One of the original rock & roll gre

One of the original rock & roll greats, Little Richard merged the fire of gospel with New Orleans R&B, pounding the piano and wailing with gleeful abandon. While numerous other R&B greats of the early '50s had been moving in a similar direction, none of them matched the sheer electricity of Richard's vocals. With his bullet-speed deliveries, ecstatic trills, and the overjoyed force of personality in his singing, he was crucial in upping the voltage from high-powered R&B into the similar, yet different, guise of rock & roll. Although he was only a hitmaker for a couple of years or so, his influence upon both the soul and British Invasion stars of the 1960s was vast, and his early hits remain core classics of the rock repertoire.

Heavily steeped in gospel music while growing up in Georgia, when Little Richard began recording in the early '50s he played unexceptional jump blues/R&B that owed a lot to his early inspirations Billy Wright and Roy Brown. In 1955, at Lloyd Price's suggestion, Richard sent a demo tape to Specialty Records, who were impressed enough to sign him and arrange a session for him in New Orleans. That session, however, didn't get off the ground until Richard began fooling around with a slightly obscene ditty during a break. With slightly cleaned-up lyrics, "Tutti Frutti" was the record that gave birth to Little Richard as he is now known -- the gleeful "woo!"s, the furious piano playing, the sax-driven, pedal-to-the-metal rhythm section. It was also his first hit, although, ridiculous as it now seems, Pat Boone's cover version outdid Richard's on the hit parade.

Boone would also try to cover Richard's next hit, "Long Tall Sally," but by that time it was evident that audiences black and white much preferred the real deal. In 1956 and 1957, Richard reeled off a string of classic hits -- "Long Tall Sally," "Slippin' and "Slidin'," "Jenny, Jenny," "Keep a Knockin'," "Good Golly, Miss Molly," "The Girl Can't Help It" -- that remain the foundation of his fame. While Richard's inimitable mania was the key to his best records, he also owed a lot of his success to the gutsy playing of ace New Orleans session players like Lee Allen (tenor sax), Alvin Tyler (baritone sax), and especially Earl Palmer (drummer), who usually accompanied the singer in both New Orleans and Los Angeles studios. Richard's unforgettable appearances in early rock & roll movies, especially The Girl Can't Help It, also did a lot to spread the rock & roll gospel to the masses.

Richard was at the height of his commercial and artistic powers when he suddenly quit the business during an Australian tour in late 1957, enrolling in a Bible college in Alabama shortly after returning to the States. Richard had actually been feeling the call of religion for a while before his announcement, but it was nonetheless a shock to both his fans and the music industry. Specialty drew on unreleased sessions for a few more hard-rocking singles in the late '50s, but Richard virtually vanished from the public eye for a few years. When he did return to recording, it was as a gospel singer, cutting a few little-heard sacred sides for End, Mercury, and Atlantic in the early '60s.

By 1962, though, Richard had returned to rock & roll, touring Britain to an enthusiastic reception. Among the groups that supported him on those jaunts were the Rolling Stones and the Beatles, whose vocals (Paul McCartney's especially) took a lot of inspiration from Richard's. In 1964, the Beatles cut a knockout version of "Long Tall Sally," with McCartney on lead, that may have even outdone the original. It's been speculated that the success of the Beatles, and other British Invaders who idolized Richard, finally prompted the singer into making a full-scale comeback as an unapologetic rock & roller. Hooking up with Specialty once again, he had a small hit in 1964 with "Bama Lama Bama Loo." These and other sides were respectable efforts in the mold of his classic '50s sides, but tastes had changed too much for Richard to climb the charts again. He spent the rest of the '60s in a continual unsuccessful comeback, recording for Vee-Jay (accompanied on some sides by Jimi Hendrix, who was briefly in Richard's band), OKeh, and Modern (for whom he even tried recording in Memphis with Stax session musicians).

