This research examines potential ex

This research examines potential explanations of why consumers have difficulty making personal financial decisions that will be most beneficial in the long run. Within the decision context of retirement savings, results from an experiment suggest that self-regulatory state, future orientation, and financial knowledge can influence consumer evaluations and intentions related to retirement investments (i.e., a 401(k) plan). Findings suggest that consumers who express higher levels of future orientation are more likely to participate in a retirement plan, an effect moderated by self-regulatory state. Results also suggest that financial knowledge and orientation toward the future can interact to influence the likelihood of 401(k) plan participation. Among consumers with a basic level of financial knowledge, future-oriented consumers expressed a greater likelihood to participate in a retirement plan than less future–oriented consumers. However, in the absence of knowledge, consumers’ orientation toward the future did not influence the likelihood of 401(k) plan participation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยนี้ตรวจสอบคำอธิบายที่เป็นไปของเหตุผู้บริโภคมีปัญหาในการตัดสินใจทางการเงินส่วนบุคคลที่จะเป็นประโยชน์มากที่สุดในระยะยาว ภายในบริบทการตัดสินใจของออมเกษียณ ผลจากการทดลองแนะนำว่า รัฐ self-regulatory วางแนวในอนาคต และความรู้ทางการเงินสามารถมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคประเมินและความตั้งใจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเกษียณอายุ (เช่น แผน 401(k)) พบแนะนำผู้บริโภคผู้บริการระดับสูงของแนวในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมในแผนการเกษียณอายุ ลักษณะพิเศษโดยรัฐ self-regulatory ผลลัพธ์ยังแนะนำว่า สามารถโต้ตอบความรู้ทางการเงินและวางแนวไปสู่อนาคตจะมีผลต่อโอกาสของการเข้าร่วมแผน 401(k) ระหว่างผู้บริโภคกับระดับพื้นฐานความรู้ทางการเงิน ผู้บริโภคหน้าแสดงความเป็นไปได้มากกว่าจะเข้าร่วมในแผนการเกษียณอายุมากกว่าน้อยกว่าผู้บริโภคในอนาคต – มุ่งเน้น อย่างไรก็ตาม ในขาดความรู้ แนวผู้บริโภคไปสู่อนาคตไม่ได้มีผลต่อโอกาสของการเข้าร่วมแผน 401(k)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยนี้จะตรวจสอบคำอธิบายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุผลที่ผู้บริโภคมีความยากลำบากในการตัดสินใจทางการเงินส่วนบุคคลที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดในระยะยาว ในบริบทการตัดสินใจของออมเพื่อการเกษียณอายุผลจากการทดลองแสดงให้เห็นว่ารัฐกำกับดูแลตนเองมุ่งอนาคตและความรู้ทางการเงินที่สามารถมีอิทธิพลต่อการประเมินผลของผู้บริโภคและความตั้งใจที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ (เช่น 401 (k) แผน) ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคที่มีระดับที่สูงขึ้นของการวางแนวทางในอนาคตมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการวางแผนการเกษียณอายุผลการตรวจสอบโดยรัฐกำกับดูแลตนเอง ผลนอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าความรู้ทางการเงินและการวางแนวทางต่ออนาคตสามารถโต้ตอบที่มีอิทธิพลต่อความเป็นไปได้ของ 401 (k) การมีส่วนร่วมแผน ในหมู่ผู้บริโภคที่มีระดับพื้นฐานของความรู้ทางการเงินของผู้บริโภคในอนาคตที่มุ่งเน้นการแสดงความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมในการวางแผนการเกษียณอายุกว่าผู้บริโภคในอนาคตที่มุ่งเน้นน้อย อย่างไรก็ตามในกรณีที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการวางแนวของผู้บริโภคที่มีต่ออนาคตที่ไม่ได้มีผลต่อโอกาสในการ 401 (k) การมีส่วนร่วมแผน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้ได้ศึกษาศักยภาพของผู้บริโภคมีปัญหา อธิบายถึงการตัดสินใจทางการเงินส่วนบุคคลที่ได้ประโยชน์มากที่สุดในระยะยาว ในการตัดสินใจในบริบทของออมเพื่อการเกษียณอายุ ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่า ตนเองของรัฐ ด้านลักษณะมุ่งอนาคตและความรู้ทางการเงินสามารถมีอิทธิพลต่อการประเมินผู้บริโภคและความตั้งใจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเกษียณ ( เช่น 401 ( k ) แผน ) ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคผู้บริการระดับสูงของลักษณะมุ่งอนาคตมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในแผนการเกษียณอายุ ผลทำให้ตนเอง ควบคุมโดยรัฐผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า ความรู้ทางการเงินและทิศทางสู่อนาคตสามารถโต้ตอบจะมีผลต่อโอกาสของแผน 401 ( k ) การมีส่วนร่วม ของผู้บริโภคที่มีระดับพื้นฐานความรู้ทางการเงินในอนาคตที่มุ่งเน้นผู้บริโภคมีมากขึ้นโอกาสที่จะเข้าร่วมในแผนการเกษียณอายุมากกว่าอนาคตน้อยลงและมุ่งเน้นผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ในการขาดของความรู้ทิศทางของผู้บริโภคที่มีต่ออนาคตไม่มีผลต่อความเป็นไปได้ของแผน 401 ( k ) การมีส่วนร่วม