For most people, it is virtually im

For most people, it is virtually impossible to go through
the day without seeing advertisements. From the time
we wake up and flip on the TV or check our email,
we are surrounded by advertisements. They are in
magazines, on buses, on billboards, online, and on
buildings, to name just a few of the places we see them throughout the day. According to a recent study,
the average person is exposed to between 400 and 600 advertisements each day. Th is means that by the
time we are 60, we will have been exposed to 40 to 50 million advertisements!
In the past, advertisements were usually designed to reach people in their homes through traditional
approaches, like TV commercials and newspaper and magazine ads. However, people’s viewing habits
have changed dramatically in the last couple of decades. These days, people are less likely to give one
form of media their full attention. For example, even if someone is watching TV, they are also often
using the Internet at the same time. Advertisers need the consumer’s attention in order to promote
their products. But because getting this attention is harder than it used to be, advertisers have been
forced to find new ways of reaching the consumer.
One unconventional place advertisements are popping up is in doctors’ offices. In some doctors’
offices, pharmaceutical companies advertise products on everything from boxes of tissues to the paper
covering the exam table. Doctors get free products, and the advertisers get the consumer’s attention.
Similarly, advertisements are becoming more common in schools. “Free” products such as book covers
and educational posters are offered by companies so that the company can advertise on these materials.
In the U.S., a company called Channel One broadcasts a ten-minute news program followed by two
minutes of commercials each day in 350,000 schools. Because the schools show these news programs,
the companies give them thousands of dollars worth of much needed audiovisual equipment.
Advertisers have found that one of the best ways to get consumer attention is to place ads in unusual
places. So, ads are popping up in all kinds of unexpected places like pizza boxes, grocery carts, air
sickness bags on airplanes, and even on pieces of food like bananas and apples. A television network
recently imprinted its logo on 35 million eggs. They called the approach “egg-vertisements.”
One of the strangest developments in advertising has been people selling advertising space on
themselves! Th is mini-trend began in 2005 when a man offered his face for advertising to the highest
bidder on eBay. A pharmaceutical company won the spot, paying the man $37,375 to place a
temporary sticker on his forehead to advertise one of their products. He may have been the first to
off er such an unusual exchange, but he was not the last.
Perhaps the sneakiest form of advertising is called buzz marketing. Th is involves a company hiring
