However, Sainsbury’s troubles canno

However, Sainsbury’s troubles cannot solely be attributed to systems
meltdown, systems failure aside, the management, clothing and home
furnishing strategy was in disarray, introduction of non-food items
were also factors that led to a continuous loss of market shares.
Sainsbury was unable to understand its business objectives of whether
being the food specialist or built its non-food items, for example,
clothing, DVD, BOOKS, magazines and its non-food aware came incredibly
late, the problems has been Sainsbury’s lack of ability to retail
clothing. Warehouse management, staff levels, staff training, IT, in
store merchandising, little advertising support, have all proved
problematic. It has been unable to successfully integrate clothing
into its stores and has certainly not done it as well as Tesco and
Asda .Unable to realize its weakness in non-food offer, for example,
got insufficient place in store, never cracked this part of its
business, as a result, making itself even difficult to compete with
its rivals therefore Sainsbury failed to differentiate itself in the
marker place. Its significant INVESTMENT had not been focused on
customer but on the things that are invisible to customer, thus
customers were neglected. Sainsbury has made some gains in terms of
cost cutting, that will keep itself on target profit wise, but it has
gone for the above – mid-market spenders and targeting higher spenders
is always risky and it is not big enough to support the infrastructure
and scale of its business.

So in summary, Sainsbury’s built an unsustainable business model that
became margin driven, focused on short term profit. The INVESTMENT in
infrastructure, which has yet to deliver the benefits intended. The
customer offer was neglected. It's self evident that the decline in
the profitability means that the INVESTMENT which have made has had
very poor returns. And a direct consequence of much of that INVESTMENT
is that Sainsbury now have a cost base that this business cannot
afford. The result in competitive terms is that its market shares
continue to decline - part of a much longer term trend and the sales
indiscernible have reduced which has been a key contributor to the
cost pressure.

The upshot of all of this is that managing cost tightly is important.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ Sainsbury ไม่เพียงเกิดจากระบบ หลอมละลาย ระบบความล้มเหลวไว้ ผู้บริหาร เสื้อผ้า และบ้าน กลยุทธ์เฟอร์นิเจอร์ถูกอลวน แนะนำสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่นำไปสู่การขาดทุนอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้น Sainsbury ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของธุรกิจว่า มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร หรือสร้างรายการไม่ใช่อาหาร ตัวอย่าง เสื้อผ้า ดีวีดี หนังสือ นิตยสาร และไม่ใช่อาหารทราบมาอย่างเหลือเชื่อ สาย ปัญหาได้รับขาดความสามารถในการขายปลีกของ Sainsbury เสื้อผ้า คลังสินค้าการจัดการ ระดับพนักงาน เจ้าหน้าที่ฝึกอบรม เรื่อง ใน ร้านค้าจัด สนับสนุนโฆษณาเล็กน้อย มีทั้งหมดพิสูจน์ มีปัญหา แล้วไม่รวมเสื้อผ้าสำเร็จ เข้ากับร้านค้าและแน่นอนไม่ได้เช่นเทสโก้ และ Asdaสามารถตระหนักถึงความอ่อนแอในอาหารไม่มี เช่น มีเก็บไม่เพียงพอ ไม่แตกส่วนนี้ของตน ธุรกิจ เป็นผล ทำได้ยากที่จะแข่งขันกับตัวเอง ของคู่แข่งดังนั้น Sainsbury ไม่สามารถแยกความแตกต่างในตัวเอง สถานที่เครื่องหมาย การลงทุนอย่างมีนัยสำคัญก็ไม่ได้เน้น ลูกค้าแต่สิ่งที่ไม่เห็นลูกค้า ดังนั้น ลูกค้าถูกที่ไม่มีกิจกรรม Sainsbury ทำกำไรบางแง่ของ ต้นทุนตัด ที่จะทำให้ตัวเองบนกำไรเป้าหมายฉลาด แต่มี ไปในข้างต้น – กลางตลาด spenders และ spenders สูงกว่าเป้าหมาย จะมีความเสี่ยง และไม่ใหญ่พอที่จะสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน และขนาดของธุรกิจ ดังนั้น โดยสรุป Sainsbury ของสร้างแบบจำลองธุรกิจ unsustainable ที่ เป็นกำไรที่ขับเคลื่อน เน้นกำไรระยะสั้น การลงทุนใน โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งยังไม่ได้ส่งผลประโยชน์ไว้ ที่ เสนอลูกค้าถูกที่ไม่มีกิจกรรม ก็ตัวเองชัดที่ลดลง ผลกำไรหมายความ ว่า การลงทุนซึ่งได้มี กลับยาก และเวรมากที่ลงทุนโดยตรง คือ Sainsbury ขณะนี้มีฐานต้นทุนที่ธุรกิจนี้ไม่ จ่าย เป็นผลการแข่งขันในตลาดของหุ้น ยังปฏิเสธ - ส่วนมากยาวระยะแนวโน้มและการขาย indiscernible ได้ลดลงซึ่งได้รับการสนับสนุนหลักการ ความกดดันต้นทุน ผลที่สุดของทั้งหมดนี้คือ การจัดการต้นทุนอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตาม , Sainsbury ของปัญหาไม่เพียงเกิดจากวิกฤตระบบ
, ระบบความล้มเหลวกัน , การจัดการ , เสื้อผ้าและตกแต่งบ้าน
กลยุทธ์คือความวุ่นวาย แนะนำสินค้า
อาหารไม่ใช่ยังปัจจัยที่นำไปสู่การสูญเสียอย่างต่อเนื่องของหุ้นตลาด
Sainsbury ไม่สามารถที่จะเข้าใจวัตถุประสงค์ทางธุรกิจไม่ว่า
เป็นอาหารของผู้เชี่ยวชาญ หรือสร้างรายการที่ไม่ใช่อาหารเช่น
เสื้อผ้า ดีวีดี หนังสือ นิตยสาร และที่ไม่ใช่อาหารทราบมาอย่างไม่น่าเชื่อ
ล่าช้า ปัญหามี Sainsbury ของการขาดความสามารถในการขายปลีกเสื้อผ้า

