Constructive feedback is important

Constructive feedback is important when working through any type of problem. Without providing feedback the situation is often left half handled and is more likely to become a problem again in the future. Although giving constructive feedback is a very important aspect of everyday life, one's ability to receive such feedback is of equally importance.

Feedback is vital to the overall improvement of one's self or of a team. You should not be surprised when you receive feedback nor should you stray from providing constructive peer feedback when necessary. A good way to set the stage for feedback amongst a group is to agree on guideline for providing such feedback. This will eliminate any misunderstanding when giving and receiving constructive feedback.

It is important to understand that feedback comes in two ways-Positive and Negative. If you want someone to consider your feedback and take note of it, then you must be sure to give both positive and negative feedback regularly. Too often, people tend to ignore times when good work should be acknowledged and only give feedback in a negative way relating to problems. This discredits the feedback that you give by creating a barrier between you and the person receiving the feedback.

Nobody wants to hear all about what they are doing wrong all the time without ever hearing about the things that they have done correctly. This overabundance of negative feedback will quickly become redundant and will not have the same effects as the combination of both positive and negative feedback combined. People are more likely to pay attention to complaints that you may have as long as they have received compliments from you as well.

When giving feedback in the form of complaints or compliments there are 5 guidelines that you should follow to make the feedback constructive.

#1: Be Descriptive about the Situation: By relating the actions to specific examples you are letting the respondent know that you have paid close attention and thought about what you are saying, not just randomly

#2: No Name Calling: Labels that describe behavior, such as unprofessional or undependable, are not received well by the feedback receiver. Avoid using such labels to describe behavior that you do not care for. Just because you are upset or do not like a behavior does not give the right to call names. Describe behaviors in a manner that does not use labels as this will be more receptive by the listener.

#3: Stay Exact: Do not over exaggerate the point and make it untrue. For instance, do not state that a person always does something wrong just because he or she may do it often. Always is a harsh word and could be unfair. By staying to the point and noting exact specifics you are telling the feedback receiver that you do pay attention.

#4: Do not Speak for Others: Speak only for yourself regarding issues that you have. Do not speak for others who are not present or for those who are. If there are others present during the constructive feedback session then they may choose to speak for themselves. State only the facts that you know and relate to and not what others may have told you.

#5: State your Feelings: Stating your feelings when you are providing constructive feedback will help to bring the receiver to an understanding of why you are saying certain things. Tell the receiver that you feel let down when they do certain things, or that you appreciate something. Make sure to let the feedback receiver know that you care about their thoughts as well by allowing them to have input into the conversation.