people to create excitement about a product. In exchange for free products or money, these people

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับคนส่วนใหญ่ หายไปผ่านวันโดยไม่ดูโฆษณา จากเวลาเราตื่นพลิกบนทีวี หรือตรวจสอบอีเมล์ของเราเราถูกล้อมรอบ ด้วยโฆษณา อยู่ในนิตยสาร บนรถ ป้าย โฆษณา ออนไลน์ และการอาคาร การตั้งชื่อเพียงไม่กี่สถานที่ที่ เราเห็นพวกเขาตลอดทั้งวัน ตามการศึกษาล่าสุดคนเฉลี่ยสัมผัสกับระหว่าง 400 และ 600 โฆษณาในแต่ละวัน Th คือ หมายความ ว่า โดยเวลาเรามี 60 เราจะได้สัมผัส 40 เพื่อโฆษณา 50 ล้านในอดีต โฆษณามักจะออกแบบมาให้เข้าถึงคนในบ้านของพวกเขาแบบดั้งเดิมแจ้ง เช่นโฆษณาทางโทรทัศน์และโฆษณาหนังสือพิมพ์และนิตยสาร อย่างไรก็ตาม คนของดูนิสัยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในสองทศวรรษที่ผ่านมา วันนี้ คนมีแนวโน้มให้หนึ่งรูปแบบของสื่อของพวกเขาดึงดูด ตัวอย่าง แม้ว่าคนจะดูโทรทัศน์ พวกเขามักยังใช้อินเทอร์เน็ตในเวลาเดียวกัน ผู้โฆษณาต้องการความสนใจของผู้บริโภคเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของพวกเขา แต่เนื่องจากได้รับความสนใจนี้เป็นหนักกว่าควรจะเป็น ผู้โฆษณาได้บังคับให้หาวิธีใหม่ในการเข้าถึงผู้บริโภคหนึ่งโฆษณากระเป๋าที่มี popping ขึ้นเป็นสำนักงานของแพทย์ ในการแพทย์บางคนผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจากกล่องกระดาษทิชชู่พิมพ์ในสำนักงาน ลงโฆษณาบริษัทยาครอบคลุมตารางสอบ แพทย์ได้รับผลิตภัณฑ์ฟรี และผู้โฆษณาที่ได้รับความสนใจของผู้บริโภคในทำนองเดียวกัน โฆษณาจะกลายเป็นทั่วไปในโรงเรียน ผลิตภัณฑ์ "ฟรี" เช่นหนังสือครอบคลุมและโปสเตอร์เพื่อการศึกษาจะนำเสนอ โดยบริษัทเพื่อให้บริษัทสามารถโฆษณาบนในสหรัฐอเมริกา บริษัทเรียกว่าออกอากาศช่องหนึ่งโปรแกรมข่าวสิบนาทีตาม ด้วยสองนาทีของโฆษณาแต่ละวันในโรงเรียน 350000 เนื่องจากโรงเรียนการแสดงโปรแกรมข่าวเหล่านี้บริษัทให้เขาพันดอลลาร์มูลค่าของมากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ภาพและเสียงผู้โฆษณาพบว่า หนึ่งในวิธีที่สุดจะได้รับความสนใจผู้บริโภคจะทำโฆษณาในผิดปกติสถาน ดังนั้น โฆษณาจะ popping ขึ้นในทุกสถานไม่คาดคิดเช่นรถร้านขายของชำ กล่องพิซซ่า อากาศโรคถุง บนเครื่องบิน และแม้แต่ชิ้นส่วนของอาหารเช่นกล้วยและแอปเปิ้ล เครือข่ายโทรทัศน์เพิ่ง ติดตราโลโก้ของบนไข่ 35 ล้านบาท พวกเขาเรียกว่าวิธีการ "ไข่-vertisements"หนึ่งของการพัฒนาที่แปลกประหลาดในโฆษณาแล้วคนขายเนื้อที่โฆษณาในตัวเอง Th คือ แนวโน้มมินิเริ่มต้นในปี 2005 เมื่อคนเสนอหน้าสำหรับโฆษณาสูงประมูลบนอีเบย์ บริษัทยาชนะจุด จ่ายคน $37,375 เพื่อทำการชั่วคราวสติกเกอร์บนหน้าผากของเขาเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ของพวกเขาอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาอาจได้รับก่อนปิดเอ้อ เช่นการแลกเปลี่ยนปกติ แต่เขาไม่ได้สุดท้ายบางทีแบบ sneakiest ของโฆษณาจะเรียกว่าตลาด buzz Th คือ เกี่ยวข้องกับบริษัทจ้างคนที่สร้างความตื่นเต้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ แลกเปลี่ยนสินค้าฟรี หรือเงิน คนเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับคนส่วนใหญ่มันเป็นไปไม่ได้จริงที่จะไปผ่านวันโดยไม่ต้องเห็นโฆษณา
