1.2.2 Research Motivation The laws

1.2.2 Research Motivation The laws of software evolution were introduced in the nineteen seventies by researchers Belady & Lehman who studied how the IBM's operating system 360-series evolved. One of the key messages of software evolution is that software products need to be continuously modified in order to maintain the competitive edge. Another main point is that continuous makes software structure more complex, unless effort is made to reduce this modification complexity. One way to reduce this complexity is to apply a technique called refactoring, which aims to improve the software structure without changing the software's observable behavior. Good programmers have always modified their code to improve its structure, ie, they have applied refactoring without knowing it. However, yyonly in recent years has making it more popular. been recognized as an important part of software development thus In order to identify candidate spots for refactoring Fowler and Beck (Rowler & Beck 2000 give a list of bad smells that can exist in source code. Bad smells bear close resemblance to development level AntiPatterns (Brown et al. 1998), which also describe different problems Little academic work has been done to investigate these issues, which are widely recognized in software indus So I feel there is a need for this the software structure can kind of academic research

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1.2.2 ศึกษากฎหมายของซอฟต์แวร์วิวัฒนาการถูกนำความทส่วนโดยนักวิจัย Belady และเลห์แมนผู้ศึกษาวิธีการที่ระบบปฏิบัติการของ IBM 360-ชุดพัฒนา แรงจูงใจ หนึ่งของข้อความสำคัญของวิวัฒนาการของซอฟต์แวร์คือซอฟต์แวร์ที่ผลิตภัณฑ์ต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาแข่งขัน จุดหลักอื่นเป็นที่ต่อเนื่องทำให้ซอฟต์แวร์โครงสร้างซับซ้อน เว้นแต่ว่าความพยายามจะลดความซับซ้อนแก้ไข วิธีหนึ่งในการลดความซับซ้อนจะใช้เทคนิคที่เรียกว่า refactoring ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม observable ของซอฟต์แวร์ โปรแกรมเมอร์ที่ดีได้เสมอปรับเปลี่ยนรหัสของการปรับปรุงโครงสร้าง ie พวกเขาใช้ refactoring ไม่ทราบได้ อย่างไรก็ตาม yyonly ในปีที่ผ่านมามีการนิยมมากขึ้น การรับรู้จึงเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อระบุผู้จุดการ refactoring ฟาวเลอร์และเบ็ค (Rowler & 2000 เบ็คให้รายการของกลิ่นไม่ดีที่สามารถมีอยู่ในรหัสแหล่งที่มา กลิ่นไม่ดี AntiPatterns ระดับ (สีน้ำตาลและ al. ปี 1998), ซึ่งยัง อธิบายถึงปัญหาต่าง ๆ ที่ทำงานน้อยเพื่อตรวจสอบปัญหาเหล่านี้ ซึ่งมีอย่างกว้างขวางในเอยูรเวซอฟต์แวร์เพื่อให้รู้สึกว่ามีความจำเป็นสำหรับชนิดซอฟต์แวร์โครงสร้างสามารถศึกษาวิจัย พัฒนาปิดรูปหมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1.2.2 แรงจูงใจในการวิจัยกฎหมายของวิวัฒนาการของซอฟแวร์เป็นที่รู้จักในอายุเจ็ดสิบเก้าโดยนักวิจัย Belady และเลห์แมนที่ศึกษาวิธีการที่ระบบปฏิบัติการของไอบีเอ็ม 360 ชุดการพัฒนา หนึ่งในข้อความสำคัญของวิวัฒนาการของซอฟแวร์คือการที่ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่ต้องมีการแก้ไขอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน จุดหลักก็คือว่าอย่างต่อเนื่องทำให้โครงสร้างซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นเว้นแต่ความพยายามที่จะทำเพื่อลดความซับซ้อนปรับเปลี่ยนนี้ วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความซับซ้อนนี้คือการใช้เทคนิคที่เรียกว่า refactoring ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมที่สังเกตของซอฟแวร์ โปรแกรมเมอร์ที่ดีมักจะมีการปรับเปลี่ยนรหัสของพวกเขาในการปรับปรุงโครงสร้างของมันคือพวกเขาได้นำมาใช้ refactoring โดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม yyonly ในปีล่าสุดได้ทำให้มันเป็นที่นิยมมากขึ้น ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์จึงเพื่อที่จะระบุจุดที่ผู้สมัครสำหรับ refactoring ฟาวเลอร์และเบ็ค (Rowler และเบ็ค 2000 ให้รายชื่อของกลิ่นไม่ดีที่สามารถอยู่ในรหัสที่มา. มีกลิ่นไม่ดีคล้ายคลึงใกล้เคียงกับการพัฒนา AntiPatterns ระดับ (สีน้ำตาล et al. 1998) ซึ่งอธิบายถึงปัญหาที่แตกต่างกันเล็ก ๆ น้อย ๆ งานทางวิชาการที่ได้รับการดำเนินการเพื่อตรวจสอบปัญหาเหล​​่านี้ซึ่งได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในซอฟแวร์อินดัดังนั้นผมจึงรู้สึกว่ามีความจำเป็นสำหรับโครงสร้างซอฟต์แวร์ที่สามารถชนิดของการวิจัยทางวิชาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1.1.3 การวิจัยแรงจูงใจในกฎหมายของวิวัฒนาการของซอฟต์แวร์ที่ถูกแนะนำใน สิบเก้าเจ็ดสิบโดยนักวิจัย belady &เลห์แมนที่เรียนว่าระบบปฏิบัติการของ IBM 360 ชุดพัฒนา หนึ่งในข้อความหลักของวิวัฒนาการของซอฟต์แวร์เป็นผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่ต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันอีกประเด็นก็คือ อย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงสร้างซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกจากพยายามทำเพื่อลดการดัดแปลงของความซับซ้อน วิธีหนึ่งที่จะลดความซับซ้อนนี้จะใช้เทคนิคที่เรียกว่าวาริท , ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องเปลี่ยนซอฟต์แวร์สังเกตพฤติกรรม โปรแกรมเมอร์ที่ดีมีเสมอแก้ไขรหัสของพวกเขาเพื่อปรับปรุงโครงสร้างของมันคือพวกเขาใช้วาริทโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม yyonly ในปีที่ผ่านมาได้ทำให้มันเป็นที่นิยมมากขึ้น ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์ ดังนั้นในการระบุจุดสำหรับผู้สมัครวาริทฟาวเลอร์และเบ็ค ( rowler & Beck 2000 ให้รายการของกลิ่นที่สามารถมีได้ในรหัสแหล่งที่มากลิ่นคล้ายหมีปิด antipatterns ระดับการพัฒนา ( สีน้ำตาล et al . 1998 ) ซึ่งได้อธิบายปัญหาที่แตกต่างกันเล็ก ๆน้อย ๆผลงานทางวิชาการที่ได้รับการทำเพื่อตรวจสอบปัญหาเหล่านี้ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ดังนั้นผมรู้สึกว่าต้องมีโครงสร้างซอฟต์แวร์นี้สามารถชนิดของการวิจัยทางวิชาการ