ABSTRACTRESPONSE TO INTERVENTION: I

ABSTRACT
RESPONSE TO INTERVENTION: ITS EFFECT ON LEADERSHIP AND THE
RELATIONSHIP BETWEEN REGULAR EDUCATION AND
SPECIAL EDUCATION
William Eugene LeNeveu, EdD
Texas A&M University-Commerce, 2014
Advisor: Chuck Holt, EdD
This study examined the effect of Response to Intervention (RTI) on the relationship
between special education and regular education and the accompanying changes in the demands
on educational leadership. This study concentrated on RTI at the secondary level as current
research indicates little study has been conducted on the subject at this level. The purpose of this
study was to determine the critical issues in the successful implementation and maintenance of
RTI based school wide improvement efforts.
Response to Intervention (RTI) began as a method to identify at-risk students in need of
special education services. RTI has fast become the means through which all students receive
the instructional remedies necessary to help ensure their success. The process of providing those
remedies dictated the need for increased collaboration between special education and regular
education teachers in order to apply the expertise of special education to all students. Leadership
collaboration and integration of leadership knowledge and responsibilities between special and
regular education must follow as well.
v
The changing demands on educational leadership resulting from the widespread
implementation of RTI were investigated. Of particular interest was the contribution to the
collaboration between special education and general education resulting from this broad scale
implementation of RTI. It was the subsequent impact on educational leadership resulting from
the increased collaboration between the two fields of education as they become unified that
motivated the research.
A primarily quantitative research design using survey methods, descriptive statistical
techniques, and open-ended responses was employed. A researcher-generated survey based on
extensive research of literature was used to obtain data. The survey consisted of 38 Likert-scale
questions with a demographic section and four open-ended response questions. The research
was concentrated on secondary schools in a single district in Region 10, one of 20 educational
service areas in the Texas education system. Secondary schools were chosen due to the limited
RTI research at the secondary level available as of 2012.
The results and conclusions resulting from this study are intended to add to the body of
knowledge on RTI assisting educators in meeting the needs of all students while maintaining
high expectations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อตอบสนองต่อการแทรกแซง: มีผลในการเป็นผู้นำและความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาปกติ และการศึกษาพิเศษWilliam Eugene LeNeveu, EdDเท็กซัสและ M มหาวิทยาลัยพาณิชย์ 2014ที่ปรึกษา: เชย Holt, EdDการศึกษานี้ตรวจสอบผลของการตอบสนองการแทรกแซง (RTI) ความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาพิเศษ และการศึกษาทั่วไป และการเปลี่ยนแปลงมาในความต้องการในการเป็นผู้นำทางการศึกษา การศึกษานี้เข้มข้นใน RTI ระดับรองเป็นปัจจุบันงานวิจัยบ่งชี้ว่า มีการดำเนินการศึกษาน้อยในเรื่องนี้ วัตถุประสงค์นี้ศึกษาได้กำหนดประเด็นสำคัญในการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จและการบำรุงรักษาRTI ใช้ความพยายามปรับปรุงทั้งโรงเรียนเริ่มตอบสนองการแทรกแซง (RTI) เป็นวิธีการที่จะระบุนักเรียนที่มีความเสี่ยงไร้บริการการศึกษาพิเศษ RTI ได้อย่างรวดเร็วกลายเป็น วิธีการที่นักเรียนทุกคนได้รับแก้ไขจัดการเรียนการสอนที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จ กระบวนการให้ผู้วิธีแก้บอกต้องเพิ่มความร่วมมือ ระหว่างการศึกษาพิเศษ และปกติครูการศึกษาเพื่อความเชี่ยวชาญการศึกษาพิเศษกับนักเรียนทั้งหมด ภาวะผู้นำความร่วมมือและบูรณาการความรู้เป็นผู้นำและความรับผิดชอบระหว่างพิเศษ และศึกษาทั่วไปต้องปฏิบัติตามเช่นvความต้องการเปลี่ยนแปลงของผู้ศึกษาที่เป็นผลมาจากการแพร่หลายดำเนินงานของ RTI ได้ตรวจสอบ สนใจโดยเฉพาะเป็นสัดส่วนเพื่อการทำงานร่วมกันระหว่างการศึกษาพิเศษและการศึกษาทั่วไปที่เป็นผลมาจากมาตราส่วนนี้กว้างการดำเนินงานของ RTI มันเป็นผลกระทบตามมาเป็นผู้นำทางการศึกษาเป็นผลมาจากความร่วมมือขึ้นระหว่างเขตข้อมูลที่สองของการศึกษาเหล่านั้นโดยรวมที่แรงจูงใจการวิจัยการออกแบบการวิจัยเชิงปริมาณเป็นหลักโดยใช้วิธีสำรวจ อธิบายสถิติเทคนิค และการตอบสนองแบบเปิดทำงาน ตามการสำรวจโดยนักวิจัยการวิจัยของวรรณคดีที่ใช้รับข้อมูล แบบสำรวจประกอบด้วยสเกล Likert 38คำถามสี่คำถามตอบแบบเปิดและประชากรส่วน การวิจัยเข้มข้นในโรงเรียนมัธยมในอำเภอที่เดียวในภูมิภาค 10, 20 ศึกษาอย่างใดอย่างหนึ่งพื้นที่บริการในระบบการศึกษาของรัฐเทกซัส โรงเรียนมัธยมที่ถูกเลือกจากการจำกัดงานวิจัยของ RTI ในระดับรองมี 2555ผลและสรุปผลจากการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเนื้อหาของความรู้เกี่ยวกับ RTI ที่ช่วยสรรหาในการประชุมความต้องการของนักเรียนทั้งหมดในขณะที่รักษาความคาดหวังที่สูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อการตอบสนองการแทรกแซง: ผลกระทบต่อความเป็นผู้นำและผู้ความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาปกติและSPECIAL EDUCATION วิลเลียมยู LeNeveu กรมTexas A & M University-Commerce 2014 ที่ปรึกษาชัคโฮลท์, กรมการศึกษาครั้งนี้การตรวจสอบผลของการตอบสนองต่อการแทรกแซง(RTI) บน ความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาพิเศษและการศึกษาปกติและการเปลี่ยนแปลงที่ประกอบในความต้องการในการเป็นผู้นำการศึกษา การศึกษาครั้งนี้จดจ่ออยู่กับ RTI ในระดับรองในปัจจุบันการวิจัยแสดงให้เห็นการศึกษาน้อยได้รับการดำเนินการในเรื่องที่อยู่ในระดับนี้ วัตถุประสงค์ของการนี้การศึกษาคือเพื่อตรวจสอบปัญหาที่สำคัญในการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จและการบำรุงรักษาของRTI ตามโรงเรียนพยายามในการพัฒนากว้าง. การตอบสนองต่อการแทรกแซง (RTI) เริ่มเป็นวิธีการที่จะระบุนักเรียนที่มีความเสี่ยงในความต้องการของบริการการศึกษาพิเศษ RTI ได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นวิธีการที่ผ่านที่นักเรียนทุกคนได้รับการเยียวยาการเรียนการสอนที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จของพวกเขา กระบวนการในการให้ผู้เยียวยาบอกความจำเป็นในการทำงานร่วมกันเพิ่มขึ้นระหว่างการศึกษาพิเศษและปกติครูการศึกษาเพื่อที่จะใช้ความเชี่ยวชาญของการศึกษาพิเศษให้นักเรียนทุกคน ความเป็นผู้นำความร่วมมือและบูรณาการความรู้ความเป็นผู้นำและความรับผิดชอบระหว่างพิเศษและการศึกษาตามปกติจะต้องปฏิบัติตามเช่นกัน. โวลต์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงในการเป็นผู้นำการศึกษาผลมาจากการแพร่หลายการดำเนินงานของRTI ถูกตรวจสอบ น่าสนใจเป็นพิเศษคือการมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันระหว่างการศึกษาพิเศษและการศึกษาทั่วไปที่เกิดจากขนาดนี้ในวงกว้างการดำเนินงานของRTI