It was the rock & roll revival of the late '60s and early '70s, though, that really saved Richard's career, enabling him to play on the nostalgia circuit with great success (though he had a small hit, "Freedom Blues," in 1970). He had always been a flamboyant performer, brandishing a six-inch pompadour and mascara, and constant entertaining appearances on television talk shows seemed to ensure his continuing success as a living legend. Yet by the late '70s, he'd returned to the church again. Somewhat predictably, he eased back into rock and show business by the mid-'80s. Since then, he's maintained his profile with a role in Down and Out in Beverly Hills (the movie's

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งของหินเดิมชื่อม้วน ลิตเติ้ลริชาร์ดผสานไฟของพระกิตติคุณกับนิวออร์ลีนส์อาร์แอนด์บี เต้นเปียโน และ wailing กับ gleeful abandon ในขณะที่จำนวนมากอื่น ๆ อาร์แอนด์บีชื่อของต้นยุค 50 เคยเคลื่อนไหวในทิศทางที่คล้ายกัน ไม่มีตรงไฟฟ้าโปร่งของเสียงร้องของริชาร์ด เขาส่งความเร็วกระสุน สุขสันต์ trills และแรงเป็นปลื้มของบุคลิกภาพในการร้องของเขา เขาเป็นอย่างยิ่งใน upping แรงดันไฟฟ้าจากพลังอาร์แอนด์บีเข้าหน้ากากคล้าย ยังแตกต่าง กัน หินและม้วน แต่เขาเพียง hitmaker สำหรับคู่ของดารา อิทธิพลของเขาทั้งจิตวิญญาณและอังกฤษบุกดาวของทศวรรษ 1960 เป็นใหญ่ และเขาฮิตต้นยังคง คลาสสิกหลักของละครหินแพร่หลายมากในเพลงในจอร์เจีย เมื่อริชาร์ดน้อยเริ่มบันทึกในต้นยุค 50 เขาเล่นกระโดด unexceptional บลู/อาร์แอนด์บีที่หนี้มากแรงบันดาลใจของเขาก่อนบิลลี่ไรท์และ Roy น้ำตาล ในปี 1955 ข้อเสนอแนะลอยด์ราคา ริชาร์ดส่งเทปเดโมไปเฉพาะระเบียน คนรู้สึกประทับใจพอลงเขา และจัดการเซสชันสำหรับเขาในนิวออร์ลีนส์ เซสชันนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รับจากพื้นดินจนริชาร์ดเริ่มหลอกลวงรอบกับ ditty ลามกเล็กน้อยในระหว่างการหยุดพัก เนื้อเพลงเล็กน้อยทำความสะอาดขึ้น "Tutti Frutti" ได้คอร์ดที่ให้กำเนิดริชาร์ดน้อย ตามเขาเป็นที่รู้จัก - การ gleeful "วู" s เปียโนโกรธเล่น ส่วนจังหวะขับ เคลื่อน sax เหยียบกับโลหะ มันเป็นครั้งแรกของเขาตี แม้ว่า ไร้สาระเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่า Pat Boone ปกรุ่นยิ่งกว่าของริชาร์ดบนแห่ตีบอนจะยังพยายามปิดของริชาร์ดตีต่อไป "ยาว Tall Sally แต่ โดยที่เวลาที่เห็นได้ชัด ว่าขาวดำชมมากต้องปฏิบัติจริง ในปี 1956 และปี 1957 ริชาร์ดท่องปิดสายคลาสสิกฮิต - "ยาว Tall Sally " Slippin' "Slidin' "เจนนี่ เจนนี่ "ทำให้ Knockin' "ดี Golly นางสาวมอลลี่ "The สาว Can't ช่วยมัน" - ที่อยู่ของเขา ในขณะที่ริชาร์ดของโกหก บ้าเป็นกุญแจสำคัญในการบันทึกของเขาสุด เขายังหนี้จำนวนมากสำเร็จ gutsy เล่นเก่งนิวออร์ลีนส์เซสชันผู้เล่นเช่นลีอัลเลน (อายุ sax), Alvin ไทเลอร์ (บาริโทน sax), และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอิร์ลนปาล์มเมอร์ (มือกลอง), ซึ่งมักจะมาพร้อมนักร้องในสตูดิโอนิวออร์ลีนส์และลอสแองเจลิส ในช่วงต้นหินและม้วนหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว Can't ช่วย It