Up to a third of the food we eat is

Up to a third of the food we eat is derived from plants that are either dependent on orbenefit from insect pollination (Oldroyd & Nanork, 2009), especially by honey bees(Richards, 2001). The European honey bee, Apis mellifera, is the most economically valuablepollinator of agricultural crops worldwide (Conte & Navajas, 2008). However, in most areasof Southeast Asia, there is no significant pollination industry. Insect pollinated crops are,therefore, completely reliant on wild bees, particularly honey bees and stingless bees, fortheir pollination (Rahman & Rahman, 2000).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ได้ถึงหนึ่งในสามของอาหารที่เรากินได้มาจากพืชที่มีทั้งขึ้นอยู่กับหรือ
ได้รับประโยชน์จากแมลงผสมเกสร (Oldroyd & Nanork, 2009) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผึ้ง
(ริชาร์ด, 2001) ผึ้งยุโรป Apis mellifera เป็นที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจมากที่สุด
pollinator ของพืชผลทางการเกษตรทั่วโลก (Conte และ Navajas 2008) อย่างไรก็ตามในพื้นที่ส่วนใหญ่
ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะไม่มีการผสมเกสรอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ แมลงผสมเกสรพืชมี
จึงสมบูรณ์พึ่งพาผึ้งป่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งผึ้งและผึ้งชันโรงสำหรับ
การผสมเกสรของพวกเขา (เราะห์มานและเราะห์มาน, 2000)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถึงหนึ่งในสามของอาหารที่เรากินได้มาจากพืชที่มีทั้งขึ้นอยู่กับหรือ
ได้รับประโยชน์จากการผสมเกสรของแมลง (Oldroyd & Nanork, ๒๐๐๙) โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยผึ้งฮันนี่
(ริชาร์๒๐๐๑) ผึ้งยุโรป, Apis mellifera, เป็นที่มีคุณค่าเศรษฐกิจมากที่สุด
ผสมเกสรของพืชเกษตรทั่วโลก (Conte & Navajas, ๒๐๐๘). อย่างไรก็ตามในพื้นที่ส่วนใหญ่
ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีอุตสาหกรรมการผสมเกสรที่สำคัญ พืชที่มีการผสมเกสรของแมลง
ดังนั้นการพึ่งพาผึ้งป่าอย่างสมบูรณ์โดยเฉพาะผึ้งน้ำผึ้งและผึ้งน้อยสำหรับ
การผสมเกสรของพวกเขา (แมน &, ๒๐๐๐)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในสามของอาหารที่เรากินมาจากการพึ่งพาหรือขึ้นอยู่กับ
ประโยชน์จากการผสมเกสรแมลงโดยเฉพาะผึ้ง
ริชาร์ด 2001 ผึ้งยุโรปเป็นผึ้งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจมากที่สุด
ผู้ผลิตของพืชทั่วโลก อย่างไรก็ตามในพื้นที่ส่วนใหญ่
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีการผสมเกสรอุตสาหกรรมที่ชัดเจน แมลงผสมเกสรพืช
ดังนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับผึ้งป่าโดยเฉพาะผึ้งและผึ้งไร้หนาม
การผสมเกสรของพวกเขา