ความเป็นมาของจังหวัดเพชรบูรณ์
จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองโบราณ ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่มีซากป้อม ปราการปรากฏอยู่แสดงว่าเคยเป็นเมืองสำคัญเพราะอยู่ในวงภูเขาล้อมรอบ มีแม่น้ำป่าสักไหลผ่านกลางเมือง เหมาะแก่การป้องกันข้าศึก สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าเป็นเมืองสร้างสมัยสุโขทัย เป็นราชธานี เพราะในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ปัจจุบันมีเจดีย์โบราณในวัดมหาธาตุ สันนิษฐานว่ารุ่นราว คราวเดียวกับสมัยสุโขทัย ในท้องที่อำเภอศรีเทพมีโบราณสถานเก่าแก่ชื่อ เมืองศรีเทพ
จากการค้นพบซากโบราณสถานและจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบในเมืองศรีเทพ ทำให้น่า เชื่อว่าเพชรบูรณ์มีอายุไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ปี และเป็นเมืองที่ขอมสร้างขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกับเมืองพิมาย ลพบุรี และจันทบุรี เพื่อเป็นจุดเผยแพร่วัฒนธรรมของขอมไปสู่อาณาจักรทวาราวดี ปัจจุบันยังมีซากเมือง กำแพงเมือง และพระปรางค์ปรากฏอยู่ในเขตอำเภอศรีเทพ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ ๑๒๐ กิโลเมตร บริเวณที่ตั้งเมืองเป็นที่ราบ มีกำแพงดินสูงรอบเมือง ด้านนอก กำแพงมีคูเมือง ภายในเมืองมีพระปรางค์ ซากเทวสถาน รูปเทพารักษ์ พระนารายณ์ รูปยักษ์สลักด้วยศิลา แลงเช่นเดียวกับเมืองพิมาย ลพบุรี และจันทบุรี จึงเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าเป็นฝีมือของขอมที่ได้รับ อารยธรรมจากอินเดีย
นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานเกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองเพชรบูรณ์อีก เช่น ได้มีการขุดพระเจดีย์องค์ ใหญ่ที่วัดมหาธาตุ ตำบลในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยกรมศิลปากรได้บูรณะซ่อมแซมและนำโบราณวัตถุที่ บรรจุในพระเจดีย์ขึ้นมาด้วย และหลักฐานสำคัญที่พบอย่างหนึ่ง คือ ลานทองจารึก ๓ แผ่นบรรจุในท้องหมูที่ ทำด้วยสัมฤทธิ์ มีข้อความตามอักษรจารึกในแผ่นหนึ่งว่า พระเจ้าเพชรบูรญ์ผู้เป็นลูกพญาอันปรดีสถาแล เขียนเป็นคำปัจจุบันได้ว่า พระเจ้าเพชรบูรณ์ผู้เป็นลูกพระยาอันรง ประดิษฐานไว้ จึงทำให้ทราบว่า เพชรบูรณ์ แต่เดิมนั้นเป็น เพชรบุร
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเมืองเพชรบูรณ์เท่าที่ค้นพบเห็นมีปรากฏชัดเจนในสมัย กรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี (ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ในแผ่นดินสมเด็จพระมหาธรรมราชา และแผ่นดินสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) นอกจากนี้ไม่กล่าวถึงเมืองเพชรบูรณ์อีกเลย จนกระทั่งถึงสมัยกรุง รัตนโกสินทร์ ความปรากฏชัดเจนเมื่อมีการจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลขึ้นในรัชกาลที่ ๕ ได้จัดรวบรวมหัวเมือง เข้าเป็นมณฑล โดยในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้ยกฐานะเมืองเพชรบูรณ์ขึ้นเป็นมณฑลเพชรบูรณ์ ให้ผู้ว่าราชการ เมืองเพชรบูรณ์ดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาล ยกฐานะอำเภอหล่มสักขึ้นเป็นจังหวัดหล่มสัก และแต่งตั้งเจ้า เมืองหล่มสัก ในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ยุบมณฑลเพชรบูรณ์ไปขึ้นมณฑลพิษณุโลก เพราะเห็นว่ามีแต่จะสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่าย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งมณฑลเพชรบูรณ์ขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง จน กระทั่งถึง พ.ศ. ๒๔๘๕ ยุบมณฑลเพชรบูรณ์ไปขึ้นมณฑลพิษณุโลก จึงมีฐานะเป็นเมืองเพชรบูรณ์ตามเดิม และได้มีการยกเลิกมณฑลต่าง ๆ เมื่อได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบราชการบริหารแห่งราช อาณาจักรสยาม พ.ศ. ๒๔๗๖ เป็นต้นมา