นัดรับประกันของริชาร์ดยังได้ไปประดับหิน และม้วนพระกิตติคุณเพื่อมวลชนริชาร์ดถูกที่ความสูงของอำนาจทางการค้า และศิลปะของเขาเมื่อเขาก็ออกจากธุรกิจในระหว่างทัวร์ออสเตรเลียในช่วงปลายปี 1957 ลงทะเบียนในวิทยาลัยในอลาบามาหลังจากที่รัฐ ริชาร์ดได้จริงรู้สึกเรียกศาสนาในขณะก่อนประกาศของเขา แต่ก็กระนั้นช็อกแฟน ๆ ของเขาและวงการเพลง พิเศษดึงเซสชันไม่กี่เพิ่มเติมยากโยกคนโสดในช่วงปลายยุค 50 แต่ริชาร์ดแทบหายไปจากสายตาประชาชนกี่ปี เมื่อเขาได้กลับไปบันทึก ได้เป็นนักร้องกิตติคุณ ตัดกี่น้อยได้ยินศักดิ์สิทธิ์ด้านท้าย ปรอท และแอตแลนติกในช่วงยุค 60โดย 1962 แม้ว่า ริชาร์ดได้กลับไปร็อคและม้วน เช่นสหราชอาณาจักรให้การต้อนรับที่กระตือรือร้น ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนเขาเหล่านั้นอย่างยิ่งถูกหินกลิ้งและเดอะบีเทิลส์ ที่มีเสียงร้อง (ของพอลแม็กคาร์ตนีย์อย่างยิ่ง) เอาแรงบันดาลใจมากจากของริชาร์ด ในปี 1964 เดอะบีเทิลส์ตัดรุ่นน่าพิศวง "แซลลี่สูงยาวได้ กับแม็กคาร์ตนีย์บนตะกั่ว ที่อาจมีได้กลับมาอีกเดิม มันได้รับการคาดการณ์ว่า ความสำเร็จของเดอะบีเทิลส์ และอื่น ๆ ผู้รุกรานอังกฤษที่ถ่อมริชาร์ด สุดพร้อมท์ร้องเป็นการกลับมาเต็มรูปแบบเป็นการจุดจบร็อคและลูกกลิ้ง เชื่อมต่อกับพิเศษอีกครั้ง เขาตีขนาดเล็กในปี 1964 กับ "Loo ปาร์มปาร์มลามะ" เหล่านี้และด้านอื่น ๆ มีความนับถือในด้าน ' 50s คลาสสิกของเขา แต่เปลี่ยนรสนิยมมากเกินไปสำหรับริชาร์ดไต่ชาร์ตอีกครั้ง เขาใช้เวลาเหลือของ ' ยุค 60s ในคัมแบ็กไม่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง การบันทึก (มาบางด้าน Jimi Hendrix ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ในวงของริชาร์ด) Vee-Jay, OKeh และทันสมัย (ซึ่งเขาก็พยายามบันทึกในเมมฟิสกับนักดนตรีแตกซ์เซสชัน)มันเป็นหินและม้วนฟื้นฟูช่วงปลาย ' 60s และช่วงต้นยุค 70 แม้ว่า ที่จริง ๆ บันทึกอาชีพของริชาร์ด ให้เขาสามารถเล่นในวงจรความคิดถึงความสำเร็จ (ว่าเขาตีขนาดเล็ก "บลูเสรีภาพ ในปี 1970) เขามีแสดงเฟลมโบแยนท์ brandishing 6 นิ้ว pompadour และมาสคาร่า และดูเหมือนคงปรากฏบนโทรทัศน์พูดคุยสนุกสนานเพื่อ ความสำเร็จของเขาอย่างต่อเนื่องเป็นตำนานชีวิต ยัง โดยช่วงปลายยุค 70 เขากลับไปโบสถ์อีกครั้ง ค่อนข้างคาด เขาบรรเทากลับเข้าไปในหินและธุรกิจโชว์โดยที่กลาง-'80s หลังจากนั้น เขายังคงรักษารูปของเขามีบทบาทในการลง และออก ใน Beverly Hills (ของภาพยนตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในร็อคแอนด์โรลเดิมแก่นลิตเติ้ลริชาร์ดไฟรวมของพระกิตติคุณกับนิวออร์ลีน R & B ที่ห้ำหั่นเปียโนและร่ำไห้ด้วยความดีใจละทิ้ง ในขณะที่อื่น ๆ อีกมากมาย R & B แก่นของต้น 50s ที่ได้รับไปในทิศทางที่คล้ายกันไม่มีของพวกเขาที่ตรงกับการไฟฟ้าที่แท้จริงของนักร้องริชาร์ด กับการส่งมอบของเขาความเร็วกระสุน, ลั่นมีความสุขและแรงปลื้มของบุคลิกภาพในการร้องเพลงของเขาเขาเป็นสิ่งสำคัญในการ upping แรงดันไฟฟ้าจากพลังงานสูง R & B ลงในที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกันหน้ากากของร็อคแอนด์โรล แม้ว่าเขาจะเป็นเพียง hitmaker สำหรับคู่ของปีหรือดังนั้นอิทธิพลของเขาเมื่อทั้งจิตวิญญาณและอังกฤษบุกดาวของปี 1960 เป็นที่กว้างใหญ่และความนิยมในช่วงต้นของเขายังคงคลาสสิกหลักของละครหิน.