จากเวลาที่เราตื่นขึ้นมาและพลิกทีวีหรือตรวจสอบอีเมลของเราเราถูกล้อมรอบโดยการโฆษณา พวกเขาอยู่ในนิตยสารบนรถเมล์บนป้ายโฆษณาออนไลน์และอาคารเพื่อชื่อเพียงไม่กี่ของสถานที่ที่เราเห็นพวกเขาตลอดทั้งวัน ตามการศึกษาที่ผ่านมาคนเฉลี่ยมีการสัมผัสกับระหว่าง 400 และ 600 การโฆษณาในแต่ละวัน Th จะหมายความว่าโดยเวลาที่เราอยู่ที่60 เราจะได้สัมผัสกับ 40-50000000 โฆษณา! ในอดีตที่ผ่านมาได้รับการออกแบบโฆษณามักจะไปถึงคนที่อยู่ในบ้านของพวกเขาผ่านทางแบบดั้งเดิมวิธีการเช่นเดียวกับโฆษณาทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์และนิตยสารโฆษณา แต่นิสัยการดูผู้คนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในคู่สุดท้ายของทศวรรษที่ผ่านมา วันนี้คนที่มีโอกาสน้อยที่จะให้หนึ่งในรูปแบบของสื่อให้ความสนใจเต็มของพวกเขา ตัวอย่างเช่นแม้ว่าบางคนจะดูทีวีพวกเขาก็มักจะใช้อินเทอร์เน็ตในเวลาเดียวกัน ผู้ลงโฆษณาต้องให้ความสนใจของผู้บริโภคเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของตน แต่เนื่องจากได้รับความสนใจนี้เป็นงานหนักกว่าที่เคยเป็นโฆษณาที่ได้รับการบังคับให้หาวิธีการใหม่ ๆ ในการเข้าถึงผู้บริโภค. หนึ่งในสถานที่ที่ไม่เป็นทางการโฆษณา popping ขึ้นอยู่ในสำนักงานแพทย์ ในบางแพทย์สำนักงาน บริษัท ยาโฆษณาสินค้าทุกอย่างจากกล่องของเนื้อเยื่อกระดาษครอบคลุมตารางการสอบ แพทย์ได้รับผลิตภัณฑ์ฟรีและโฆษณาได้รับความสนใจของผู้บริโภค. ในทำนองเดียวกันการโฆษณาจะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในโรงเรียน "ฟรี" ผลิตภัณฑ์เช่นปกหนังสือและโปสเตอร์การศึกษาที่นำเสนอโดยบริษัท เพื่อให้ บริษัท สามารถโฆษณาบนวัสดุเหล่านี้. ในสหรัฐอเมริกา, บริษัท ที่เรียกว่าช่องหนึ่งออกอากาศรายการข่าวสิบนาทีตามมาด้วยสองนาทีของการโฆษณาในแต่ละวัน350,000 โรงเรียน เพราะโรงเรียนแสดงรายการข่าวเหล่านี้บริษัท จะให้พวกเขาหลายพันดอลลาร์มูลค่าของอุปกรณ์ภาพและเสียงที่จำเป็นมาก. โฆษณาได้พบว่าหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้รับความสนใจของผู้บริโภคที่จะวางโฆษณาในที่ผิดปกติสถานที่ ดังนั้นโฆษณา popping ขึ้นในทุกชนิดในสถานที่ที่ไม่คาดคิดเช่นกล่องพิซซ่า, รถขายของชำอากาศถุงเจ็บป่วยบนเครื่องบินและแม้กระทั่งในชิ้นส่วนของอาหารเช่นกล้วยและแอปเปิ้ล เครือข่ายโทรทัศน์เมื่อเร็ว ๆ นี้ตราตรึงใจโลโก้บน 35 ล้านไข่ พวกเขาเรียกวิธีการ "ไข่ vertisements." หนึ่งของการพัฒนาที่แปลกประหลาดในการโฆษณาได้รับคนขายพื้นที่โฆษณาบนตัวเอง! Th เป็นมินิแนวโน้มเริ่มต้นขึ้นในปี 2005 เมื่อชายคนหนึ่งที่นำเสนอใบหน้าของเขาสำหรับการโฆษณาที่สูงที่สุดที่จะชนะการประมูลบนอีเบย์ บริษัท ยาได้รับรางวัลจุดจ่าย $ 37,375 คนที่จะวางสติกเกอร์ชั่วคราวบนหน้าผากของเขาในการโฆษณาหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เขาอาจจะเป็นคนแรกที่ออกเอ้อเช่นการแลกเปลี่ยนที่ผิดปกติ แต่เขาก็ไม่ได้สุดท้าย. บางทีอาจจะเป็นรูปแบบของการโฆษณา Sneakiest เรียกว่าการตลาดฉวัดเฉวียน Th จะเกี่ยวข้องกับ บริษัท ที่จ้างคนที่จะสร้างความตื่นเต้นเกี่ยวกับสินค้า ในการแลกเปลี่ยนสำหรับผลิตภัณฑ์ฟรีหรือเงินคนเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับคนส่วนใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปผ่าน
วันโดยไม่ได้โฆษณา จากเวลา
เราตื่นและพลิกบนทีวีหรือตรวจสอบอีเมลของเรา
เราถูกล้อมรอบด้วยโฆษณา พวกเขาอยู่ใน
นิตยสาร บนรถเมล์ บนป้ายโฆษณา ออนไลน์ และบน
อาคารเพื่อชื่อเพียงไม่กี่ ของ สถานที่ ที่เราเห็นตลอดทั้งวัน ตามการศึกษาล่าสุด
คนเฉลี่ยเปิดรับระหว่าง 400 และ 600 โฆษณาในแต่ละวัน จะหมายความว่าโดย
เวลาเรา 60 , เราจะถูก 40 ถึง 50 ล้านโฆษณา !
