Transformers: Age of Extinction (or

Transformers: Age of Extinction (or simply Transformers 4) is a 2014 3D science fiction action film based on the Transformers franchise. It is the fourth installment of the live-action Transformers film series and a sequel to 2011's Dark of the Moon, taking place five years after the battle of Chicago. Like its predecessors, it was directed by Michael Bay and written by Ehren Kruger, with Steven Spielberg and Bay as executive producers. It stars Mark Wahlberg in the lead role, with Peter Cullen reprising his role as the voice of Optimus Prime. It is the first film in the series to not feature the original human characters from the first three films, but features a whole new cast of human characters and twenty-two new Transformers, including the Dinobots for the first time in the series. Returning Transformers include Optimus Prime, Bumblebee, Ratchet, Leadfoot, Brains, and Megatron (now known as Galvatron). The film was released on June 27, 2014, in IMAX and 3D.[7]

It received an average rating of 18% on Rotten Tomatoes. It also received seven nominations at the 35th Golden Raspberry Awards, including Worst Picture and Worst Prequel, Remake, Rip-off or Sequel, with Bay and Kelsey Grammer winning the awards for Worst Director and Worst Supporting Actor respectively.[8] However, many praised the visual effects, the action sequences, Steve Jablonsky's musical score, and the performances of Wahlberg, Grammer and Stanley Tucci. The film grossed over $1.104 billion worldwide, making it the highest-grossing film of 2014, the second highest-grossing film in the Transformers series, the nineteenth film to gross over $1 billion, and the fifteenth highest-grossing film of all time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หม้อแปลง: อายุของการสูญเสีย (หรือเพียงแค่หม้อแปลง 4) คือ ภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ 3D 2014 ดำเนินการอิงแฟรนไชส์หม้อแปลง มันเป็นการผ่อนชำระที่สี่ของซีรีส์ภาพยนตร์หม้อแปลงการดำเนินชีวิตและภาค 2554 มืดของดวงจันทร์ ขึ้นห้าปีหลังจากการต่อสู้ของชิคาโก เช่นรุ่นก่อนของ มันถูกกำกับ โดย Michael Bay และเขียน โดยครูเกอร์ Ehren, Steven รับและเบย์เป็นผู้บริหาร มันดาวมาร์กวาห์ลเบิร์กในบทบาทของผู้นำ กับปีเตอร์คัลเลน reprising บทบาทของเขาเป็นเสียงของ Optimus Prime มันเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชุดจะมีตัวละครมนุษย์เดิมจากภาพยนตร์สามอันดับแรก แต่คุณสมบัติทั้งหมดใหม่โยนตัวละครมนุษย์และยี่สิบสองหม้อแปลงใหม่ รวมถึงการ Dinobots ครั้งแรกในชุด หม้อแปลงเก่ารวมถึงออปติมัสไพรม์ ภมร วงล้อ Leadfoot สมอง และเมกะตรอน (ตอนนี้เรียกว่า Galvatron) มีการเผยแพร่ภาพยนตร์ 27 มิถุนายน 2014, 3D และ IMAX [7]ได้รับการจัดอันดับโดยเฉลี่ย 18% บนมะเขือเทศเน่า มันยังได้รับเสนอชื่อเจ็ดที่ 35 ทองราสเบอร์รี่รางวัล รวมทั้ง ภาพที่แย่ที่สุด และเลวพรีเควล Remake โกง หรือผลสืบ เนื่อง เบย์และ Kelsey Grammer ชนะรางวัลสำหรับกรรมการที่แย่ที่สุดและนักแสดงสนับสนุนเลวตามลำดับ [8] อย่างไรก็ตาม หลายคนยกย่องการแสดงผล ลำดับการดำเนินการ Steve Jablonsky โน้ตดนตรี และการแสดงของวาห์ลเบิร์ก Grammer และสแตนลีย์ทุชชี่ ฟิล์ม grossed กว่า 1.104 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ภาพยนตร์รายได้สูงสุดของ 2014 ภาพยนตร์รายได้สูงสุดที่สองในชุดหม้อแปลง แผ่นฟิล์มสิบเก้ารวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และแผ่นฟิล์ม fifteenth รายได้สูงที่สุดของเวลาทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Transformers: อายุการสูญพันธุ์ (หรือ Transformers 4) เป็นหนังนิยายวิทยาศาสตร์ 3D 2014 ขึ้นอยู่กับแฟรนไชส์หม้อแปลง มันเป็นตอนที่สี่ของไลฟ์แอ็กชันภาพยนตร์ซีรีส์หม้อแปลงและผลสืบเนื่องไปมืด 2011 ของดวงจันทร์ที่เกิดขึ้นห้าปีหลังจากการต่อสู้ของชิคาโก เหมือนก่อนหน้าของมันก็ถูกกำกับโดยไมเคิลเบย์และเขียนโดย Ehren Kruger กับ Steven Spielberg และเบย์เป็นผู้อำนวยการบริหาร มันดารา Mark Wahlberg ในบทบาทของผู้นำที่มีปีเตอร์คัลเลนชดใช้บทบาทของเขาในขณะที่เสียงของออปติมัสไพรม์ มันเป็นหนังเรื่องแรกในซีรีส์ที่จะได้มีตัวละครมนุษย์ต้นฉบับจากภาพยนตร์สามภาคแรก แต่มีนักแสดงใหม่ของตัวละครมนุษย์ยี่สิบสองหม้อแปลงใหม่รวมทั้ง Dinobots เป็นครั้งแรกในซีรีส์ หม้อแปลงที่กลับมารวมถึง Optimus Prime, Bumblebee, วงล้อ Leadfoot สมองและเมกะท (ที่รู้จักกันในขณะนี้เป็นวาทรอน) ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2014 ใน IMAX และ 3D. [7] มันได้รับคะแนนเฉลี่ย 18% มะเขือเทศเน่า นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อชิงเจ็ดที่ 35 โกลเด้นรางวัลราสเบอร์รี่รวมทั้งภาพที่เลวร้ายที่สุดและ Prequel ที่เลวร้ายที่สุด Remake, Rip ออกหรือผลสืบเนื่องกับเบย์และ Kelsey Grammer ชนะรางวัลสำหรับผู้อำนวยการที่เลวร้ายที่สุดและแย่ที่สุดตัวประกอบตามลำดับ. [8] แต่อย่างไรก็ตามหลายคน ยกย่องผลภาพลำดับการดำเนินการดนตรีคะแนนสตีฟ Jablonsky และการแสดงของวอห์ลเบิร์ก, ไวยากรณ์และสแตนลี่ย์ทุคชี่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้มากกว่า $ 1104000000 ทั่วโลกทำให้มันเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2014, ครั้งที่สองภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดในซีรีส์หม้อแปลงฟิล์มที่สิบเก้าที่จะทำรายได้กว่า $ 1 พันล้านดอลลาร์และสิบห้าทำรายได้สูงสุดภาพยนตร์ของเวลาทั้งหมด