The prevalence of diabetes is high

The prevalence of diabetes is high in Australia and substantially increases with age, In the elderly, the detection and management of diabetes is often sub-optimal leading to persistent extremes in blood glucose levels (BGLs); too high >16mmol/L or too low

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความชุกของโรคเบาหวานสูงในออสเตรเลีย และมากเพิ่มขึ้นกับอายุ ในผู้สูงอายุ ตรวจสอบและการจัดการโรคเบาหวานมักจะย่อยดีที่สุดนำไปสู่แบบที่สุดในระดับน้ำตาลในเลือด (BGLs); สูงเกินไป > 16mmol/L หรือต่ำเกินไป < 4 mmol L.Hypoglycemia เป็นการทั่วไปด้านผลของอินซูลินหรือยาเบาหวานปากที่ลด BGLs และเป็นภาวะแทรกซ้อนระยะสั้นรุนแรงในผู้ป่วยสูงอายุ ภาวะแทรกซ้อนนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (myocardial ischemia อาการปวดเค้น), จังหวะ ความประชาน และน้ำตกในผู้สูงอายุ ตั้งค่าช่วงเป้าหมายสูงขึ้นเล็กน้อยสำหรับ BGLs ของ 6 12mmol/L (ช่วงพักเป้าหมายเป็น 4 8mmol/L) สามารถลดความเสี่ยงของ hypoglycaemia ในกลุ่มอายุนี้ได้อาการ hypoglycaemia ในผู้สูงอายุมี neurologic ปกติ มึน อ่อนแอ delirium และสับสน ดังนั้น ตอน②ฤทธิ์ลดน้ำตาลในคนสูงอายุอาจยังคง undiagnosed หรืออาจ misdiagnosed Hypoglycemia จะมีเหตุการณ์ที่น่ากลัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาอยู่ตามลำพัง และพวกเขาอาจเลือกที่จะไม่ใส่ปากยา หรืออินซูลิน มากกว่าความเสี่ยงปฏิกิริยาการปัญหากินยาก อยู่คนเดียว ไม่สามารถปรุงอาหาร หรือซื้ออุปกรณ์สามารถทำ BGLs ล่าง บุคคล และครอบครัวของพวกเขา หรือ carers ควรได้ศึกษาเฉพาะใน hypoglycaemia ถ้าลดยาหรืออินซูลินน้ำตาลในเลือดนั้น การศึกษานี้ต้องการชีวิตของบุคคล เน้นต้องการเลือดบ่อยทดสอบน้ำตาลกลูโคสเพื่อกำจัดต่ำ BGLs และปรับยาให้ตรงกับจำนวนของคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานกันที่ mealtimes ง่ายบริโภค hypo ภูมิ บำบัดควรทำพร้อมกัน ถ้าบุคคลมีความยากลำบากในการรับประทานอาหารปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความชุกของโรคเบาหวานสูงในประเทศออสเตรเลียและอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นตามอายุในผู้สูงอายุ, การตรวจสอบและการจัดการของโรคเบาหวานมักจะย่อยที่ดีที่สุดที่นำไปสู่ความรุ่งเรืองถาวรในระดับน้ำตาลในเลือด (BGLs); สูงเกินไป> 16mmol / L หรือต่ำเกินไป <4 มิลลิโมล / ลิตร. Hypoglycemia เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยของการอินซูลินหรือยาโรคเบาหวานในช่องปากที่ต่ำ BGLs และเป็นภาวะแทรกซ้อนในระยะสั้นอย่างรุนแรงในผู้ป่วยสูงอายุ ภาวะแทรกซ้อนนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (การขาดเลือดของกล้ามเนื้อหัวใจ, โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ), โรคหลอดเลือดสมอง, ความรู้ความเข้าใจบกพร่องและตกอยู่ในผู้สูงอายุ การตั้งค่าช่วงเป้าหมายที่สูงกว่าเล็กน้อยสำหรับ BGLs หก 12mmol / L (ช่วงเป้าหมายที่เหมาะคือ 4 8mmol / ลิตร) สามารถลดความเสี่ยงของภาวะในกลุ่มอายุนี้. the อาการของ hypoglycaemia ในผู้สูงอายุมักจะมีระบบประสาทเช่น เวียนศีรษะอ่อนเพลียเพ้อและความสับสน ดังนั้นตอนฤทธิ์ลดน้ำตาลในผู้สูงอายุอาจจะยังคง undiagnosed หรืออาจจะวินิจฉัยผิดพลาด ภาวะน้ำตาลในเลือดอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาอยู่คนเดียวและพวกเขาอาจเลือกที่จะละเว้นยาในช่องปากหรืออินซูลินมากกว่าความเสี่ยงการเกิดปฏิกิริยา. ประเด็นเช่นการรับประทานอาหารที่ไม่ดีอยู่คนเดียวไม่สามารถที่จะปรุงอาหารหรือร้านค้าสำหรับอุปกรณ์สามารถ ผล BGLs ต่ำ และบุคคลในครอบครัวหรือผู้ดูแลของพวกเขาควรได้รับการศึกษาที่เฉพาะเจาะจงใน hypoglycaemia ถ้านับในการลดระดับน้ำตาลในเลือดยาหรืออินซูลิน การศึกษานี้จะต้องมีการเฉพาะเจาะจงกับชีวิตของบุคคลที่เน้นความจำเป็นในการทดสอบระดับน้ำตาลในเลือดที่พบบ่อยในการกำจัด BGLs ต่ำและการปรับขนาดยาให้ตรงกับปริมาณของคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานอาหารกิน ง่ายต่อการใช้การรักษาสำหรับผู้ที่ควรจะทำพร้อมใช้ ถ้าคนที่มีความยากลำบากการรับประทานอาหารปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความชุกของเบาหวานสูงในออสเตรเลียและมากเพิ่มขึ้นตามอายุ ในผู้สูงอายุ การตรวจหาและจัดการโรคเบาหวานมักจะย่อยที่เหมาะสมนำไปสู่ถาวรแบบสุดขั้วในระดับน้ำตาลในเลือด ( bgls ) ; สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป 16mmol > / l < 4 mmol / L .

hypoglycemia คือผลข้างเคียงสามัญของการอินซูลิน หรือโรคเบาหวานในช่องปากที่ bgls ล่าง