ในอดีต โฆษณา มักจะออกแบบให้เข้าถึงประชาชนในบ้านของพวกเขาผ่านวิธีการแบบดั้งเดิม
เช่นโฆษณาทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์และนิตยสารโฆษณา อย่างไรก็ตาม ประชาชนดูนิสัย
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในคู่สุดท้ายของทศวรรษ วันนี้คนน้อยโอกาสที่จะให้หนึ่ง
รูปแบบของสื่อให้ความสนใจเต็ม ตัวอย่างเช่น คนที่ดูทีวี พวกเขายังมักจะ
ใช้อินเทอร์เน็ตในเวลาเดียวกัน ผู้โฆษณาต้องการความสนใจของผู้บริโภคเพื่อส่งเสริม
ผลิตภัณฑ์ของตน แต่เนื่องจากได้รับความสนใจนี้มันยากกว่าที่เคยเป็นผู้โฆษณาได้รับ
บังคับเพื่อค้นหาวิธีใหม่ในการเข้าถึงผู้บริโภค
หนึ่งแหวกแนวสถานที่การโฆษณา popping ขึ้นในสำนักงานของแพทย์ ในบางส่วนของแพทย์
สำนักงาน บริษัทเภสัชกรรมโฆษณาผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจากกล่องกระดาษทิชชู่กระดาษ
ครอบคลุมการสอบในตาราง แพทย์ได้รับผลิตภัณฑ์ฟรีและผู้โฆษณาได้รับความสนใจของผู้บริโภค .
ในทํานองเดียวกันโฆษณาจะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในโรงเรียน " ฟรี " ผลิตภัณฑ์เช่นปกหนังสือโปสเตอร์
และการศึกษามีการเสนอโดย บริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถโฆษณาบนวัสดุเหล่านี้ .
ในสหรัฐอเมริกา บริษัท ที่เรียกว่าช่องออกอากาศรายการข่าว สิบ นาที ตามด้วยสอง
นาทีของโฆษณาทุกวัน 350 , 000 โรงเรียน แสดงรายการข่าว เพราะโรงเรียนนี้
บริษัท ให้พันดอลลาร์มูลค่าของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ที่จำเป็นมาก .
โฆษณาพบว่า หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้รับความสนใจของผู้บริโภคคือการวางโฆษณาในสถานที่ที่ผิดปกติ

ดังนั้นโฆษณาจะ popping ขึ้นในทุกประเภทของสถานที่ที่ไม่คาดคิดเช่นกล่องพิซซ่าร้านขายของชำ , รถเข็น , เครื่อง
โรคถุงบนเครื่องบินและแม้แต่ชิ้นส่วนของอาหาร เช่น กล้วย และแอปเปิ้ล เครือข่ายโทรทัศน์
เมื่อเร็วๆ นี้ ติดตราโลโก้ของ 35 ล้านไข่ พวกเขาเรียกว่าวิธี " ไข่ vertisements "
หนึ่งของการพัฒนาที่แปลกที่สุดในโฆษณามีคนขายพื้นที่โฆษณาบน
ตัวเอง ! แนวโน้ม th เป็น มินิ เริ่มในปี 2005 เมื่อผู้ชายให้ใบหน้าของเขาเพื่อโฆษณาให้กับผู้ประมูลสูงสุด
บนอีเบย์ บริษัทยาก็จะจุดจ่ายคน $ 37375 สถานที่
สติกเกอร์ชั่วคราวบนหน้าผากของเขาเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เขาอาจเป็นครั้งแรก

ปิดเอ้อเช่นแลกเปลี่ยนที่ผิดปกติ แต่เขาก็ไม่ใช่คนสุดท้าย
บางทีน่ากลัวรูปแบบของการโฆษณาเรียกว่าการตลาดปากต่อปาก จะเกี่ยวข้องกับการว่าจ้างบริษัท
คนเพื่อสร้างความตื่นเต้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ในการแลกเปลี่ยนสำหรับผลิตภัณฑ์ฟรีหรือเงิน คนพวกนี้