The study protocol was approved by

The study protocol was approved by ethics committee at the College of Dentistry Research Center, King Saud University and Ministry of Education, Saudi Arabia.

Eight intermediate public and four private schools were selected randomly from the four different administrative zones [north, south, east and west] in Riyadh City. The number of selected students for each zone was based on the number of schools and number of the students enrolled in them. Data for this study was obtained through the use of a self-administered Arabic questionnaire. The questionnaire was pretested to ensure items clarity and modifications were done accordingly. Six hundred questionnaires were distributed to the students. The students were requested to answer the questionnaire in their class rooms in the presence of their teachers and the investigator. However, participation in the study was voluntary. Questions from the students regarding the meaning of the words were allowed and answers of questions were loudly announced to other students. The questionnaire consisted of the following:

Socio-demographic variables including age, nationality and parental education.
Participant’s self-rating of their own oral health status.
Frequency of use of oral health care services during the last 2 years.
Type of the dental clinic visited.
Reason for the dental visit.
Level of satisfaction with the last visit.
Factors determining their decision for choosing or encouraging their use of the dental clinic.
Factors determining their decision for dropping or discouraging their utilization of the dental clinic.
The data were coded and entered into a computer. Statistical Package for Social Science (SPSS ver. 13) was utilized to calculate descriptive statistics and statistical tests. T-test was used to determine if the observed differences between factors encouraging/discouraging the participants for using dental services and other contributing factors were statistically significant. Contributed factors include: type of clinic, type of visit, frequency of visit and self-rated oral health. The significant level was set at 0.05.

3. Results
Of the 600 questionnaires distributed to the students, 597 questionnaires were returned. Three questionnaires were not filled due to the absence of the students. Sixty-six students (11.1%) were excluded from the study because they reported that they did not visit the dentist during the last 2 years. Therefore, 531 students were included in this study. Table 1 presents the socio-demographic characteristics of the study sample and the dental health care related variables.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

The study protocol was approved by ethics committee at the College of Dentistry Research Center, King Saud University and Ministry of Education, Saudi Arabia.Eight intermediate public and four private schools were selected randomly from the four different administrative zones [north, south, east and west] in Riyadh City. The number of selected students for each zone was based on the number of schools and number of the students enrolled in them. Data for this study was obtained through the use of a self-administered Arabic questionnaire. The questionnaire was pretested to ensure items clarity and modifications were done accordingly. Six hundred questionnaires were distributed to the students. The students were requested to answer the questionnaire in their class rooms in the presence of their teachers and the investigator. However, participation in the study was voluntary. Questions from the students regarding the meaning of the words were allowed and answers of questions were loudly announced to other students. The questionnaire consisted of the following:Socio-demographic variables including age, nationality and parental education.Participant’s self-rating of their own oral health status.Frequency of use of oral health care services during the last 2 years.Type of the dental clinic visited.Reason for the dental visit.Level of satisfaction with the last visit.Factors determining their decision for choosing or encouraging their use of the dental clinic.ปัจจัยที่กำหนดตัดสินใจปล่อย หรือท้อใจของพวกเขาใช้ประโยชน์จากคลินิกทันตกรรมข้อมูลถูกเข้ารหัส และป้อนเข้าสู่คอมพิวเตอร์ แพคเกจทางสถิติสำหรับสังคมศาสตร์ (SPSS ver. 13) ถูกนำมาใช้ในการคำนวณสถิติเชิงพรรณนาและการทดสอบทางสถิติ ทดสอบ T ถูกใช้เพื่อกำหนดว่าถ้าความแตกต่างที่สังเกตได้ระหว่างปัจจัยส่งเสริม/ท้อใจร่วมใช้บริการทันตกรรมและปัจจัยอื่น ๆ ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ รวมปัจจัยคงไม่สนุก: ชนิดของคลินิก ชนิดเยี่ยม ความถี่ในการเยี่ยมชมและสุขภาพช่องปากตนเองได้คะแนน มีการตั้งค่าระดับนัยสำคัญที่ 0.053. ผลลัพธ์การ 600 แบบสอบถามแจกให้กับนักเรียน 597 แบบสอบถามส่งกลับ สามถามได้ไม่เต็มเนื่องจากขาดของนักเรียน หกสิบหกนักเรียน (11.1%) ถูกแยกออกจากการศึกษาได้เนื่องจากพวกเขารายงานว่า พวกเขาไม่ได้พบทันตแพทย์ในระยะ 2 ปี ดังนั้น นักศึกษา 531 ถูกรวมอยู่ในการศึกษานี้ ตารางที่ 1 แสดงลักษณะทางประชากรและสังคมของตัวอย่างที่ศึกษาและตัวแปรที่เกี่ยวข้องดูแลสุขภาพฟัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โปรโตคอลการศึกษาได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมที่วิทยาลัยทันตกรรมศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยซูดคิงและกระทรวงศึกษาธิการ, ซาอุดีอาระเบีย.