แพร่หลายอย่างมากในการสอนดนตรีขณะที่เติบโตขึ้น ในจอร์เจียเมื่อลิตเติลริชาร์ดเริ่มบันทึกในช่วงยุค 50 เขาเล่นกระโดดบลูส์เคหะ / R & B ที่เป็นหนี้จำนวนมากที่จะเป็นแรงบันดาลใจแรกของเขาบิลลี่ไรท์และรอยสีน้ำตาล ในปี 1955 ในคำแนะนำของลอยด์ราคาของริชาร์ดส่งเทปตัวอย่างการบันทึกพิเศษที่มีความประทับใจมากพอที่จะเซ็นสัญญาและจัดเซสชั่นสำหรับเขาในนิวออร์ เซสชั่นนั้น แต่ไม่ได้ออกจากพื้นดินจนริชาร์ดเริ่มหลอกลวงรอบกับเพลงสั้น ๆ ลามกอนาจารเล็กน้อยในระหว่างการหยุดพัก กับเนื้อเพลงทำความสะอาดขึ้นเล็กน้อย "Tutti Frutti" เป็นบันทึกที่ให้กำเนิดลิตเติ้ลริชาร์ดในขณะที่เขาเป็นที่รู้จักกันตอนนี้ - สนุกสนานตื่นเต้น "แสวงหา" S, เล่นเปียโนโกรธแซ็กโซโฟนที่ขับเคลื่อนด้วยการเหยียบ-to- จังหวะส่วน -metal มันก็ยังเป็นครั้งแรกของเขาแม้จะไร้สาระเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่า Pat Boone หนังสือรุ่น outdid ริชาร์ดในขบวนพาเหรดตี.

เนก็จะพยายามที่จะครอบคลุมตีต่อไปริชาร์ด "สูงนานแซลลี่" แต่ด้วยเวลาที่เห็นได้ชัดว่า ผู้ชมดำและสีขาวที่แนะนำมากจริงจัดการ ในปี 1956 และปี 1957 ริชาร์ดท่องสตริงฮิตคลาสสิก - "สูงนานแซลลี่", "Slippin 'และ" Slidin' "," เจนนี่เจนนี่ "" เก็บ Knockin A ' "" ดีพระเจ้านางสาวมอลลี่ "" ผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถช่วยได้ "-. ที่ยังคงเป็นรากฐานของชื่อเสียงของเขาในขณะที่ริชาร์ด Mania เลียนแบบไม่ได้เป็นกุญแจสำคัญในการบันทึกที่ดีที่สุดของเขานอกจากนี้เขายังเป็นหนี้จำนวนมากของความสำเร็จของเขาที่จะเล่นกล้าหาญของเอซนิวออร์ผู้เล่นเซสชั่น เช่นลีอัลเลน (อายุแซ็กโซโฟน), อัลวินไทเลอร์ (บาริโทนแซ็กโซโฟน) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอิร์ลพาลเมอร์ (มือกลอง) ที่มักจะมาพร้อมกับนักร้องทั้งในนิวออร์และลอสแอนเจลิสตูดิโอ. ปรากฏตัวที่น่าจดจำริชาร์ดในช่วงต้นร็อคแอนด์โรลภาพยนตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ไม่สามารถช่วยได้นอกจากนี้ยังมีไม่มากที่จะแพร่กระจายร็อคแอนด์โรลพระกิตติคุณเพื่อมวลชน.