การจัดการคลังสินค้า , พนักงานฝึกอบรม , พนักงานระดับ ใน
สินค้าร้านน้อยสนับสนุนโฆษณา ทั้งหมดได้พิสูจน์
มีปัญหาได้รับไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จรวมเสื้อผ้า
เข้าไปในร้าน และมีก็ไม่ทำ เช่นเดียวกับเทสโก้และ
อัษฎา ไม่สามารถที่จะตระหนักถึงความอ่อนแอของที่ไม่ใช่อาหาร เสนอ ตัวอย่างเช่น
ได้ไม่เพียงพอที่ร้าน ไม่เคยแตกส่วนนี้ของธุรกิจ
เป็นผลให้ตัวเองได้ยาก แข่งขันกับคู่แข่งจึงล้มเหลวกับเซนส์

แบ่งแยกตัวเองในสถานที่เครื่องหมาย การลงทุนที่สำคัญของมันไม่ได้เน้น
ลูกค้า แต่ในสิ่งที่ยังมองไม่เห็นลูกค้าจึง
ลูกค้าหลง Sainsbury ทำให้บางผลประโยชน์ในแง่ของ
ตัดต้นทุน ที่จะให้ตัวเองเป้าหมายกำไรที่ชาญฉลาด แต่มันมี
ไปข้างต้น–กลางตลาดกำหนดเป้าหมายที่สูงขึ้นทำให้เกิด
เป็นเสมอที่มีความเสี่ยง และไม่ใหญ่พอที่จะรองรับโครงสร้างพื้นฐาน
และขนาดของธุรกิจ

สรุปว่าใหม่สร้างธุรกิจแบบยั่งยืนที่
กลายเป็นขอบขับเน้นกำไรระยะสั้น การลงทุนใน
โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งยังไม่ได้ส่งมอบผลประโยชน์ที่ตั้งใจไว้
ให้ลูกค้าถูกละเลย มันเห็นได้ชัดด้วยตนเองที่ลดลงใน
อัตราผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งหมายความว่าได้มี
ผลตอบแทนที่ยากจนมาก และผลโดยตรงของมากของการลงทุน
คือ Sainsbury ตอนนี้มีฐานต้นทุนที่ธุรกิจไม่สามารถ
เท่าใด ผลในแง่การแข่งขันเป็นที่ของหุ้นตลาด
ยังคงลดลง - ส่วนหนึ่งของ มาก แนวโน้มระยะยาวและขาย
ซึ่งไม่สามารถสังเกตเห็นได้ ได้ลดลง ซึ่งมีผู้สนับสนุนคีย์
ดันต้นทุน

ผลที่สุดของทั้งหมดนี้คือว่า การจัดการต้นทุนแน่นเป็นสำคัญ