Edge Computing is pushing the front

Edge Computing is pushing the frontier of computing applications, data, and services away from centralized nodes to the logical extremes of a network. It enables analytics and knowledge generation to occur at the source of the data. This approach requires leveraging resources that may not be continuously connected to a network such as laptops, smartphones, tablets and sensors. Edge Computing covers a wide range of technologies including wireless sensor networks, mobile data acquisition, mobile signature analysis, cooperative distributed peer-to-peer ad hoc networking and processing also classifiable as Local Cloud/Fog Computing and Grid/Mesh Computing, distributed data storage and retrieval, autonomic self-healing networks, virtual cloudlets, remote cloud services, augmented reality, and more.[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คอมพิวเตอร์จะผลักดันขอบชายแดนของการใช้งานคอมพิวเตอร์ข้อมูลและบริการที่อยู่ห่างจากโหนดศูนย์กลางการสุดขั้วตรรกะของเครือข่าย จะช่วยให้การวิเคราะห์และการสร้างความรู้จะเกิดขึ้นที่แหล่งที่มาของข้อมูล วิธีนี้ต้องใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่อาจไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเช่นแล็ปท็อปมาร์ทโฟนแท็บเล็ต, และเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ขอบครอบคลุมหลากหลายของเทคโนโลยีรวมทั้งเครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สาย, การจัดเก็บข้อมูลมือถือ, การวิเคราะห์ลายเซ็นมือถือสหกรณ์กระจายแบบ peer-to-peer โฆษณาเครือข่ายเฉพาะกิจและการประมวลผลยังจัดเป็นเมฆ local / คอมพิวเตอร์หมอกและตาราง / คอมพิวเตอร์ตาข่ายจัดเก็บข้อมูลกระจาย และการดึงเครือข่ายรักษาตนเองอัตโนมัติ cloudlets เสมือนเมฆบริการระยะไกลความเป็นจริงเติม, และอื่น ๆ . [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คอมพิวเตอร์ขอบจะผลักดันพรมแดนของคอมพิวเตอร์โปรแกรม ข้อมูล และบริการจากส่วนกลางโหนสุดตรรกะของเครือข่าย มันช่วยสร้างวิเคราะห์และความรู้ให้เกิดขึ้นในแหล่งที่มาของข้อมูล วิธีการนี้ต้องใช้ทรัพยากรที่อาจไม่ได้เชื่อมต่อเนื่องต่อไปยังเครือข่ายเช่นแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และเซนเซอร์ ขอบคอมพิวเตอร์ครอบคลุมหลากหลายของเทคโนโลยีที่รวมเครือข่ายเซนเซอร์ไร้สาย ซื้อข้อมูลมือถือ วิเคราะห์ลายเซ็นมือถือ สหกรณ์กระจายเพียร์เพื่อเพียร์กิจเครือข่าย และยัง classifiable เป็นคอมพิวเตอร์เมฆ/หมอกท้องถิ่นและใช้งานตาราง/ตาข่าย จัดเก็บข้อมูลกระจาย และเรียก เครือ ข่ายรักษาตนเอง autonomic เสมือน cloudlets บริการฝากระยะไกล การประมวลผล ความเป็นจริง และอื่น ๆ[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นการผลักดันขอบชายแดนของการให้บริการและข้อมูลแอพพลิเคชั่นการใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ห่างจากโหนดแบบรวมศูนย์ซึ่งจะสูงแบบลอจิกของเครือข่าย ช่วยให้ทำการสร้างความรู้และการวิเคราะห์จะเกิดขึ้นในแหล่งที่มาของข้อมูล วิธีนี้ต้องใช้ทรัพยากรใช้ประโยชน์ที่อาจไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเช่นเซ็นเซอร์และเม็ดสมาร์ทโฟนเครื่องแลปทอปEDGE ครอบคลุมการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่หลากหลายของเทคโนโลยีเซนเซอร์เครือข่ายรวมถึงการเชื่อมต่อแบบไร้สาย,โปรเซสเซอร์โมบายล์ข้อมูลการควบรวมกิจการ,โปรเซสเซอร์โมบายล์ลายเซ็นการวิเคราะห์ความร่วมมือการกระจายแบบ Peer - to - Peer การเชื่อมต่อเครือข่ายเฉพาะกิจและการประมวลผล classifiable ยังเป็นแบบกลุ่มเมฆและหมอกและการใช้งานคอมพิวเตอร์ตาราง/ตาข่ายการใช้งานคอมพิวเตอร์,การกระจายการจัดเก็บข้อมูลและการกู้คืนข้อมูล, autonomic ด้วยตนเองเครือข่าย, Virtual cloudlets ,รีโมทคอนโทรลเมฆ,ความเป็นจริงมากขึ้นและเพิ่มความสำคัญ.[ 1 ]