ปะการังเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของท้องทะเลไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศทางทะเลที่มีความสำคัญ ปัจจุบันการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งอย่างรวดเร็วและการนำทรัพยากรทางทะเลมาใช้ประโยชน์อย่างไร้ขีดจำกัด ได้ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังเป็นอย่างมาก ดังนั้นการศึกษาในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์ปะการัง ปัจจัยที่มีผลต่อความรู้ความเข้าใจการอนุรักษ์ปะการัง และแนวทางในการส่งเสริมการอนุรักษ์ปะการังของนักศึกษาสาขาอนามัยสิ่งแวดล้อม ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยบูรพา (วิทยาเขตบางแสน) จังหวัดชลบุรี และนักศึกษาในสถาบันการอุดมศึกษาอื่น ๆ
การศึกษาในครั้งนี้ พบว่า กลุ่มประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 20 – 21 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 1 และอาศัยอยู่กับเพื่อน
มากที่สุด โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม เท่า ๆ กัน คือ กลุ่มที่มีรายได้อยู่ในช่วง 3,000 – 5,000 บาท และกลุ่มที่มีรายได้อยู่ในช่วง 5,001 – 7,000 บาท ในสัดส่วนที่เท่ากัน มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการัง 1 ครั้งต่อเดือน ซึ่งได้รับจากแหล่งสื่อหลัก ๆ คือ ทางสื่ออินเตอร์เน็ตมากที่สุด รองลงมาคือ สื่อโทรทัศน์ นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์การเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการัง แต่ทราบว่ามหาวิทยาลัยมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการังให้สามารถเข้าร่วมได้ เมื่อพิจารณาผลการศึกษาความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์ปะการังของนักศึกษา พบว่า อยู่ในระดับดีมาก โดยประเด็นที่นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจมากที่สุด คือ แนวปะการังเป็นที่อยู่อาศัยของสาหร่ายทะเลและสัตว์น้ำต่าง ๆ เป็นแหล่งอาหาร และแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน ส่วนประเด็นที่นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจน้อยที่สุด คือ การพัฒนาที่ดิน บริเวณริมชายฝั่งที่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของปะการัง และจากการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์ปะการัง คือ ชั้นปีการศึกษา และความถี่ของการได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการัง ส่วนปัจจัยที่ไม่มีผลต่อความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์ปะการัง คือ เพศ อายุ ภูมิลำเนา สถานะของการอยู่อาศัย รายได้เฉลี่ยต่อเดือน จำนวนแหล่งของการได้รับข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์การเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ปะการัง ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ดังนั้น จึงควรส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการังให้มากขึ้น โดยเฉพาะทางสื่ออินเตอร์เน็ต และสื่อโทรทัศน์ อีกทั้งมหาวิทยาลัยควรมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการังกับนักศึกษาให้มากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ปะการัง