complexities, the literature identi

complexities, the literature identifies that approximately 66 to 70 percent of ERP implementation projects were reported to
have failed to achieve their implementation objectives in some way [8, 19, 26, 31, 33].
In addition to these concerns, the literature acknowledges that small and medium enterprises (SMEs) might face added
constraints in ERP implementation. Beyond, the ordinary concerns that SMEs have lesser resources, there might be the
added complication that SMEs are more likely to be lacking modern information technology infrastructure and experienced
IT staff, and might have less openness in their attitudes to the perceived usefulness of new technology. These constraints
might cause the ‘average’ SMEs to refrain from adopting an ERP system or, even if they did adopt, the constraints might
increase the probability of implementation failure. For SMEs, it is noted that a failed implementation might generally have
more catastrophic consequences than for a larger organisation, even perhaps leading up to bankruptcy [5].
Given the potentially high cost and low success rate, it is necessary that causes of the problems and high failure rate to be
better understood and through this understanding, solution leading to greater success may be found [7]. As a consequence,
ERP implementation has been a focal point of much academic research. Multiple streams of research exists on the ERP
implementation and critical factors required for its successful implementation as well as impact of ERP on organisational
performance [2, 14, 15]. For example, several studies have identified the critical success factors (CSF) needed to enable
project managers and higher management to improve ERP implementation projects. In addition, to gain the understanding
of the ERP implementation, different models have been proposed [1, 18, 23]. However, most of these models are theoretical
and since the ERP implementation process is a dynamic and real- life process, a practical tool or a method can be ideally
assist in implementation process. One of the methods which have been applied in many industries is simulation modelling.
Since ERP implementation involves investing resources in the form of time, money and manpower, it absolutely make
sense to simulate the ERP implementation process before doing in real life, which in turn can assist in studying the
implementation process, problems can be forecasted, thus potentially saving organisations resources. Therefore this
research, study the role simulation modelling can play in ERP implementation in SMEs, how it can be effectively applied
and basic construct of good simulation model. A qualitative approach is adopted which involves key informant interviews to
further gain insight of the implementation process and simulation modelling.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซับซ้อน วรรณกรรมระบุว่า มีรายงานประมาณ 66 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของโครงการการนำ ERPมีล้มเหลวเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การใช้งานในบางวิธี [8, 19, 26, 31, 33]นอกจากนี้ความกังวล วรรณคดีรับทราบที่ขนาดเล็ก และวิสาหกิจขนาดกลาง (SMEs) อาจหน้าเพิ่มข้อจำกัดในการใช้งาน ERP อื่น ๆ ปกติเกี่ยวว่า SMEs มีทรัพยากรน้อย อาจมีการภาวะแทรกซ้อนเพิ่มว่า SMEs มีแนวโน้มที่จะขาดการสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมากขึ้น และมีประสบการณ์พนักงาน และอาจมีน้อยอย่างยิ่งในทัศนคติการรับรู้ประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่ของพวกเขา ข้อจำกัดเหล่านี้อาจทำให้ SMEs 'เฉลี่ย' ละเว้นจากการใช้ระบบ ERP การ หรือ แม้ว่าพวกเขาไม่ได้รับ ข้อจำกัดอาจเพิ่มความเป็นไปได้ของความล้มเหลวในการดำเนินงาน สำหรับ SMEs มันจะตั้งข้อสังเกตว่า โดยทั่วไปอาจดำเนินการล้มเหลวอย่างรุนแรงต่อกว่าองค์กรขนาดใหญ่ ได้อาจนำไปสู่การล้มละลาย [5]กำหนดค่าใช้จ่ายอาจสูงและอัตราความสำเร็จต่ำ จำเป็นที่สาเหตุของปัญหาและอัตราความล้มเหลวสูงจะดีเข้าใจ และผ่าน ทางนี้การทำความเข้าใจ การแก้ปัญหาที่นำไปสู่ความสำเร็จมากขึ้นอาจพบ [7] ผลใช้ ERP แล้วจุดโฟกัสของงานวิชาการมาก กระแสหลายงานวิจัยที่มีอยู่ในการ ERPดำเนินงานและปัจจัยสำคัญที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จตลอดจนผลกระทบของ ERP organisationalประสิทธิภาพ [2, 14, 15] ตัวอย่าง หลายการศึกษาระบุปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ (CSF) ต้องเปิดใช้งานผู้จัดการโครงการและการจัดการสูงเพื่อปรับปรุงโครงการการนำ ERP นอกจากนี้ เพื่อความเข้าใจได้รับแบบที่แตกต่างของการนำ ERP [1, 18, 23] การนำเสนอ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ของโมเดลเหล่านี้เป็นทฤษฎีและเนื่องจากการใช้งาน ERP กระบวนการแบบไดนามิก และชีวิต วิธีการหรือเครื่องมือปฏิบัติสามารถดาวช่วยในกระบวนการดำเนินงาน วิธีที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลายอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการจำลองแบบจำลองเนื่องจาก ERP ใช้งานเกี่ยวข้องกับการลงทุนทรัพยากรในรูปแบบของเวลา เงิน และกำลังคน มันจริง ๆ ทำให้ความรู้สึกในการจำลองการใช้งาน ERP ก่อนที่จะทำในชีวิตจริง ซึ่งจะสามารถช่วยในการเรียนการกระบวนการดำเนินงาน ปัญหาสามารถจะคาดการณ์ ทำ บันทึกทรัพยากรองค์กรอาจได้ ดังนี้แบบจำลองบทบาทจำลองสามารถเล่นในการใช้ ERP ใน SMEs การศึกษา วิจัยว่ามีประสิทธิภาพใช้และโครงสร้างพื้นฐานของรูปแบบการจำลองดี นำวิธีการเชิงคุณภาพที่เกี่ยวข้องสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลักการเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจในกระบวนการดำเนินงานและการจำลองแบบจำลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความซับซ้อนวรรณกรรมระบุว่าประมาณ 66-70 เปอร์เซ็นต์ของการใช้ ERP
โครงการที่ได้รับรายงานจะมีการล้มเหลวเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การดำเนินงานของพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง[8, 19, 26, 31, 33].
นอกจากความกังวลเหล่านี้วรรณกรรมยอมรับว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
อาจต้องเผชิญกับการเพิ่มข้อจำกัด ในการใช้ ERP Beyond, ความกังวลธรรมดาที่ผู้ประกอบการ SMEs
มีทรัพยากรน้อยมีอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนเสริมว่าผู้ประกอบการSMEs
ที่มีแนวโน้มที่จะขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยและมีประสบการณ์พนักงานไอทีและอาจจะมีการเปิดกว้างน้อยกว่าในทัศนคติของพวกเขาที่จะรับรู้ประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่ ข้อ จำกัด
เหล่านี้อาจก่อให้เกิด'เฉลี่ยผู้ประกอบการ SMEs ที่จะละเว้นจากการใช้ระบบ ERP หรือแม้ว่าพวกเขาจะไม่นำมาใช้ข้อ จำกัด
อาจเพิ่มโอกาสของความล้มเหลวการดำเนินการ สำหรับผู้ประกอบการ SMEs
ก็จะถูกตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินงานที่ล้มเหลวโดยทั่วไปอาจจะมีผลเป็นความหายนะมากกว่าสำหรับองค์กรขนาดใหญ่แม้อาจจะนำไปสู่การล้มละลาย[5].
ได้รับค่าใช้จ่ายสูงที่อาจเกิดขึ้นและอัตราความสำเร็จต่ำก็เป็นสิ่งจำเป็นที่สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นและอัตราความล้มเหลวสูงที่จะได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นและผ่านความเข้าใจนี้วิธีการแก้ปัญหาที่นำไปสู่ความสำเร็จมากขึ้นอาจจะพบได้ [7]
เป็นผลให้การใช้ ERP ได้รับเป็นจุดโฟกัสของการวิจัยทางวิชาการมาก
หลายกระแสของการวิจัยที่มีอยู่บน ERP
เพื่อการดำเนินงานและปัจจัยที่สำคัญที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับผลกระทบของERP
ในองค์กรประสิทธิภาพ[2, 14, 15] ตัวอย่างเช่นการศึกษาหลายแห่งมีการระบุปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญ (CSF)
ที่จำเป็นที่จะช่วยให้ผู้บริหารโครงการและการจัดการที่สูงขึ้นในการปรับปรุงโครงการการใช้ERP นอกจากนี้จะได้รับความเข้าใจของการดำเนินงาน ERP, รูปแบบต่าง ๆ ได้รับการเสนอ [1, 18, ​​23]
แต่ส่วนใหญ่ของรูปแบบเหล่านี้เป็นทฤษฎีและตั้งแต่ขั้นตอนการดำเนินงาน ERP เป็นกระบวนการแบบไดนามิกและชีวิตจริงซึ่งเป็นเครื่องมือหรือวิธีการในทางปฏิบัติสามารถเป็นอย่างยิ่งให้ความช่วยเหลือในการดำเนินการ หนึ่งในวิธีการที่ได้รับนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรมคือการสร้างแบบจำลองการจำลอง. เนื่องจากการใช้ ERP ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนทรัพยากรในรูปแบบของเวลาเงินและกำลังคนก็อย่างที่ทำให้ความรู้สึกที่จะจำลองกระบวนการการใช้ERP ก่อนที่จะทำในชีวิตจริงซึ่งในทางกลับกัน สามารถช่วยในการศึกษาการดำเนินการปัญหาสามารถคาดการณ์จึงอาจประหยัดทรัพยากรองค์กร ดังนั้นนี้การวิจัยการศึกษาการสร้างแบบจำลองการจำลองบทบาทสามารถเล่นในการใช้ ERP ใน SMEs วิธีการที่จะสามารถนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างพื้นฐานของแบบจำลองที่ดี วิธีการเชิงคุณภาพถูกนำมาใช้ที่เกี่ยวข้องกับการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญในการต่อไปได้รับทราบข้อมูลของการดำเนินการและการสร้างแบบจำลองสถานการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความซับซ้อน , วรรณกรรมระบุว่าประมาณ 66 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของโครงการการดำเนินงาน ERP รายงาน

ได้ล้มเหลวที่จะบรรลุเป้าหมายการดำเนินงานของพวกเขาในบางวิธี [ 8 , 19 , 26 , 31 , 33 ] .