ริชาร์ดได้ที่ความสูงของอำนาจในเชิงพาณิชย์และศิลปะของเขาเมื่อเขาก็เลิกธุรกิจในระหว่างการทัวร์ออสเตรเลียในช่วงปลายปี 1957 การลงทะเบียนในพระคัมภีร์ วิทยาลัยในอลาบามาหลังจากกลับไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา. ริชาร์ดได้รับจริงความรู้สึกที่เรียกร้องของศาสนาในขณะที่ก่อนการประกาศของเขา แต่กระนั้นมันเป็นช็อตให้กับแฟน ๆ ของเขาทั้งสองและวงการเพลง พิเศษดึงการประชุมอาคิโอะสำหรับซิงเกิ้ลที่ยากโยกอีกไม่กี่ในยุค 50 ปลาย ' แต่ริชาร์ดแทบจะหายไปจากสายตาของสาธารณชนไม่กี่ปี เมื่อเขาได้กลับไปบันทึกมันก็เป็นข่าวนักร้องตัดไม่กี่ด้านศักดิ์สิทธิ์น้อยได้ยิน End, Mercury และมหาสมุทรแอตแลนติกในช่วงต้นยุค 60s.

1962 โดยแม้ว่าริชาร์ดได้กลับไปร็อคแอนด์โรล, การท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร เพื่อต้อนรับความกระตือรือร้น ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนเขาในการล่อผู้ที่มีหินกลิ้งและบีทเทิลซึ่งเป็นนักร้อง (พอลคาร์ทโดยเฉพาะ) เอามากของแรงบันดาลใจจากริชาร์ด ในปี 1964 บีทเทิลตัดรุ่นที่น่าพิศวงของ "สูงนานแซลลี่" กับคาร์ทในตะกั่วที่อาจมีน้อยแม้เดิม จะได้รับการคาดการณ์ว่าความสำเร็จของ The Beatles, และผู้รุกรานอังกฤษอื่น ๆ ที่ริชาร์ดคู่รักในที่สุดได้รับแจ้งนักร้องในการทำให้การกลับมาอย่างเต็มรูปแบบเป็นกระบุงร็อคแอนด์โรลเลอร์ คบพิเศษอีกครั้งหนึ่งเขาได้ตีขนาดเล็กในปี 1964 ด้วย "Bama มะ Bama Loo." เหล่านี้และอื่น ๆ ด้านความพยายามเกียรติในรูปแบบคลาสสิกของเขาด้าน 50s แต่รสนิยมมีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปสำหรับริชาร์ดที่จะปีนชาร์ตอีกครั้ง เขาใช้เวลาส่วนที่เหลือของยุค 60 ในการกลับมาประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการบันทึกสำหรับวีเจ (พร้อมที่ด้านข้างบางอย่างโดยจิมมี่เฮนดริกซ์ซึ่งเป็นเวลาสั้น ๆ ในวงริชาร์ด) รับทราบและโมเดิร์น (ซึ่งเขาก็พยายามบันทึกภาพในเมมฟิส สแตกซ์เซสชั่นนักดนตรี).