แปดสาธารณะกลางและสี่โรงเรียนเอกชนได้รับการคัดเลือกโดยการสุ่มจากโซนการบริหารสี่ที่แตกต่างกัน [ทิศเหนือทิศใต้ทิศตะวันออกและ เวสต์] ในริยาดเมือง จำนวนนักเรียนที่เลือกสำหรับแต่ละโซนก็ขึ้นอยู่กับจำนวนของโรงเรียนและจำนวนนักเรียนที่สมัครในพวกเขา ข้อมูลสำหรับการศึกษาครั้งนี้ได้รับผ่านการใช้งานของตัวเองแบบสอบถามอาหรับ แบบสอบถาม pretested ความชัดเจนเพื่อให้แน่ใจว่าการปรับเปลี่ยนรายการและได้ทำตาม หกร้อยแบบสอบถามแจกจ่ายให้กับนักเรียน นักเรียนได้รับการร้องขอที่จะตอบแบบสอบถามในห้องเรียนของพวกเขาในการแสดงตนของครูและผู้ตรวจสอบของพวกเขา อย่างไรก็ตามการมีส่วนร่วมในการศึกษาเป็นความสมัครใจ คำถามจากนักเรียนเกี่ยวกับความหมายของคำได้รับอนุญาตและคำตอบของคำถามที่ได้รับการประกาศเสียงดังกับนักเรียนคนอื่น แบบสอบถามประกอบด้วยต่อไปนี้:

. ตัวแปรทางสังคมและประชากรรวมทั้งอายุสัญชาติและการศึกษาของผู้ปกครอง
. ผู้เข้าร่วมการประเมินตนเองของสถานะสุขภาพช่องปากของตัวเอง
. ความถี่ของการใช้บริการการดูแลสุขภาพช่องปากในช่วง 2 ปีที่
ประเภทของคลินิกทันตกรรมเข้าเยี่ยมชม .
เหตุผลในการเข้าชมทันตกรรม.
ระดับความพึงพอใจกับการเข้าชมที่ผ่านมา.
ปัจจัยที่กำหนดตัดสินใจของพวกเขาสำหรับการเลือกหรือการส่งเสริมการใช้งานของคลินิกทันตกรรม.
ปัจจัยที่กำหนดตัดสินใจของพวกเขาสำหรับการวางหรือท้อใจการใช้ประโยชน์ของคลินิกทันตกรรม.
ข้อมูลถูกเข้ารหัสและ ป้อนเข้าสู่คอมพิวเตอร์ สถิติแพคเกจสำหรับสังคมศาสตร์ (SPSS Ver. 13) มาใช้ในการคำนวณสถิติเชิงพรรณนาและการทดสอบทางสถิติ t-test ถูกใช้ในการตรวจสอบว่ามีความแตกต่างที่สังเกตเห็นระหว่างปัจจัยส่งเสริมให้ / ท้อใจผู้เข้าร่วมในการใช้บริการทางทันตกรรมและปัจจัยอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ปัจจัยที่มีส่วนรวมถึงประเภทของคลินิกประเภทของการเยี่ยมชมความถี่ของการเข้าพักและสุขภาพช่องปากด้วยตนเองจัดอันดับ ระดับนัยสำคัญถูกกำหนดไว้ที่ 0.05.

