On February 1, 2016, the World Heal

On February 1, 2016, the World Health Organization (WHO) declared the rapid spread of Zika virus associated with an increase of congenital microcephaly and Guillain-Barré cases, a “public health emergency of international concern” [1]. On April 13, 2016, the Centers for Disease Control and Prevention (CDC) confirmed the link between Zika maternal infection, microcephaly, and other fetal brain defects [2]. Zika virus was discovered in 1947 in Africa as part of the Flavivirus genus but relatively remained obscure until 2015. Initially confined to a few places in Asia and Africa, the Zika virus has now been reported in the Americas and in more than 37 countries or territories [3]. Zika infection is symptomatic in 20% of men and women, with typically mild symptoms of maculopapular rash, fever, joint pain, and conjunctivitis but it may cause diarrhea, dehydration, headache, joint pain, and rarely death. However, the Zika virus has recently been related to transplacental (vertical) transmission to the fetus with ensuing microcephaly and associated with Guillain-Barré syndrome (GBS) [4]. The physiologic, anesthetic, and maternal-fetal concerns are elucidated.

Before 2015, the prevalence of microcephaly in Brazil was approximately 0.5 cases per 10,000 live births. However, in 2015 the number increased dramatically to 20 cases per 10,000 live births [5]. Through intensive epidemiologic investigations, Brazilian authorities concluded that Zika virus was the likely source after amniotic fluid samples confirmed the virus in fetuses born with microcephaly [6]. Areas of Brazil where Zika is prevalent have almost 5 times the rate of microcephaly than do areas without Zika [7]. More recently, Zika virus has garnered notable attention in the United States after a case of microcephaly was linked to Zika virus infection in utero [8]. More than 540 cases of Zika secondary to travel exposure have been reported in 45 states in the United States, one of whom developed GBS.(Fig. 1) Reports of Zika virus in multiple areas around the world after the World Cup in Brazil have inflamed public fears. This includes widespread news commentary about altering the 2016 summer Olympics in Rio de Janeiro, Brazil [9]. The unprecedented spread of this virus has the CDC, WHO, other health organizations, and governments working expeditiously to help deter the spread of Zika virus. Given the broadening global spread and possible physiologic/neurologic effects of the Zika virus, anesthesiologists should become familiar with this new globalized infection. Lessons learned from Zika will be helpful to develop strategies dealing with the next new pathogen as well as staying informed so we can interact with and educate our patients and deal with their concerns.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บน 1 กุมภาพันธ์ 2016 องค์กรสุขภาพโลก (WHO) ได้ประกาศการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของสวทชที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของ microcephaly แต่กำเนิดและกลุ่มอาการกิลแลง-Barré กรณี การ "สาธารณสุขฉุกเฉินความกังวลนานาชาติ" [1] บน 13 เมษายน 2016 ศูนย์ควบคุมโรคและการป้องกัน (CDC) ยืนยันการเชื่อมโยงระหว่างกิ๊บมารดาติดเชื้อ microcephaly และข้อบกพร่องอื่น ๆ ที่สมองทารกในครรภ์ [2] ค้นพบในปี 1947 ในแอฟริกาเป็นส่วนหนึ่งของสกุล Flavivirus แต่ค่อนข้างยังคงคลุมเครือจนถึง 2015 สวทช ตอนแรกจำกัดไปต่าง ๆ ในเอเชียและแอฟริกา ภาคตอนนี้ถูกรายงาน ในอเมริกา และมากกว่า 37 ประเทศหรือดินแดน [3] กิ๊บติดเชื้อมีอาการใน 20% ของผู้ชายและผู้หญิง มีอาการโดยทั่วไปไม่รุนแรงผื่น maculopapular ไข้ ปวดข้อ และแดงแต่ก็อาจทำให้ท้องเสีย ขาดน้ำ ปวดหัว ปวดข้อ และไม่ค่อยตาย อย่างไรก็ตาม ภาคมีเพิ่งรับที่เกี่ยวข้องกับ transplacental (แนวตั้ง) ส่งไปยังทารกในครรภ์กับทวีป microcephaly และเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการกิลแลง-Barré syndrome (GBS) [4] ความกังวลทางสรีรวิทยา ยา และมารดาและทารกในครรภ์จะอธิบายก่อน 2015 ความชุกของ microcephaly ในบราซิลถูกกรณีประมาณ 0.5 ต่อชีพ 10,000 อย่างไรก็ตาม ใน จำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากกรณี 20 ต่อชีพ 10,000 [5] ผ่านแบบเร่งรัดสืบสวน epidemiologic ศาสตร์ฯ ได้ข้อสรุปที่สวทชเป็นต้นแนวโน้มหลังจากตัวอย่างน้ำลายน้ำคร่ำยืนยันไวรัสในทารกในครรภ์เกิดมาพร้อมกับ microcephaly [6] พื้นที่ของบราซิลที่ปลูกเป็นที่แพร่หลายได้เกือบ 5 ครั้งอัตรา microcephaly มากกว่าพื้นที่ที่ไม่ มีกิ๊บ [7] เมื่อเร็ว ๆ นี้ สวทชได้รวบรวมความโดดเด่นสนใจในสหรัฐหลังจากกรณีของ microcephaly ลิงค์ไปติดไวรัสกิ๊บ utero ใน [8] กรณีมากกว่า 540 ของกิ๊บรองเดินทางแสงมีการรายงานใน 45 รัฐในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในผู้พัฒนา GBS (รูปที่ 1) รายงานของสวทชในหลายพื้นที่ทั่วโลกหลังจากฟุตบอลโลกบราซิลมีอักเสบกลัวสาธารณะ นี้มีข่าวแพร่หลายความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงฤดูร้อน 2016 โอลิมปิกในริโอเดอจาเนโร บราซิล [9] การแพร่กระจายเป็นประวัติการณ์ของไวรัสนี้มี CDC ที่ สุขภาพองค์กร และรัฐบาลทำงานฉับไวเพื่อช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของสวทช ได้รับการขยายแพร่กระจายทั่วโลกและผลทางสรีรวิทยาและในยุคที่เป็นไปได้ของภาค anesthesiologists ควรคุ้นเคยกับติดเชื้อโลกานี้ใหม่ เรียนรู้จากการปลูกจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากลยุทธ์การจัดการกับเชื้อโรคใหม่ถัดไป เป็นพักทราบเพื่อให้เราสามารถโต้ตอบ และให้ความรู้แก่ผู้ป่วย และจัดการกับข้อกังวลของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2016 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของไวรัส Zika ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของ microcephaly พิการ แต่กำเนิดและกรณี Guillain-Barre เป็น "ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของความกังวลระหว่างประเทศ" [1] ที่ 13 เมษายน 2016 ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้รับการยืนยันการเชื่อมโยงระหว่างการติดเชื้อ Zika มารดา microcephaly และข้อบกพร่องอื่น ๆ สมองของทารกในครรภ์ [2] ไวรัส Zika ถูกค้นพบในปี 1947 ในทวีปแอฟริกาเป็นส่วนหนึ่งของสกุล Flavivirus แต่ยังคงค่อนข้างคลุมเครือจนในปี 2015 ตอนแรกกักขังอยู่ในสถานที่ไม่กี่ในเอเชียและแอฟริกาไวรัส Zika ขณะนี้ได้รับรายงานในทวีปอเมริกาและในกว่า 37 ประเทศหรือดินแดน [3] การติดเชื้อ Zika อาการใน 20% ของชายและหญิงที่มีอาการมักจะไม่รุนแรงผื่น maculopapular ไข้ปวดข้อและโรคตาแดง แต่มันอาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสีย, ขาดน้ำ, ปวดหัว, ปวดข้อและไม่ค่อยตาย อย่างไรก็ตามไวรัส Zika เพิ่งได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการส่ง transplacental (แนวตั้ง) เพื่อทารกในครรภ์ที่มีต่อมา microcephaly และที่เกี่ยวข้องกับโรค Guillain-Barre (GBS) [4] สรีรวิทยายาชาและความกังวลของมารดาและทารกในครรภ์จะโฮล์ม.

