DiscussionWhile most investigators

Discussion
While most investigators agree a
relationship exists among certain
pathologies, oxidative stress, and
plasma CoQlO levels, consensus has
not been achieved regarding the best
approach to correct CoQlO deficiencies.
Unresolved issues are related to
dosage and route of administration.
In their article on antioxidant therapy
in human endocrine disorders,
Golbidi and Laher (2010) emphasized
the need to select the right
population, the optimal dose and
duration, and specific intracellular
targeting mechanisms when treating
patients with CoQlO. As research
revealing the importance of oxidative
stress in pathologies grows,
emphasis on mitochondrial disease
processes and treatments will
increase. Nursing research on CoQlO
is needed to optimize nursing intervention.
Currently, nursing researchers
are examining the effectiveness
and mechanisms of CoQlO
related to mitochondrial function in
diseases that are less commonly
studied. These nursing scientists
hope to investigate CoQlO as a
potential new treatment based on
cellular function (Hiebert, Shen, &
Pierce, 2012; Shen, Knowles, Hiebert,
& Pierce, 2012).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาในขณะที่นักสืบส่วนใหญ่ยอมรับการความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในบางpathologies ความเครียด oxidative และพลา CoQlO ระดับ มีมติไม่ได้เกิดเรื่องดีที่สุดวิธีการแก้ไขทรง CoQlOยังไม่ได้แก้ไขปัญหาเกี่ยวข้องกับปริมาณและเส้นทางของการจัดการในบทความของพวกเขาในการรักษาด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในมนุษย์โรคต่อมไร้ท่อGolbidi และ Laher (2010) เน้นจำเป็นต้องเลือกด้านขวาประชากร ยาเหมาะสม และระยะเวลา และ intracellular เฉพาะกลไกในการกำหนดเป้าหมายเมื่อรักษาผู้ป่วยที่ มี CoQlO เป็นงานวิจัยเผยให้เห็นความสำคัญของ oxidativeความเครียดใน pathologies เติบโตเน้นโรค mitochondrialกระบวนและการรักษาเพิ่มขึ้น พยาบาลวิจัย CoQlOเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแทรกแซงการพยาบาลปัจจุบัน พยาบาลนักวิจัยกำลังตรวจสอบประสิทธิภาพและกลไกของ CoQlOที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชัน mitochondrial ในโรคที่มักน้อยศึกษา นักวิทยาศาสตร์พยาบาลเหล่านี้หวังว่าจะ CoQlO เป็นการตรวจสอบการรักษาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นตามฟังก์ชันโทรศัพท์มือถือ (Hiebert เฉิน และเจาะ 2012 Shen โนวเลส Hiebertและเสียด 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พูดคุย
ในขณะที่นักวิจัยส่วนใหญ่เห็น
ความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในหมู่บาง
โรคความเครียดออกซิเดชันและ
ระดับ CoQlO พลาสม่าได้ฉันทามติ
ไม่ได้รับการประสบความสำเร็จที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ
แนวทางการแก้ไขข้อบกพร่อง CoQlO.
ได้รับการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ
การให้ยาและเส้นทางของการบริหาร.
ในบทความของพวกเขาในการต้านอนุมูลอิสระ การรักษา
ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อในมนุษย์
และ Golbidi Laher (2010) เน้นความ
จำเป็นที่จะต้องเลือกที่เหมาะสม
ประชากรปริมาณที่เหมาะสมและ
ระยะเวลาและเซลล์เฉพาะ
กลไกการกำหนดเป้าหมายการรักษา
ผู้ป่วยที่มี CoQlO เป็นงานวิจัย
ที่เผยให้เห็นความสำคัญของการออกซิเดชั่
ความเครียดในโรคที่เติบโตขึ้น
เน้นเกี่ยวกับโรคยล
กระบวนการและการรักษาจะ
เพิ่มขึ้น วิจัยทางการพยาบาลใน CoQlO
เป็นสิ่งจำเป็นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการพยาบาล.
ขณะนี้นักวิจัยพยาบาล
กำลังตรวจสอบประสิทธิภาพ
และกลไกของ CoQlO
ที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชั่นยลใน
โรคที่มีน้อยกว่าปกติ
การศึกษา เหล่านักวิทยาศาสตร์พยาบาล
หวังว่าจะตรวจสอบ CoQlO เป็น
ใหม่ที่มีศักยภาพการรักษาขึ้นอยู่กับ
การทำงานของเซลล์ (Hiebert, Shen และ
เพียร์ซ, 2012; เชนโน Hiebert,
เพียร์ซและ 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขณะที่นักวิจัยส่วนใหญ่อภิปราย
.

มีความสัมพันธ์ในบางโรค ความเครียดออกซิเดชันและ

coqlo ฉันทามติระดับพลาสม่าได้ไม่ประสบผลสำเร็จเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง coqlo
.

ไม่ได้แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยา และเส้นทางของการบริหาร ในบทความของพวกเขาใน

การบำบัดสารต้านอนุมูลอิสระในมนุษย์ระบบต่อมไร้ท่อความผิดปกติ
และ golbidi laher ( 2010 ) เน้น
ต้องเลือกประชากรใช่ไหม

ระยะเวลาและปริมาณที่เหมาะสม และการกำหนดเป้าหมายเฉพาะ

กลไกเมื่อรักษาผู้ป่วย coqlo . วิจัย
เปิดเผยความสำคัญของภาวะเครียดออกซิเดชันในโรค

เน้นกระบวนการ การเติบโต และการรักษาโรค

จะเพิ่มขึ้น วิจัยทางการพยาบาลใน coqlo
ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการพยาบาล .
ในปัจจุบัน นักวิจัยทางการพยาบาล

จะตรวจสอบประสิทธิภาพและกลไกที่เกี่ยวข้องกับการ coqlo
ฟังก์ชันในโรคที่น้อยกว่าปกติ

) เหล่านักวิทยาศาสตร์พยาบาล
หวังว่าจะตรวจสอบ coqlo เป็น

รักษาศักยภาพใหม่ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันของเซลล์ ( ฮีเบิร์ต , เชน &
เพียร์ซ , 2012 ; Shen , Knowles , ฮีเบิร์ต
& , เพียร์ซ , 2012 ) .