#6: Be Realistic: Do not set standards that are unrealistic and impossible to keep. Provide feedback often as a tool for both encouraging improvement and addressing concerns as well as to provide compliments on a job well done.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญเมื่อทำงานโดยใช้ชนิดของปัญหาใด ๆ โดยให้ผลป้อนกลับ สถานการณ์มักจะเหลือครึ่งหนึ่งที่จัดการ และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็น ปัญหาอีกในอนาคต แม้ว่าการให้คำติชมที่สร้างสรรค์เป็นลักษณะสำคัญของชีวิตประจำวัน ของความสามารถในการรับคำติชมดังกล่าวมีความสำคัญเท่า ๆ กันความคิดเห็นเป็นสำคัญโดยรวมปรับปรุงของตนเอง หรือ ของทีม คุณไม่ควรจะแปลกใจเมื่อคุณได้รับข้อเสนอแนะ หรือคุณควรหลงให้เพื่อนสร้างสรรค์ผลป้อนกลับเมื่อจำเป็น วิธีดีในการตั้งเวทีสำหรับผลป้อนกลับหมู่กลุ่มจะยอมรับแนวทางดังกล่าวป้อนกลับ นี้จะกำจัดเข้าใจผิดใด ๆ ให้ และรับคำติชมที่สร้างสรรค์จึงควรทำความเข้าใจว่า ผลป้อนกลับมาในสองวิธีบวกและลบ ถ้าคุณต้องพิจารณาข้อเสนอแนะ และรับทราบของผู้อื่น แล้วจะต้องให้ผลป้อนกลับทั้งบวก และลบเป็นประจำ บ่อยเกินไป คนมักจะ ละเว้นครั้งเมื่อทำงานที่ดีควรได้รับทราบ และให้ผลป้อนกลับในทางลบที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเฉพาะ ความคิดเห็นที่คุณแสดง โดยการสร้างกำแพงกั้นระหว่างคุณและผู้ที่ได้รับผลป้อนกลับ discredits นี้ไม่มีใครอยากฟังเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำผิดตลอดเวลาโดยไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้กระทำอย่างถูกต้อง นี้ overabundance ของการป้อนกลับเชิงลบจะได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นซ้ำซ้อน และจะไม่มีผลเป็นบวกทั้งสองชุดและการป้อนกลับเชิงลบเดียวกันรวมกัน คนมีแนวโน้มการร้องเรียนที่คุณได้ตราบใดที่พวกเขาได้รับชมเชยจากคุณเช่นกันเมื่อให้ผลป้อนกลับในรูปแบบของการร้องเรียนหรือชมเชยมี 5 แนวทางที่คุณควรทำตามเพื่อให้คำติชมสร้างสรรค์#1: เป็น Descriptive เกี่ยวกับสถานการณ์: โดยเกี่ยวข้องกับการดำเนินการบางอย่างคุณจะให้ผู้ตอบรู้ว่า คุณได้จ่ายความสนใจใกล้ชิด และคิดว่า เกี่ยวกับอะไรคุณกำลังพูด ไม่เพียงสุ่ม#2: ไม่มีชื่อเรียก: ไม่รับป้ายชื่อที่อธิบายถึงลักษณะการทำงาน เช่น undependable หรือสะอาด ดี โดยรับคำติชม หลีกเลี่ยงการใช้ป้ายชื่อดังกล่าวเพื่ออธิบายพฤติกรรมที่คุณไม่ดูแล เพียง เพราะคุณจะเสีย หรือไม่ชอบลักษณะการทำงาน ให้สิทธิในการเรียกชื่อ อธิบายลักษณะการทำงานในลักษณะที่ไม่ใช้ป้ายชื่อนี้จะเปิดกว้างมากขึ้น โดยการฟัง#3: Exact พัก: ไม่เกินจุดที่พูดเกินความจริง และทำจริง เช่น ไม่ระบุว่า บุคคลจะไม่สิ่งที่ไม่ถูกต้องเพียง เพราะเขาหรือเธออาจมักจะ มักจะเป็นคำที่รุนแรง และอาจไม่เป็นธรรม โดยเข้าพักไปยังจุดสังเกตประเภทแน่นอน คุณจะบอกรับคำติชมที่ คุณสนใจ#4: ไม่พูดคน: พูดเกี่ยวกับปัญหาที่คุณมีสำหรับตัวเองเท่านั้น พูด สำหรับคนที่ไม่มีอยู่ หรือที่ ถ้ามี ผู้อื่นนำเสนอในระหว่างรอบเวลาคำติชมที่สร้างสรรค์ แล้วพวกเขาอาจเลือกที่จะพูดด้วยตนเอง ระบุเฉพาะข้อเท็จจริงที่คุณรู้จัก และเกี่ยวข้องกับและสิ่งอื่น ๆ อาจได้บอกคุณ#5: รัฐของความรู้สึก: ระบุความรู้สึกของคุณเมื่อคุณให้คำติชมที่สร้างสรรค์จะช่วยให้ผู้รับความเข้าใจทำไมคุณกำลังพูดสิ่งบางอย่าง บอกผู้รับว่า ครับให้ลงเมื่อพวกเขาทำบางสิ่ง หรือว่า คุณชื่นชมสิ่งที่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าให้คำติชมผู้รับทราบว่า คุณดูแลเกี่ยวกับความคิดของตนเป็นอย่างดี โดยการอนุญาตให้มีการป้อนข้อมูลลงในการสนทนา#6: เป็น Realistic: ไม่ได้กำหนดมาตรฐานที่ จะไม่ไปให้ แสดงความคิดเห็นมักจะเป็นเครื่องมือส่งเสริมพัฒนา และแก้ปัญหาข้อสงสัยรวมทั้งเพื่อให้ชมเชยในงานที่ทำได้ดีขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญเมื่อการทำงานผ่านประเภทของปัญหาใด ๆ โดยไม่ต้องให้ข้อเสนอแนะสถานการณ์มักจะเหลือการจัดการช่วงครึ่งปีและมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นปัญหาอีกครั้งในอนาคต แม้ว่าจะให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญมากในชีวิตประจำวัน, ความสามารถของคนที่จะได้รับข้อเสนอแนะดังกล่าวมีความสำคัญเท่าเทียมกัน. ผลตอบรับมีความสำคัญต่อการปรับปรุงโดยรวมของตัวเองหรือของทีมงาน