นอกจากนี้ความกังวลเหล่านี้ โดยยอมรับว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( SMEs ) อาจเผชิญข้อจำกัดเพิ่ม
ในการดำเนินงาน ERP เกินความกังวลสามัญที่ SMEs มีทรัพยากรน้อย อาจจะมีภาวะแทรกซ้อน
เพิ่มที่ SMEs มีแนวโน้มจะขาดโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยและมีประสบการณ์
พนักงาน และอาจมีการเปิดกว้างน้อยกว่าในทัศนคติการรับรู้ประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่ ข้อจำกัดเหล่านี้
อาจทำให้ SMEs ' เฉลี่ย ' ที่จะละเว้นจากการใช้ระบบ ERP หรือถ้าพวกเขาไม่ได้รับ ปัญหาอาจเพิ่มความน่าจะเป็นของการ
ความล้มเหลว สำหรับ SMEs , มันเป็นข้อสังเกตว่าอาจจะโดยทั่วไปมีการล้มเหลว
ผลรุนแรงมากกว่าสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ แม้บางทีอาจจะนำไปสู่การล้มละลาย [ 5 ] .
ได้รับค่าใช้จ่ายอาจสูงและอัตราความสำเร็จต่ำมันเป็นสิ่งจำเป็นที่สาเหตุของปัญหา และอัตราความล้มเหลวสูงที่จะเข้าใจและความเข้าใจ
ดีกว่านี้ โซลูชั่น ที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อาจจะพบ [ 7 ] ผลที่ตามมา ,
ใช้ ERP ได้รับการจุดโฟกัสของการวิจัยทางวิชาการมากนัก หลายกระแสของการวิจัยอยู่ใน ERP
การดำเนินงานและปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของการประสบความสำเร็จ ตลอดจนผลกระทบของ ERP ในองค์กร
ประสิทธิภาพ [ 2 , 14 , 15 ) ตัวอย่างเช่น การศึกษาหลายแห่งมีการระบุปัจจัยความสำเร็จ ( CSF ) ที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ผู้บริหารโครงการและการจัดการสูงกว่า
เพื่อปรับปรุงการดำเนินโครงการ ERP นอกจากนี้ เพื่อให้ได้รับความเข้าใจ
ของ ERP การใช้งานโมเดลที่แตกต่างกันมีการเสนอ [ 1 , 18 , 23 ) อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ของโมเดลเหล่านี้เป็นทฤษฎี
และเนื่องจากการใช้งาน ERP กระบวนการ คือ กระบวนการของชีวิตแบบไดนามิกและจริง - เครื่องมือการปฏิบัติหรือวิธีการที่สามารถนึกคิด
ช่วยในกระบวนการปฏิบัติ วิธีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท คือ การจำลองแบบ .
เนื่องจากการดำเนินงาน ERP ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในทรัพยากรในรูปแบบของเวลาเงินและกำลังคนก็แน่ใจ
ความรู้สึกเพื่อจำลองการใช้งาน ERP กระบวนการก่อน ทำในชีวิตจริง ซึ่งจะสามารถช่วยในการศึกษา
กระบวนการดำเนินงาน ปัญหา สามารถพยากรณ์ จึงอาจประหยัดองค์กรทรัพยากร ดังนั้นงานวิจัยนี้
,ศึกษาบทบาทการจำลองแบบสามารถเล่นในการใช้งาน ERP ในธุรกิจ SMEs อย่างไรก็สามารถมีประสิทธิภาพใช้
และพื้นฐานสร้างแบบจำลองที่ดี วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นบุตรบุญธรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ

เข้าใจได้รับเพิ่มเติมของการใช้กระบวนการและการจำลองแบบ .