรงเรียน และมีนักเรียนคณะอัตราส่วนภายใต้ 10:1-some แม้เป็นต่ำเป็น 5 : 1 .[ หาคณะอัตราส่วนนักเรียนผ่านทางสหรัฐอเมริกาข่าวศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยอันดับ ]นี่คือบางส่วนของข้อดีของการเลือกวิทยาลัยเล็ก ๆ :1 . คุณได้รับในชั้นเรียนขนาดเล็ก ซึ่งแตกต่างจากมหาวิทยาลัยวิจัยขนาดใหญ่ที่คุณสามารถเสมอค้นหาตัวเองในห้องบรรยายที่มีหลายร้อยของนักเรียนคนอื่นๆ ที่เล็กวิทยาลัย คุณจะไม่ค่อยอยู่ในชั้นเรียนมากกว่า 50 คน ในกรณีส่วนใหญ่สองในสามของชั้นเรียนของคุณจะต้องไม่น้อยกว่า 20 คน ( อีกครั้ง , ข่าวสหรัฐอเมริกาที่ดีที่สุดวิทยาลัยการจัดอันดับรวมร้อยละ 20 ในแต่ละชั้นเรียนในโรงเรียน ) สิ่งแวดล้อมชั้นเรียนขนาดเล็กจะช่วยให้คุณโอกาสมากขึ้นที่จะถามคำถามและมีส่วนร่วมในการอภิปราย และได้เป็นอาจารย์ที่รู้จริงว่าเธอเป็นใคร มันเสมอดีที่จะเป็นคนจริงมากกว่าผู้ชมนิรนามในฝูงชนของมหาวิทยาลัยเด่น[ ค้นหา ] โรงเรียนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ2 . ทั้งหมดสอนทำโดยอาจารย์ เนื่องจากวิทยาลัยขนาดเล็กที่สุดเพียงสิทธิ์ตรีองศา พวกเขาไม่มี นิสิตระดับบัณฑิตศึกษา และถ้าคุณไม่ได้มีนักศึกษาปริญญาโท ไม่ต้องติดนักศึกษาในชั้นเรียนที่จะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการเป็นศาสตราจารย์ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ต้องจัดการกับมือใหม่ TA สอนชั้นเรียนของคุณ ( มันไม่ได้หมายความ ว่า คุณอาจไม่ได้รับติดอยู่กับอาจารย์หนุ่มมือใหม่ แต่กับหลายวิทยาลัย " ในการสอน และ มีโอกาสไม่มากนักสำหรับอาจารย์เพื่อเปลี่ยนงานในเศรษฐกิจพิเศษคับ ควรจะมีการเริ่มต้นอาจารย์น้อยลงเมื่อเทียบกับกระแสสีเขียวนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยวิจัย )[ อ่าน 10 สัญญาณเตือนของอาจารย์ไม่ดี ]3 . อาจารย์ของคุณจะมุ่งมั่นในการสอน ที่มหาวิทยาลัยวิจัยหลาย " ตีพิมพ์ หรือตาย " ยังคงเป็นวลีของวัน ผลคือ อาจารย์มีผู้แสวงหางานและส่งเสริมให้งานวิจัยสำคัญอันดับ 1 ของพวกเขา และ สอน ที่ ดี ที่สุด ไม่ 2 ที่วิทยาลัยเล็ก ๆในมืออื่น ๆ , สอนมักจะเป็นเกณฑ์หลักในการพัฒนา ดังนั้นอาจารย์จะใช้ความพยายามมากขึ้นในการเตรียมชั้นเรียนของพวกเขาและบ่อยครั้งในการพัฒนาบทเรียนใหม่4 . งานของคุณจะถูกประเมินอย่างระมัดระวัง ในโรงเรียนขนาดใหญ่ , อาจารย์ , ตา , และ / หรือนักเรียนต้องวิ่งผ่านกองเอกสารขนาดใหญ่ และการสอบเกรด ( คือเมื่อพวกเขาไม่ได้ผลักไสระดับกับคอมพิวเตอร์ ) เพื่อให้พวกเขามีเวลาไม่มากในการเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแต่ละชิ้นส่วนของงาน ในโรงเรียนเล็กๆ อาจารย์จะได้มีเวลาอ่านงานของคุณ และเสนอรายละเอียดความคิดเห็น ในขณะที่บางนี้อาจดูเหมือนน่ากลัว มันเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้และเติบโตทางสติปัญญา - ถ้าคุณสนใจในความคิดเห็นที่5 . คุณจะได้รับโอกาสที่จะเขียนเอกสารเพิ่มเติม ตรวจเอกสารค่อนข้างใช้เวลานานและเอกสารเป็นหนึ่งในสิ่งแรกที่จะไป เมื่อผู้สอนจะต้องเผชิญหน้ากับ ชั้นเรียนขนาดใหญ่ จำกัดขนาดของชั้นเรียนที่วิทยาลัยเล็กๆ แต่ทำให้มันเป็นไปได้สำหรับอาจารย์มอบหมายเพิ่มเติมเขียนงาน ( หรือประเภทอื่น ๆของโครงการ ) นี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะยิ่งคุณเขียน ดีกว่าที่คุณจะได้รับ ที่ เขียน และมีการเพิ่มขึ้นของอินเทอร์เน็ต ทักษะการสื่อสารที่มากขึ้นและที่สำคัญมากขึ้นเมื่อเทียบกับแค่ท่องจำ จํานวนจริง มันยังมีโอกาสที่คุณจะได้มากกว่าการทำโครงการใหญ่ๆ เช่น เอกสาร จูเนียร์ และวิทยานิพนธ์ รุ่นพี่มักจะมีหนึ่งหรือหนึ่งดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญจริง6 . คุณจะมีโอกาสมากขึ้นสำหรับการติดต่อแบบตัวต่อตัวกับอาจารย์ของคุณ ที่มหาวิทยาลัยใหญ่ อาจารย์ของคุณอาจจะเพียงแค่จุดจุดหนึ่งบนระยะทางที่คนที่คุณจะไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ที่วิทยาลัยเล็ก ๆ , คุณจะได้รู้จักกับอาจารย์ของคุณ และพวกเขาจะได้รู้ว่าคุณเป็นอย่างดี บ่อยครั้งที่คุณจะได้รับการแนะนำที่ดีกว่าที่คุณจะอยู่ในมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่และอาจารย์จริง ๆ จะรู้เมื่อเวลามาถึงสำหรับการรับจดหมายแนะนำสำหรับโรงเรียนหรือนายจ้าง7 . คุณจะมีเสรีภาพมากขึ้นในหลักสูตร มักจะมีขนาดเล็กลงวิทยาลัยมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเกี่ยวกับความต้องการและให้ leeway เพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรแกรมที่ตรงกับความสนใจของแต่ละบุคคล บางคนยังช่วยให้คุณสามารถออกแบบเอกของคุณเอง หรือ ไม่มีเอกเลย สิ่งที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือการที่คุณสามารถใช้เพียงหลักสูตรที่คุณต้องการ แทนที่จะนั่งในชั้นเรียนไม่มีที่สิ้นสุดว่า " วิทยาลัย " หรือ " แผนก " คิดว่านักเรียนทุกคนควรใช้8 . คุณจะได้รับโอกาสที่จะร่วมมือกับอาจารย์ ในโรงเรียนขนาดใหญ่ มีพยุหะไม่มีที่สิ้นสุดของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาต่อแถวรอคู่กับ professo