มันเป็นร็อคแอนด์โรลคืนชีพของ '60s และต้น' ปลายทศวรรษ 70 แต่ที่บันทึกไว้จริงๆอาชีพของริชาร์ดที่ช่วยให้เขาเล่นในวงจรความคิดถึงกับความสำเร็จ (แม้ว่าเขาจะมีการตีขนาดเล็ก " เสรีภาพบลูส์ "ในปี 1970) เขาเคยเป็นนักแสดงที่มีสีสันกวัดแกว่ง Pompadour หกนิ้วและมาสคาร่าและปรากฏความบันเทิงอย่างต่อเนื่องบนจอโทรทัศน์พูดคุยแสดงดูเหมือนจะให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเขาเป็นตำนานชีวิต แต่จากยุค 70 ปลาย 'เขาต้องการกลับไปที่คริสตจักรอีกครั้ง ค่อนข้างไม่คาดฝันเขาปลดเปลื้องกลับเข้าไปในหินและธุรกิจการแสดงในช่วงกลางยุค 80- ตั้งแต่นั้นมาเขาได้รับการบำรุงรักษารายละเอียดของเขากับบทบาทในการลงและออกในเบเวอร์ลีฮิลส์ (ภาพยนตร์ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในที่สุดหิน & ม้วนเดิม ริชาร์ดน้อยผสานไฟของประเสริฐ นิว ออร์ลีนส์ อาร์แอนด์บี ทุบเปียโนและคร่ำครวญกับยินดีละทิ้ง ในขณะที่อื่น ๆ มากมาย ทั้ง R & B จากช่วงต้นปี 50 มีการย้ายในทิศทางที่คล้ายกัน แต่พวกเขาตรงกับการไฟฟ้าเลี่ยงของริชาร์ด ร้องนํา ด้วยกระสุนความเร็วในการส่งมอบ trills ดีใจและปลื้มบังคับของบุคลิกภาพในการร้องเพลงของเขา เขาเป็นสําคัญในการเพิ่มแรงดันจากขั้นสูง R & B ในที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกัน หน้ากากของหินและม้วน แม้ว่าเขาจะเป็นเพียง hitmaker สำหรับคู่ของปีที่ผ่านมาหรือดังนั้น อิทธิพลของเขาเมื่อทั้งจิตวิญญาณและการรุกรานอังกฤษดาวของปี 1960 มีมาก และฮิตแรกของเขายังคงหลักคลาสสิกของหินละคร .มากอย่างเพลง ในขณะที่เติบโตขึ้นในจอร์เจีย เมื่อริชาร์ดน้อยเริ่มบันทึกในช่วงต้นปี 50 เขาเล่น unexceptional กระโดดบลูส์ / R & B ที่เป็นหนี้มากก่อนแรงบันดาลใจบิลลี่ไรท์ และ รอย บราวน์ ในปี 1955 ที่ข้อเสนอแนะลอยด์ราคา ริชาร์ด ส่งเดโมเทปบันทึกพิเศษที่ประทับใจมากพอที่จะเซ็นสัญญากับเขา และจัดเซสชั่นสำหรับเขาในนิวออร์ลีนส์ ที่เซสชั่น , อย่างไรก็ตาม , ไม่ได้รับออกจากพื้นดิน จนริชาร์ดเริ่มเล่นตลกกับดีตตี้เล็กน้อยลามกในช่วงพัก ด้วยเล็กน้อยทำความสะอาดเนื้อเพลง " ผลไม้รวม " เป็นบันทึกที่ให้กำเนิดริชาร์ดน้อยเขาเป็นที่รู้จักกันในขณะนี้ . . . ร่าเริง " อู " s ทั้งเล่นเปียโน , แซ็กโซโฟนในการขับเคลื่อน ส่วนจังหวะเหยียบกับโลหะ มันก็ยังตีแรกของเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไร้สาระของแพท บูนฉบับปกทำได้ดีกว่าของริชาร์ดในตีแห่บูนก็พยายามของริชาร์ดปกต่อไปตี " แซลลี่ สูงยาว แต่ตอนนั้นมันก็เห็นว่าผู้ชมดำและขาวต้องการมากจริง ในปี 1956 และ 1957 ริชาร์ด reeled ปิดสตริงฮิตคลาสสิก -- " แซลลี่ สูงยาว " " หมดน้ำยาแล้ว และ " slidin " " เจนนี่ เจนนี่ " เก็บได้ " , " " ดีเลย มิสมอลลี่ " สาวน้อยช่วยไม่ได้ . . . " ที่ยังคงเป็นรากฐานของ ชื่อเสียงของเขา ขณะที่ริชาร์ด เลียนแบบ Mania เป็นกุญแจบันทึกที่ดีที่สุดของเขา