มันเป็นผลกระทบที่ตามมาในการเป็นผู้นำการศึกษาที่เกิดจากการทำงานร่วมกันที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองด้านของการศึกษาที่พวกเขาจะกลายเป็นแบบครบวงจรที่มีแรงจูงใจในการวิจัย. การออกแบบการวิจัยเชิงปริมาณเป็นหลักโดยใช้วิธีการสำรวจทางสถิติบรรยายเทคนิคและการตอบสนองที่เปิดกว้างเป็นลูกจ้าง การสำรวจวิจัยที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของการวิจัยอย่างกว้างขวางของวรรณกรรมถูกนำมาใช้เพื่อให้ได้ข้อมูล การสำรวจประกอบด้วย 38 Likert ขนาดคำถามกับส่วนประชากรและการตอบสนองสี่คำถามปลายเปิด การวิจัยได้รับการจดจ่ออยู่กับโรงเรียนมัธยมในย่านที่เดียวในภาค 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในการศึกษา 20 พื้นที่ให้บริการในระบบการศึกษาของเท็กซัส โรงเรียนมัธยมได้รับการแต่งตั้งเนื่องจากการ จำกัดการวิจัย RTI ในระดับมัธยมศึกษาที่มีอยู่เป็นของปี 2012 ผลการศึกษาและข้อสรุปที่เกิดจากการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มให้กับร่างกายของความรู้เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือการศึกษา RTI ในการประชุมความต้องการของนักเรียนทุกคนขณะที่ยังคงสูงความคาดหวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตอบสนองที่เป็นนามธรรม
การแทรกแซง : ผลกระทบที่มีต่อภาวะผู้นำ และความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาและ

ปกติการศึกษา
พิเศษ วิลเลี่ยม ยูจีน leneveu EDD
เท็กซัสเป็น& M มหาวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ 2014
ที่ปรึกษา : ชัค Holt EDD
ศึกษาผลการตอบสนองต่อการแทรกแซง ( RTI ) ในความสัมพันธ์
ระหว่างและการศึกษาพิเศษ การศึกษาทั่วไปและการเปลี่ยนแปลงในความต้องการ
ประกอบภาวะผู้นำทางการศึกษา โดยมุ่งศึกษาในระดับมัธยมศึกษาเป็นปัจจุบันการวิจัยในปัจจุบัน
แสดงว่าการศึกษาน้อยมีวัตถุประสงค์ในเรื่องระดับนี้ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้
ศึกษาประเด็นปัญหาสำคัญในการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จและรักษา
RTI ตามโรงเรียนกว้าง
ความพยายามปรับปรุง .การตอบสนองต่อการแทรกแซง ( RTI ) เริ่มเป็นวิธีการระบุความเสี่ยงที่นักศึกษาต้องการ
บริการการศึกษาพิเศษ RTI อย่างรวดเร็วกลายเป็นวิธีการที่นักเรียนทุกคนได้รับการสอนวิธีแก้
ที่จำเป็นเพื่อช่วยให้มั่นใจในความสำเร็จของพวกเขา กระบวนการของการให้ผู้
วิธีแก้บอกต้องเพิ่มความร่วมมือระหว่างการศึกษาพิเศษและปกติ
ครูการศึกษาเพื่อที่จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาพิเศษนักศึกษาทั้งหมด ความร่วมมือและบูรณาการความรู้ของผู้นำภาวะผู้นำ

และความรับผิดชอบระหว่างพิเศษ และการศึกษาทั่วไปต้องปฏิบัติตามเช่นกัน
v
เปลี่ยนความต้องการในการศึกษาภาวะผู้นำที่เป็นผลจากการใช้อย่างกว้างขวาง
ของปัจจุบัน คือที่น่าสนใจโดยเฉพาะคือบริจาคให้
ความร่วมมือระหว่างการศึกษาพิเศษและการศึกษาทั่วไปที่เกิดจากการใช้มาตราส่วน
นี้กว้างของ RTI . มันคือผลกระทบที่ตามมาในการศึกษาภาวะผู้นำที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง
เพิ่มขึ้นสองด้านการศึกษาตามที่พวกเขากลายเป็นหนึ่งเดียวที่ทำให้การวิจัย
.
หลัก การออกแบบการวิจัยใช้วิธีการสำรวจเชิงปริมาณ สถิติเชิงพรรณนา และการตอบสนอง
, เปิดใช้ นักวิจัยสร้างการสำรวจตาม
การวิจัยที่กว้างขวางของวรรณกรรมที่ใช้รับข้อมูล สำรวจ จำนวน 38 คน ขนาด
คำถามที่มีส่วนประชากรและสี่คำถามคำตอบปลายเปิด วิจัย
กำลังเข้มข้นในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตเดียว ในเขต 10 , หนึ่งใน 20 การศึกษา
บริการพื้นที่ในเท็กซัสการศึกษาระบบ โรงเรียนมัธยมได้รับเลือกเนื่องจากการวิจัย
RTI จํากัด ที่ระดับมัธยมศึกษา เป็นปี 2012
ผลและข้อสรุปที่เป็นผลจากการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มร่างกายของ
ความรู้เกี่ยวกับ RTI ช่วยนักการศึกษาในการประชุมความต้องการของนักเรียนทั้งหมดในขณะที่การรักษา
ความคาดหวังสูง