3 ผลการค้นหา
600 แบบสอบถามแจกจ่ายให้กับนักเรียน 597 แบบสอบถามกลับ สามแบบสอบถามไม่เต็มไปเนื่องจากขาดของนักเรียน หกสิบหกคน (11.1%) ได้รับการยกเว้นจากการศึกษาเพราะพวกเขารายงานว่าพวกเขาไม่ได้พบทันตแพทย์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นนักเรียน 531 ถูกรวมอยู่ในการศึกษาครั้งนี้ ตารางที่ 1 นำเสนอลักษณะทางสังคมและประชากรของกลุ่มตัวอย่างและตัวแปรการดูแลสุขภาพฟันที่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาขั้นตอนที่ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการจริยธรรมในการวิจัยของวิทยาลัยศูนย์ทันตกรรม , King Saud University และกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศซาอุดิอารเบียแปดกลางสาธารณะและส่วนตัวสี่โรงเรียนที่ถูกเลือกแบบสุ่มจาก 4 โซน [ การบริหารเหนือ , ใต้ , ตะวันออกและตะวันตกในเมืองริยาด . จำนวนนักศึกษาในแต่ละโซน ขึ้นอยู่กับจำนวนของโรงเรียนและจำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนใน ข้อมูลในการวิจัยได้จากการใช้แบบสอบถามเพื่อสำรวจภาษาอาหรับ . แบบสอบถามเพื่อให้รายการที่ชัดเจนและการปรับเปลี่ยน ทำตาม หกร้อยได้แจกแบบสอบถามให้กับนักเรียน นักเรียนขอตอบแบบสอบถามในห้องเรียนของพวกเขาในการแสดงตนของครูและนักสอบสวน อย่างไรก็ตาม , การมีส่วนร่วมในการศึกษา คือ อาสาสมัคร คำถามจากนักเรียนเกี่ยวกับความหมายของคำที่ได้รับอนุญาตและคำตอบของคำถามคือเสียงดังประกาศให้นักเรียนคนอื่น ๆ แบบสอบถามที่ประกอบด้วยต่อไปนี้ :ปัจจัยทางสังคม ได้แก่ อายุ สัญชาติ และผู้ปกครองการศึกษาผู้เข้าร่วมของตนเอง การประเมินสภาวะสุขภาพช่องปากของตนเองความถี่ในการใช้บริการการดูแลสุขภาพช่องปากในช่วง 2 ปีประเภทของคลินิกทันตกรรม เข้าเยี่ยมชมเหตุผลสำหรับการเข้าชมทางทันตกรรมระดับของความพึงพอใจกับการเยี่ยมชมล่าสุดปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกหรือให้ใช้ของคลินิกทันตกรรมปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพวกเขาสำหรับการวางหรือท้อใจใช้ของคลินิกทันตกรรม .ข้อมูลรหัสและใส่ลงในคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ ( SPSS Ver . 13 ) ใช้ในการคำนวณสถิติเชิงพรรณนา และทดสอบทางสถิติ สถิติเพื่อตรวจสอบหากพบความแตกต่างระหว่างปัจจัย / ท้อผู้เข้าร่วมใช้บริการทันตกรรม และอื่น ๆ ปัจจัยที่มีความแตกต่างกัน ส่วนปัจจัยรวมถึงชนิดของคลินิก , ชนิดของการเยี่ยมชม ความถี่ในการเข้าชมและ self-rated สุขภาพช่องปาก โดยกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ . 05 พบว่า3 . ผลลัพธ์ของ 600 คนแจกจ่ายให้กับนักเรียน เมื่อได้รับแบบสอบถามคืน สามคนไม่เต็ม เนื่องจากไม่มีนักเรียน หกสิบหกคน ( 11.1% ) ถูกตัดออกจากการศึกษาเพราะพวกเขารายงานว่าพวกเขาไม่ได้พบทันตแพทย์ในช่วง 2 ปี ดังนั้น ท่านนักศึกษาได้ถูกรวมไว้ในการศึกษานี้ ตารางที่ 1 แสดงข้อมูลลักษณะทางประชากรของกลุ่มตัวอย่าง และการดูแลสุขภาพฟัน ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง