2.3.8 Troubleshooting a Microsoft W

2.3.8 Troubleshooting a Microsoft Windows MySQL Server Installation
When installing and running MySQL for the first time, you may encounter certain errors that prevent the MySQL server from starting. This section helps you diagnose and correct some of these errors.

Your first resource when troubleshooting server issues is the error log. The MySQL server uses the error log to record information relevant to the error that prevents the server from starting. The error log is located in the data directory specified in your my.ini file. The default data directory location is C:Program FilesMySQLMySQL Server 5.5data, or C:ProgramDataMysql on Windows 7 and Windows Server 2008. The C:ProgramData directory is hidden by default. You need to change your folder options to see the directory and contents. For more information on the error log and understanding the content, see Section 5.2.2, “The Error Log”.

For information regarding possible errors, also consult the console messages displayed when the MySQL service is starting. Use the NET START MySQL command from the command line after installing mysqld as a service to see any error messages regarding the starting of the MySQL server as a service. See Section 2.3.7.7, “Starting MySQL as a Windows Service”.

The following examples show other common error messages you might encounter when installing MySQL and starting the server for the first time:

If the MySQL server cannot find the mysql privileges database or other critical files, it displays these messages:

System error 1067 has occurred.
Fatal error: Can't open and lock privilege tables:
Table 'mysql.user' doesn't exist
These messages often occur when the MySQL base or data directories are installed in different locations than the default locations (C:Program FilesMySQLMySQL Server 5.5 and C:Program FilesMySQLMySQL Server 5.5data, respectively).

This situation can occur when MySQL is upgraded and installed to a new location, but the configuration file is not updated to reflect the new location. In addition, old and new configuration files might conflict. Be sure to delete or rename any old configuration files when upgrading MySQL.

If you have installed MySQL to a directory other than C:Program FilesMySQLMySQL Server 5.5, ensure that the MySQL server is aware of this through the use of a configuration (my.ini) file. Put the my.ini file in your Windows directory, typically C:WINDOWS. To determine its exact location from the value of the WINDIR environment variable, issue the following command from the command prompt:

C:> echo %WINDIR%
You can create or modify an option file with any text editor, such as Notepad. For example, if MySQL is installed in E:mysql and the data directory is D:MySQLdata, you can create the option file and set up a [mysqld] section to specify values for the basedir and datadir options:

[mysqld]
# set basedir to your installation path
basedir=E:/mysql
# set datadir to the location of your data directory
datadir=D:/MySQLdata
Microsoft Windows path names are specified in option files using (forward) slashes rather than backslashes. If you do use backslashes, double them:

[mysqld]
# set basedir to your installation path
basedir=C:\Program Files\MySQL\MySQL Server 5.5
# set datadir to the location of your data directory
datadir=D:\MySQLdata
The rules for use of backslash in option file values are given in Section 4.2.6, “Using Option Files”.

If you change the datadir value in your MySQL configuration file, you must move the contents of the existing MySQL data directory before restarting the MySQL server.

See Section 2.3.7.2, “Creating an Option File”.

If you reinstall or upgrade MySQL without first stopping and removing the existing MySQL service and install MySQL using the MySQL Installer, you might see this error:

Error: Cannot create Windows service for MySql. Error: 0
This occurs when the Configuration Wizard tries to install the service and finds an existing service with the same name.

One solution to this problem is to choose a service name other than mysql when using the configuration wizard. This enables the new service to be installed correctly, but leaves the outdated service in place. Although this is harmless, it is best to remove old services that are no longer in use.

To permanently remove the old mysql service, execute the following command as a user with administrative privileges, on the command line:

C:> sc delete mysql
[SC] DeleteService SUCCESS
If the sc utility is not available for your version of Windows, download the delsrv utility from http://www.microsoft.com/windows2000/techinfo/reskit/tools/existing/delsrv-o.asp and use the delsrv mysql syntax.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.3.8 แก้ไขปัญหาการติดตั้ง MySQL เซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft Windowsเมื่อติดตั้ง และรัน MySQL ครั้งแรก คุณอาจพบข้อผิดพลาดบางอย่างที่ป้องกันไม่ให้เซิร์ฟเวอร์ MySQL เริ่มต้น ส่วนนี้ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ และแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งทรัพยากรของคุณแรกเมื่อปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล็อกข้อผิดพลาดได้ เซิร์ฟเวอร์ MySQL ใช้ล็อกข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดที่ป้องกันไม่ให้เซิร์ฟเวอร์เริ่มต้น ล็อกข้อผิดพลาดจะอยู่ในไดเรกทอรีข้อมูลที่ระบุในแฟ้ม my.ini ตำแหน่งไดเรกทอรีข้อมูลเริ่มต้นเป็นเซิร์ฟเวอร์ FilesMySQLMySQL C:Program 5.5data หรือ C:ProgramDataMysql ใน Windows 7 และ Windows Server 2008 ไดเรกทอรี C:ProgramData จะถูกซ่อนไว้ โดยค่าเริ่มต้น คุณต้องเปลี่ยนตัวเลือกโฟลเดอร์เพื่อดูไดเรกทอรีและเนื้อหา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการล็อกข้อผิดพลาดและการเข้าใจเนื้อหา ดูหัวข้อ 5.2.2 "เดอะล็อกข้อผิดพลาด"สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่เป็นไปได้ ยังอ่านข้อความคอนโซลที่แสดงเมื่อมีการเริ่มต้นบริการ MySQL ใช้คำสั่ง MySQL เริ่มต้นสุทธิจากบรรทัดคำสั่งหลังจากติดตั้ง mysqld เป็นบริการเพื่อดูข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการเริ่มต้นเซิร์ฟเวอร์ MySQL เป็นบริการ ดูส่วน 2.3.7.7 "เริ่มต้น MySQL เป็นบริการของ Windows"ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงข้อความข้อผิดพลาดอื่น ๆ ทั่วไปคุณอาจพบเมื่อติดตั้ง MySQL และเริ่มต้นเซิร์ฟเวอร์ครั้ง:หากไม่พบเซิร์ฟเวอร์ MySQL ฐานข้อมูลสิทธิ์การใช้งาน mysql หรือไฟล์สำคัญอื่น ๆ มันแสดงข้อความเหล่านี้:เกิดข้อผิดพลาดระบบ 1067ข้อผิดพลาดร้ายแรง: ไม่สามารถเปิด และล็อคตารางสิทธิ์:ตาราง 'mysql.user' ไม่มีอยู่ข้อความเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อการ MySQL ฐานข้อมูลหรือไดเรกทอรีติดตั้งในสถานแตกต่างกว่าที่ตั้งค่าเริ่มต้น (5.5 C:Program FilesMySQLMySQL เซิร์ฟเวอร์และเซิร์ฟเวอร์ FilesMySQLMySQL C:Program 5.5data ตามลำดับ)สถานการณ์นี้อาจเกิดขึ้นเมื่ออัพเกรด MySQL และติดตั้งไปยังตำแหน่งใหม่ แต่ไม่มีการปรับปรุงแฟ้มการกำหนดค่าเพื่อแสดงตำแหน่งที่ตั้งใหม่ นอกจากนี้ แฟ้มการกำหนดค่าเก่า และใหม่อาจขัดแย้งกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะลบ หรือเปลี่ยนชื่อแฟ้มการกำหนดค่าเก่าเมื่ออัพเกรด MySQLถ้าคุณได้ติดตั้ง MySQL ไดเรกทอรีอื่นนอกเหนือจาก C:Program FilesMySQLMySQL Server 5.5 ให้แน่ใจว่าเซิร์ฟเวอร์ MySQL ทราบนี้โดยใช้แฟ้มการกำหนดค่า (my.ini) ใส่แฟ้ม my.ini ในไดเรกทอรี Windows โดยทั่วไปแล้ว C:WINDOWS การกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนจากค่าของตัวแปรสภาพแวดล้อม WINDIR ออกคำสั่งต่อไปนี้จากพร้อมท์คำสั่ง:C: > echo % WINDIR %คุณสามารถสร้าง หรือแก้ไขแฟ้มตัวเลือกการแก้ไขข้อความใด ๆ เช่น Notepad ตัวอย่าง ถ้าติดตั้ง MySQL E:mysql และไดเรกทอรีข้อมูล D:MySQLdata คุณสามารถสร้างแฟ้มตัวเลือก และตั้งค่าส่วน [mysqld] เพื่อระบุค่าสำหรับตัวเลือก basedir และ datadir:[mysqld]#กำหนด basedir เส้นทางการติดตั้งของคุณbasedir = E: / mysql# datadir ที่ตั้งที่ตั้งของไดเรกทอรีข้อมูลdatadir = D: / MySQLdataมีระบุชื่อพาธของ Microsoft Windows ในแฟ้มตัวเลือกที่ใช้ () ทับแทน backslashes ถ้าคุณใช้ backslashes พวกเขาคู่:[mysqld]#กำหนด basedir เส้นทางการติดตั้งของคุณbasedir = 5.5 เซิร์ฟเวอร์ C:\Program Files\MySQL\MySQL# datadir ที่ตั้งที่ตั้งของไดเรกทอรีข้อมูลdatadir = D:\MySQLdataกฎสำหรับใช้เครื่องหมายทับขวาในเลือกแฟ้มที่มีกำหนดค่าในส่วน 4.2.6 "ใช้แฟ้มตัวเลือก"ถ้าคุณเปลี่ยนค่า datadir ในแฟ้มการกำหนดค่าของ MySQL คุณต้องย้ายเนื้อหาของไดเรกทอรีข้อมูล MySQL ที่มีอยู่ก่อนที่จะเริ่มระบบใหม่เซิร์ฟเวอร์ MySQLดูส่วน 2.3.7.2 "สร้างแฟ้มตัวเลือก"ถ้าคุณติดตั้ง หรืออัพเกรด MySQL โดยไม่หยุด และเอาบริการ MySQL ที่มีอยู่ และติดตั้งโดยใช้ตัวติดตั้ง MySQL MySQL คุณอาจเห็นข้อผิดพลาดนี้:ข้อผิดพลาด: ไม่สามารถสร้างการบริการของ Windows สำหรับ MySql ข้อผิดพลาด: 0นี้เกิดขึ้นเมื่อตัวช่วยสร้างการกำหนดค่าพยายามที่จะติดตั้งบริการ และค้นหาการบริการที่มีชื่อเดียวกันหนึ่งวิธีแก้ไขปัญหานี้ให้ เลือกชื่อบริการนอกเหนือจาก mysql เมื่อใช้ตัวช่วยสร้างการตั้งค่าคอนฟิกได้ นี้ช่วยให้บริการติดตั้งอย่างถูกต้อง แต่ออกจากบริการล้าสมัยใน แม้ว่าจะไม่เป็นอันตราย เหมาะแก่การเอาบริการเก่าที่ไม่ใช้การลบบริการ mysql เก่า ดำเนินการคำสั่งต่อไปนี้เป็นผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ บรรทัดคำสั่ง:C: > sc ลบ mysql[SC] DeleteService ความสำเร็จถ้าไม่มีโปรแกรมอรรถประโยชน์ sc สำหรับ Windows รุ่นของคุณ ดาวน์โหลดโปรแกรมอรรถประโยชน์ delsrv จาก http://www.microsoft.com/windows2000/techinfo/reskit/tools/existing/delsrv-o.asp และใช้ไวยากรณ์ mysql delsrv

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.3.8 แก้ไขปัญหา Microsoft Windows เซิร์ฟเวอร์ MySQL การติดตั้ง
เมื่อการติดตั้งและใช้งาน MySQL เป็นครั้งแรก คุณอาจพบบางข้อผิดพลาดที่ป้องกันไม่ให้เซิร์ฟเวอร์ MySQL เริ่ม . ส่วนนี้ช่วยให้คุณสามารถวินิจฉัยและแก้ไขบางส่วนของข้อผิดพลาดเหล่านี้

ทรัพยากรแรกของคุณเมื่อการแก้ไขปัญหาเซิร์ฟเวอร์ปัญหาเป็นบันทึกข้อผิดพลาดMySQL server ใช้บันทึกข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดที่ป้องกันไม่ให้เซิร์ฟเวอร์เริ่ม . บันทึกข้อผิดพลาดในการตั้งอยู่ในไดเรกทอรีข้อมูลที่ระบุไว้ในไฟล์ my.ini ของคุณ เริ่มต้นไดเรกทอรีข้อมูลสถานที่เป็น C : ไฟล์โปรแกรม MySQL MySQL เซิร์ฟเวอร์ 5.5 N ข้อมูลหรือ C : programdata MySQL บน Windows 7 และ Windows Server 2008 C : ไดเรกทอรี programdata ถูกซ่อนโดยค่าเริ่มต้นคุณต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเลือกโฟลเดอร์ของคุณเพื่อดูไดเรกทอรีและเนื้อหา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบันทึกข้อผิดพลาดและความเข้าใจเนื้อหา ดูมาตรา 5.2.2 " บันทึก " ข้อผิดพลาด

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่เป็นไปได้ยังปรึกษาคอนโซลข้อความแสดงเมื่อ MySQL บริการจะเริ่มต้นใช้เน็ตเริ่มต้น MySQL คำสั่งจากบรรทัดคำสั่งหลังจากติดตั้ง mysqld เป็นบริการเพื่อดูข้อความแสดงข้อผิดพลาดใด ๆเกี่ยวกับการเริ่มต้นของ MySQL Server เป็นบริการ ดูส่วน 2.3.7.7 " เริ่มต้น MySQL เป็นบริการ " หน้าต่าง

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงข้อผิดพลาดทั่วไปข้อความอื่น ๆที่คุณอาจพบเมื่อติดตั้ง MySQL และเริ่มต้นเซิร์ฟเวอร์ครั้งแรก :

ถ้าเซิร์ฟเวอร์ MySQL ไม่สามารถหา MySQL สิทธิ์ฐานข้อมูลหรือแฟ้มที่สําคัญอื่น ๆ ก็จะแสดงข้อความข้อผิดพลาดของระบบ :


เรื่องเกิดขึ้น ข้อผิดพลาดร้ายแรง : ไม่สามารถเปิดและล็อคตารางสิทธิ์ :
' ตาราง MySQL ไม่ผู้ใช้ ' อยู่
ข้อความเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อ MySQL ฐานข้อมูลหรือไดเรกทอรีการติดตั้ง ในสถานที่ที่แตกต่างกว่าค่าเริ่มต้นที่ตั้ง ( C : Program Files MySQL MySQL เซิร์ฟเวอร์ 5.5 และ C : Program Files MySQL MySQL เซิร์ฟเวอร์ 5.5 ข้อมูลตามลำดับ )

สถานการณ์นี้อาจเกิดขึ้นเมื่อ MySQL ปรับและติดตั้งไปยังตำแหน่งใหม่ แต่การตั้งค่าไม่ได้ปรับปรุงเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงตำแหน่งใหม่ นอกจากนี้ เก่าและไฟล์การตั้งค่าใหม่ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง ให้แน่ใจว่าได้ลบหรือเปลี่ยนชื่อไฟล์การตั้งค่าเก่า