เขายังเป็นหนี้มากของความสำเร็จของเขาที่กล้าเล่น เอซเซสชัน นิว ออร์ลีนส์ นักเตะอย่าง ลี อัลเลน ( เทเนอร์แซ็กโซโฟน ) , อัลวินไทเลอร์ ( บาริโทนแซ็กโซโฟน ) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอิร์ล ปาล์มเมอร์ ( มือกลอง ) ที่มักจะมาพร้อมกับนักร้องทั้งในนิวออร์ลีนส์ Los Angeles สตูดิโอ ริชาร์ด ที่ปรากฏในหินต้นและม้วนภาพยนตร์ โดยเฉพาะสาวน้อยช่วยไม่ได้ก็มากเพื่อกระจาย & หินกลิ้งข่าวเพื่อมวลชนริชาร์ดอยู่ที่ความสูงของอำนาจในเชิงพาณิชย์และศิลปะของเขา เมื่อจู่ๆ เขาก็เลิกธุรกิจในระหว่างการทัวร์ออสเตรเลียในช่วงปี 1957 ความในพระคัมภีร์วิทยาลัยในอลาบามาไม่นานหลังจากที่กลับไปอเมริกา ริชาร์ด จริง ๆแล้วมันรู้สึกเรียกศาสนาสักพักก่อนประกาศของเขา แต่กระนั้นช็อกทั้งแฟนคลับและวงการเพลง ถนัดวาดในช่วงเผยแพร่ไม่กี่เพิ่มเติมยากโยกคนโสดในช่วงปลายยุค 50 " s แต่ริชาร์ด แทบจะหายไปจากสายตาของสาธารณชนเป็นเวลาหลายปี เมื่อเขากลับไปที่บันทึก มันเป็นพระกิตติคุณนักร้อง ตัดไม่กี่น้อยได้ยินศักดิ์สิทธิ์ข้างท้าย , ปรอท , และมหาสมุทรแอตแลนติกในช่วงต้นยุค 60โดยปี 1962 แต่ริชาร์ดกลับหินกลิ้ง ทัวร์อังกฤษ เพื่อต้อนรับความกระตือรือร้น ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนเขา jaunts เหล่านั้นถูกหินกลิ้งและเพลงที่มีเสียงร้อง ( Paul McCartney โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ) ได้แรงบันดาลใจมากมายจากริชาร์ด ในปี 1964 , Beatles ตัดรุ่น น็อก " แซลลี่ สูงยาว กับแม็คคาร์ทนีย์ ตะกั่ว ที่อาจจะเคยเอาชนะต้นฉบับ มันถูกสันนิษฐานว่า ความสำเร็จของ The Beatles และอังกฤษผู้บุกรุกที่เลื่อมใส ริชาร์ด สุดท้ายถามนักร้องทำให้การกลับมาอย่างเต็มรูปแบบ เป็น unapologetic หิน & ม้วน จับถนัดอีกครั้ง เขาได้ตีขนาดเล็กใน 1964 " Bama ลามะ Bama ลู " เหล่านี้ และด้านอื่นๆ นับถือความพยายามในแม่พิมพ์ของคลาสสิกของเขา " 50s ด้านข้าง แต่รสชาติเปลี่ยนไปเยอะสำหรับ ริชาร์ด ไต่ชาร์ตอีก เขาใช้เวลาที่เหลือของ " 60s ในอย่างต่อเนื่องไม่ประสบความสำเร็จได้บันทึกวีเจย์ ( พร้อมด้วยในบางด้านของจิมิ เฮนดริกซ์ ซึ่งในเวลาสั้น ๆของริชาร์ดวงดนตรี ) การตกลง และทันสมัย ( สำหรับผู้ที่เขาพยายามแม้แต่การบันทึกในเมมฟิสกับตคนักดนตรี )มันเป็นหินกลิ้งคืนชีพของปลายยุค 60 และต้นยุค 70 , ถึงแม้ว่า , ที่ช่วยให้ ริชาร์ด เป็นอาชีพที่ทำให้เขาเล่นบนความคิดถึงวงจรกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ( แม้ว่าเขามีขนาดเล็กตี " อิสรภาพบลูส์ " ในปี 1970 ) เขามักจะแสดงหรูหรา brandishing หกนิ้ว ปอมปาดัวร์ และปัดขนตา และคงนั่งนัดบนโทรทัศน์ทอล์คโชว์ ดูเพื่อให้แน่ใจว่าเขายังคงประสบความสำเร็จเป็นตำนาน . แต่โดยปลายยุค 70 เขาจะกลับไปที่โบสถ์อีกครั้ง ค่อนข้างคาด เขานั้นกลับเข้าไปในธุรกิจหินและแสดงโดย " 80s กลาง ตั้งแต่นั้นมา เขารักษาโปรไฟล์ของเขากับบทบาทในการลงและออกใน Beverly Hills ( ของภาพยนตร์