ก่อนปี 2015 ความชุกของ microcephaly ในบราซิลประมาณ 0.5 รายต่อการเกิดมีชีพ 10,000 อย่างไรก็ตามในปี 2015 จำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 20 รายต่อการเกิดมีชีพ 10,000 [5] ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นระบาดวิทยาเจ้าหน้าที่บราซิลได้ข้อสรุปว่าไวรัส Zika เป็นแหล่งแนวโน้มหลังจากตัวอย่างน้ำคร่ำยืนยันไวรัสในทารกเกิดมาพร้อมกับ microcephaly ม [6] พื้นที่ของบราซิลที่ Zika เป็นที่แพร่หลายมีเกือบ 5 เท่าของอัตรา microcephaly กว่าทำพื้นที่โดย Zika [7] เมื่อเร็ว ๆ นี้ไวรัส Zika ได้รวบรวมความสนใจที่โดดเด่นในสหรัฐอเมริกาหลังจากที่กรณีของ microcephaly เชื่อมโยงกับการติดเชื้อไวรัส Zika ในมดลูก [8] มากกว่า 540 กรณีของการ Zika รองในการเดินทางการสัมผัสที่ได้รับรายงานใน 45 รัฐในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการพัฒนา GBS. (รูปที่ 1). รายงานของไวรัส Zika ในหลายพื้นที่ทั่วโลกหลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลโลกในบราซิลมีการอักเสบ ความกลัวของประชาชน ซึ่งรวมถึงความเห็นเกี่ยวกับข่าวที่แพร่หลายเปลี่ยนแปลงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ในริโอเดอจาเนโรประเทศบราซิล [9] การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสประวัติการณ์นี้มี CDC, WHO, องค์กรสุขภาพอื่น ๆ และรัฐบาลทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัส Zika ได้รับการแพร่กระจายทั่วโลกขยายและสรีรวิทยาที่เป็นไปได้ / ผลกระทบทางระบบประสาทของไวรัส Zika วิสัญญีแพทย์ควรจะเป็นที่คุ้นเคยกับการติดเชื้อโลกาภิวัตน์ใหม่นี้ บทเรียนจาก Zika จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากลยุทธ์การจัดการกับเชื้อโรคใหม่ต่อไปเช่นเดียวกับการเข้าพักที่แจ้งเพื่อให้เราสามารถโต้ตอบกับและให้ความรู้ผู้ป่วยของเราและจัดการกับพวกเขากังวล