เมื่ออัพเกรด MySQLถ้าคุณได้ติดตั้ง MySQL ไปยังไดเรกทอรีอื่นนอกเหนือจาก C : Program Files MySQL MySQL เซิร์ฟเวอร์ 5.5 , ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเซิร์ฟเวอร์ MySQL จะทราบนี้ผ่านการใช้งานของการตั้งค่า ( INI ของฉัน . ) ไฟล์ วางแฟ้มในไดเรกทอรี Windows ของคุณโดยทั่วไป my.ini , C : Windows เพื่อระบุตำแหน่งที่แน่นอนของมัน จากค่าของตัวแปรสภาพแวดล้อม windir ออกคำสั่งจากพร้อมรับคำสั่งต่อไปนี้ :
c :ก้อง windir %
% > คุณสามารถสร้างหรือปรับเปลี่ยนตัวเลือกไฟล์ด้วยโปรแกรมแก้ไขข้อความใด ๆเช่น Notepad ตัวอย่างเช่น หาก MySQL การติดตั้งอยู่ใน E : MySQL และข้อมูลไดเรกทอรี D : mysqldata , คุณสามารถสร้างแฟ้มตัวเลือกและตั้งค่า [ mysqld ] ส่วนกำหนดค่า basedir datadir และตัวเลือก :

[ ]
# mysqld ชุด basedir เส้นทางการติดตั้งของคุณ
basedir = E : / MySQL
#ชุด datadir ไปยังตำแหน่งของไดเรกทอรีข้อมูล
datadir = D : / mysqldata
Microsoft Windows เส้นทาง ชื่อที่ระบุไว้ในแฟ้มตัวเลือกที่ใช้ ( ต่อ ) slashes มากกว่า backslashes . ถ้าคุณใช้ backslashes คู่นั้น mysqld

[ ]
#ชุด basedir เส้นทางการติดตั้งของคุณ
basedir = C : ไฟล์ / โปรแกรม MySQL MySQL เซิร์ฟเวอร์ 5.5
#ชุด datadir ไปยังตำแหน่งของไดเรกทอรีข้อมูล
datadir = D : mysqldata
กฎสำหรับการใช้เครื่องหมาย ค่าแฟ้มตัวเลือกจะได้รับในส่วน 4.2.6 " ใช้แฟ้มตัวเลือก " .

ถ้าคุณเปลี่ยนค่า datadir ในแฟ้มการกำหนดค่า MySQL ของคุณ คุณต้องย้ายเนื้อหาของฐานที่มีอยู่ในไดเรกทอรีข้อมูลก่อนที่จะเริ่มต้นเซิร์ฟเวอร์ MySQL .

ดูส่วน 2.3.7.2 ” การสร้างไฟล์

" ตัวเลือกถ้าคุณติดตั้งหรืออัพเกรด MySQL โดยไม่หยุดและลบที่มีอยู่ MySQL บริการและติดตั้ง MySQL การติดตั้ง MySQL , คุณอาจจะเห็นข้อผิดพลาดนี้

ผิดพลาด : ไม่สามารถสร้างบริการ Windows สำหรับ MySQL ข้อผิดพลาด : 0
นี้เกิดขึ้นเมื่อการตั้งค่าตัวช่วยสร้างพยายามที่จะติดตั้งบริการและหาบริการที่มีอยู่กับชื่อเดียวกัน

หนึ่งวิธีการแก้ปัญหานี้คือการเลือกชื่ออื่นมากกว่าเมื่อใช้บริการ MySQL การตั้งค่าตัวช่วยสร้าง นี้จะช่วยให้บริการใหม่ที่จะติดตั้งอย่างถูกต้อง แต่ใบบริการล้าสมัยในสถานที่ แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายก็จะดีที่สุดที่จะลบบริการเก่าที่ไม่ใช้แล้ว

อย่างถาวรลบบริการ MySQL เก่ารันคำสั่งเป็นผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลต่อไปนี้ในบรรทัดคำสั่ง :

C : > SC ลบ MySQL
[ SC ] deleteservice สำเร็จ
ถ้า SC อรรถประโยชน์ไม่สามารถใช้ได้สำหรับรุ่นของ Windows , ดาวน์โหลด delsrv สาธารณูปโภค http://www.microsoft.com/windows2000/techinfo/reskit/tools/existing/delsrv-o.asp และใช้ delsrv MySQL วากยสัมพันธ์