คุณไม่ควรจะประหลาดใจเมื่อคุณได้รับข้อเสนอแนะหรือคุณควรหลงทางจากเพียร์ให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์เมื่อมีความจำเป็น วิธีที่ดีที่จะตั้งเวทีสำหรับความคิดเห็นในกลุ่มคือการเห็นด้วยกับแนวทางในการให้ข้อเสนอแนะดังกล่าว นี้จะกำจัดความเข้าใจผิดใด ๆ เมื่อการให้และรับข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์. มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจว่าข้อเสนอแนะมาในสองวิธี-บวกและลบ หากคุณต้องการใครสักคนที่จะต้องพิจารณาความคิดเห็นของคุณและรับทราบของมันแล้วคุณจะต้องแน่ใจว่าจะให้ทั้งข้อเสนอแนะในเชิงบวกและเชิงลบอย่างสม่ำเสมอ บ่อยครั้งที่ผู้คนมักจะไม่สนใจเวลาที่ทำงานที่ดีควรจะได้รับการยอมรับและมีเพียงให้ข้อเสนอแนะในทางลบที่เกี่ยวข้องกับปัญหา discredits นี้ข้อเสนอแนะที่คุณให้โดยการสร้างกำแพงกั้นระหว่างคุณและบุคคลที่ได้รับข้อเสนอแนะ. ไม่มีใครอยากที่จะได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำผิดอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้ทำอย่างถูกต้อง overabundance ของลบความคิดเห็นนี้จะกลายเป็นได้อย่างรวดเร็วซ้ำซ้อนและจะไม่ได้มีผลกระทบเช่นเดียวกับการรวมกันของการตอบรับทั้งบวกและลบรวมกัน คนมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับการร้องเรียนว่าคุณอาจมีตราบเท่าที่พวกเขาได้รับการชมเชยจากคุณเช่นกัน. เมื่อให้ข้อเสนอแนะในรูปแบบของการร้องเรียนหรือชมเชยมี 5 แนวทางที่คุณควรปฏิบัติตามเพื่อให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์. # 1: Be บรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์: โดยการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับตัวอย่างเฉพาะที่คุณจะให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าคุณได้จ่ายเงินให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดและความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดไม่ได้เป็นเพียงการสุ่ม# 2: ไม่มีชื่อเรียกฉลากที่อธิบายพฤติกรรม เช่นไม่เป็นมืออาชีพหรืออาศัยไม่ได้จะไม่ได้รับอย่างดีจากรับข้อเสนอแนะ หลีกเลี่ยงการใช้ป้ายดังกล่าวเพื่ออธิบายพฤติกรรมที่คุณไม่ดูแล เพียงเพราะคุณจะไม่พอใจหรือไม่ชอบพฤติกรรมที่ไม่ได้ให้สิทธิในการเรียกชื่อ อธิบายพฤติกรรมในลักษณะที่ไม่ได้ใช้ป้ายเช่นนี้จะเปิดกว้างมากขึ้นโดยผู้ฟัง. # 3: พักลำดับ: ไม่เกินโอ้อวดจุดและทำให้มันเป็นจริง ยกตัวอย่างเช่นไม่ได้ระบุว่าคนที่มักจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้องเพียงเพราะเขาหรือเธออาจจะทำมันมักจะ เสมอเป็นคำที่รุนแรงและอาจจะไม่เป็นธรรม โดยการเข้าพักไปยังจุดและสังเกตรายละเอียดที่แน่นอนที่คุณกำลังบอกรับข้อเสนอแนะที่คุณทำให้ความสนใจ. # 4: อย่าพูดสำหรับอื่น ๆ : พูดเท่านั้นเองเกี่ยวกับปัญหาที่คุณมี อย่าพูดให้คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่หรือสำหรับผู้ที่มี หากมีคนอื่น ๆ ที่อยู่ในระหว่างเซสชั่นความคิดเห็นที่สร้างสรรค์อยู่แล้วพวกเขาก็อาจเลือกที่จะพูดสำหรับตัวเอง รัฐเพียงข้อเท็จจริงที่คุณรู้และเกี่ยวข้องกับและไม่สิ่งที่คนอื่นอาจจะบอกคุณ. # 5: รัฐความรู้สึกของคุณ: ระบุความรู้สึกของคุณเมื่อคุณได้ให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์จะช่วยให้เพื่อนำมารับเพื่อความเข้าใจในเหตุผลที่คุณพูดบางอย่าง สิ่งที่ บอกรับสัญญาณที่คุณรู้สึกว่าให้ลงเมื่อพวกเขาทำบางสิ่งบางอย่างหรือว่าคุณชื่นชมบางสิ่งบางอย่าง ตรวจสอบให้แน่ใจที่จะให้รับข้อเสนอแนะที่ได้รู้ว่าคุณดูแลเกี่ยวกับความคิดของพวกเขาได้เป็นอย่างดีโดยให้พวกเขาที่จะมีการป้อนข้อมูลเข้าสู่การสนทนา. # 6: ความเป็นจริง: ไม่กำหนดมาตรฐานที่ไม่สมจริงและเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ ให้ข้อเสนอแนะมักจะเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงทั้งให้กำลังใจและอยู่ในความกังวลเช่นเดียวกับการที่จะให้การชมเชยในงานที่ทำได้ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์เป็นสำคัญเมื่อทำงานกับชนิดของปัญหาใด ๆ ไม่มีการให้ข้อมูลย้อนกลับสถานการณ์มักจะเหลือครึ่ง จัดการ และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นปัญหาอีกในอนาคต แม้ว่าการให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์เป็นด้านที่สำคัญมากของชีวิต มีความสามารถในการรับข้อมูลดังกล่าวเป็นเท่าเทียมกันที่สำคัญ

ความคิดเห็นที่สําคัญในการพัฒนาโดยรวมของตนเองหรือของทีมงาน คุณไม่ควรแปลกใจเมื่อคุณได้รับข้อเสนอแนะหรือควรคุณหลงทางจากเพื่อนให้ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์เมื่อจำเป็น เป็นวิธีที่ดีที่จะตั้งเวทีสำหรับความคิดเห็นในกลุ่ม คือ เห็นด้วยกับแนวทางการให้ตอบรับดังกล่าวนี้จะขจัดความเข้าใจผิดใด ๆเมื่อมีการให้และรับข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์

มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจว่า ติชมมาได้สองวิธีทางบวก และลบ ถ้าคุณต้องการใครสักคนที่จะพิจารณาความคิดเห็นของคุณและจดมันแล้วคุณต้องให้แน่ใจว่าได้ให้ข้อมูลทั้งด้านบวกและด้านลบเสมอ บ่อยเกินไปคนมักจะไม่สนใจเวลาทำงานที่ดีควรรับทราบและให้ข้อเสนอแนะในด้านลบที่เกี่ยวข้องกับปัญหา นี้ discredits ความคิดเห็นที่คุณให้โดยการสร้างสิ่งกีดขวางระหว่างคุณและผู้ได้รับความคิดเห็น

ไม่มีใครต้องการที่จะได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอะไรผิดอยู่ตลอดเวลาโดยไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้กระทำอย่างถูกต้องนี้ overabundance ของความคิดเห็นเชิงลบจะกลายเป็นซ้ำซ้อน และจะไม่มีผลเช่นเดียวกับการรวมกันของทั้งบวกและลบความคิดเห็นรวม คนน่าจะให้ความสนใจกับข้อร้องเรียนที่คุณอาจได้ตราบเท่าที่พวกเขาได้รับคำชมจากคุณเช่นกัน

เมื่อการให้ผลป้อนกลับในแบบฟอร์มการร้องเรียนหรือชมเชย มี 5 แนวทางที่คุณควรปฏิบัติตามเพื่อให้ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์

# 1 : ได้รับการบรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์ : โดยเกี่ยวข้องกับการกระทำของตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจงที่คุณกำลังให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าคุณได้จ่ายปิดสนใจและคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูด ไม่ใช่แค่ สุ่ม

# 2 : ไม่มีชื่อเรียก :ป้ายที่อธิบายพฤติกรรมเช่นพจน์หรือพึ่งพาไม่ได้ ไม่ ได้รับ โดยความคิดเห็นของผู้รับ หลีกเลี่ยงการใช้ป้ายดังกล่าว เพื่ออธิบายพฤติกรรมที่คุณไม่ได้ดูแล แค่เพราะคุณโกรธหรือไม่ชอบพฤติกรรมที่ไม่ให้สิทธิในการเรียกชื่อ อธิบายพฤติกรรมในลักษณะที่ไม่ใช้ป้ายนี้จะเปิดกว้างมากขึ้น โดยผู้ฟัง

# 3 :อยู่ที่ : อย่ามาโม้จุดและทำให้มันจริง ตัวอย่าง ไม่ระบุว่าเป็นคนที่มักจะทำอะไรผิดเพียงเพราะเขาหรือเธออาจจะทำมันบ่อยๆ มักจะเป็นคำที่รุนแรงและอาจจะไม่ยุติธรรม โดยการไปยังจุดที่แน่นอนที่คุณจะสังเกตรายละเอียดและบอกความคิดเห็นผู้รับที่คุณตั้งใจ #

4 : อย่าพูดให้ผู้อื่น :พูดสำหรับตัวเองเกี่ยวกับปัญหาที่คุณมี อย่าพูดให้คนอื่นที่ไม่ได้เป็นปัจจุบันหรือสำหรับผู้ที่เป็น หากมีใครเสนอความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ในช่วงนั้นพวกเขาอาจเลือกที่จะพูดสำหรับตัวเอง สภาพข้อเท็จจริงเท่านั้นที่รู้ และ สัมพันธ์ และไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นอาจจะบอกคุณ

# 5 : สภาพความรู้สึกของคุณ :บอกความรู้สึกของคุณเมื่อคุณจะให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ จะช่วยให้ผู้รับเพื่อความเข้าใจว่าทำไมคุณพูดบางสิ่ง บอกรับที่คุณรู้สึกว่าให้ลง เมื่อพวกเขาทำสิ่งบางอย่างหรือที่คุณชื่นชมอะไรซักอย่างให้ข้อมูลรับรู้ว่าคุณแคร์ความคิดของตนเองได้เป็นอย่างดี โดยการอนุญาตให้พวกเขาที่จะใส่เข้าไปในการสนทนา

# 6 : มีเหตุผล : ไม่ได้ตั้งค่ามาตรฐานที่สมจริงและเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บ ความคิดเห็นที่มักจะเป็นเครื่องมือสำหรับทั้งส่งเสริมการปรับปรุงและความกังวลเช่นเดียวกับการให้การชมเชยในงานที่ทำได้ดี